พบโควิด-19 “B.1.1.7” การกลายพันธุ์ครั้งใหม่ในอังกฤษ


โดย PPTV Online

เผยแพร่




อังกฤษประกาศพบการกลายพันธุ์ของเชื้อโควิด-19 ซึ่งเชื่อว่าทำให้แพร่กระจายได้ง่ายขึ้น 70%

หลายชาติยุโรปห้ามเที่ยวบินอังกฤษเข้าประเทศ

อังกฤษหวนล็อกดาวน์ โควิดพันธุ์ใหม่แพร่กระจายเร็ว

ประเทศต่าง ๆ เกือบ 40 แห่งทั่วโลก ประกาศห้ามหรือจำกัดการเดินทางจากสหราชอาณาจักร เพื่อยับยั้งการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 ที่กลายพันธุ์ใหม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขระบุว่า สามารถแพร่กระจายได้เร็วกว่าเดิม

โควิด-19 กลายพันธุ์ที่ค้นพบในสหราชอาณาจักร ส่งผลให้ทางการประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ระดับ 4 ในกรุงลอนดอน และพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ตั้งแต่วันเสาร์ (19 ธ.ค.) ที่ผ่านมา และกวดขันชาวอังกฤษทั้งหมดไม่ให้ละเมิดมาตรการในช่วงใกล้เทศกาลส่งท้ายปี

นับตั้งแต่มีการประกาศล็อกดาวน์ หลายประเทศในยุโรป เอเชีย อเมริกาใต้ และตะวันออกกลาง ได้แบนหรือจำกัดการเดินทางจากสหราชอาณาจักร และในบางประเทศห้ามไปถึงประเทศใกล้เคียงกัน

องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ตรวจพบโควิด-19 ที่กลายพันธุ์นี้ในเดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ อิตาลี และออสเตรเลีย และพบโควิด-19 กลายพันธุ์อีกหนึ่งรูปแบบในภูมิภาคแอฟริกาใต้ด้วย

การกลายพันธุ์ของโควิด-19 ในสหราชอาณาจักรนี้ ถูกเรียกว่า VUI-202012/01” หรือ B.1.1.7” ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ยังคงอยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม

แมตต์ แฮนค็อก (Matt Hancock) รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขอังกฤษกล่าวว่า โควิด-19 พันธุ์กลายยังอยู่เหนือการควบคุม ขณะที่นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ได้เป็นประธานการประชุมฉุกเฉินเมื่อวันจันทร์ (21 ธ.ค.) เพื่อหาแนวทางรับมือ

“หมอยง” ยัน โควิด-19 กลายพันธุ์ ไม่ได้ทำให้โรครุนแรงขึ้น

โควิด-19 พันธุ์กลายเกิดขึ้นเพราะโครงสร้างทางพันธุกรรมของไวรัสเปลี่ยนแปลงไป เพราะโดยธรรมชาติของไวรัสทุกชนิดจะกลายพันธุ์เมื่อเวลาผ่านไป

โควิด-19 พันธุ์กลายใหม่นี้มีร่องรอยทางพันธุกรรมเช่นเดียวกับไวรัสอื่น ๆ ทำให้ง่ายต่อการติดตาม กลุ่มที่ปรึกษาการคุกคามของไวรัสระบบทางเดินหายใจใหม่และอุบัติใหม่ของรัฐบาลสหราชอาณาจักร กล่าวว่า มี "ความมั่นใจในระดับปานกลาง" ว่าโควิด-19 พันธุ์กลายนี้ "แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการแพร่เชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับเชื้อโควิดตัวก่อนหน้า"

คริส วิตตี (Chris Whitty) หัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์ของอังกฤษกล่าวว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่ในลอนดอนกว่า 60% ติดเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์นี้ และเชื่อว่ามันมีศักยภาพในการแพร่เชื้อมากกว่าพันธุ์เดิมถึง 70%

WHO ระบุว่า โควิด-19 พันธุ์กลายดังกล่าวเกิดขึ้นครั้งแรกในอังกฤษตะวันออกเฉียงใต้ ช่วงเดือนกันยายน จากนั้นแพร่กระจายในระดับต่ำมากจนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน

มีการวิเคราะห์เบื้องต้น และพบการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ 17 ประการในเชื้อโควิด-19 พันธุ์กลาย VUI-202012/01

หนึ่งในนั้นคือมีการกลายพันธุ์ N501Y ที่เปลี่ยนแปลงโปรตีนหนาม (Spiked Protein) ซึ่งเป็นส่วนของไวรัสที่สัมผัสกับพื้นผิวของเซลล์ในร่างกายของเรา ทำให้ไวรัสสามารถเกาะที่เซลล์ของมนุษย์ได้ง่ายขึ้น การเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่ทำให้ไวรัสเข้าไปในร่างกายได้ง่ายขึ้นมีแนวโน้มที่จะทำให้มันน่ากลัวขึ้น

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองว่า อัตราการติดเชื้อที่สูงขึ้นอาจเกิดจากพฤติกรรมมนุษย์เอง เนื่องจากลอนดอนยังคงใช้มาตรการรับมือโควิด-19 เพียงระดับ 2 ทำให้มีช่องโหว่ที่คนอาจใกล้ชิดกัน

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่โควิด-19 กลายพันธุ์ ก่อนหน้านี้เคยมีโควิด-19 กลายพันธุ์ D614G ในยุโรปช่วงเดือนกุมภาพันธ์ หรืออีกหนึ่งการกลายพันธุ์ที่ชื่อว่า A222V ก็กระจายอยู่ทั่วยุโรป และเชื่อมโยงกับการระบาดช่วงวันหยุดฤดูร้อนในสเปน รวมถึงการกลายพันธุ์ในตัวมิงก์ที่ลบชิ้นส่วน H69/V70 ของโปรตีนหนามออกไป ก็นับเป็นการกลายพันธุ์ของโควิด-19 เช่นกัน

7 ประเทศพบโควิด-19 กลายพันธุ์จากตัวมิงค์

สำหรับวัคซีนโควิด-19 ที่มีการพัฒนาขึ้นมานั้น มีการวิเคราะห์ว่า วัคซีนจะกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันเพื่อรับมือไวรัสอยู่แล้ว ดังนั้นแม้ว่าส่วนหนึ่งของโปรตีนหนามจะกลายพันธุ์ไปแล้ว แต่วัคซีนก็ยังควรใช้งานได้

ศ.ราวี คุปตา (Ravi Gupta) จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ กล่าวว่า “แต่ถ้าเราปล่อยให้โควิด-19 กลายพันธุ์มากขึ้น นั่นอาจเป้นเรื่องที่น่ากังวล ... ไวรัสตัวนี้อาจกำลังอยู่บนเส้นทางที่จะหลบหนีวัคซีนโควิด-19 และการกลายพันธุ์นี้เป็นเพียงบันไดสองสามขั้นแรกเพื่อไปสู่จุดนั้น”

เมื่อไวรัสเปลี่ยนแปลงจนหลบเลี่ยงผลของวัคซีนหรือภูมิคุ้มกันของคนได้ เมื่อนั้นเราก็จะติดเชื้อโควิด-19 ได้อยู่ดี และการกลายพันธุ์ล่าสุดนี้แสดงให้เห็นว่า ไวรัสโควิด-19 ยังคงปรับตัวได้อย่างต่อเนื่อง นั่นจะทำให้โควิด-19 คล้ายกับไข้หวัดใหญ่ซึ่งจำเป็นต้องมีการปรับปรุงวัคซีนเป็นประจำ

ศ.เดวิด โรเบิร์ตสัน (David Robertson) จากมหาวิทยาลัยกลาสโกว์ สรุปว่า "ไวรัสนี้น่าจะสามารถสร้างเชื้อกลายพันธุ์ที่หลบหนีจากวัคซีนได้ในท้ายที่สุดหากเราไม่ทำอะไรเลย"

ปัจจุบัน สหราชอาณาจักร มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นหลัก 30,000 รายต่อวัน ผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมกว่า 2 ล้านราย เสียชีวิตราว 67,700 ราย

อังกฤษพบโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ติดเชื้อแล้วกว่า 1,000 ราย

ประเทศที่แบนการเดินทางจากสหราชอาณาจักร ประกอบด้วย

เอเชีย – ฮ่องกง, อินเดีย, อิหร่าน, อิสราเอล, โอมาน, ปากีสถาน, จอร์แดน, คูเวต, ตุรกี

ยุโรป – เบลเยียม, บัลแกเรีย, สาธารณรัฐเช็ก, เดนมาร์ก, เอสโตเนีย, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี, ลัตเวีย, ลิทัวเนีย, ลักเซมเบิร์ก, เนเธอร์แลนด์, ไอร์แลนด์, โรมาเนีย, รัสเซีย, สเปน, สวีเดน, สวิตเซอร์แลนด์

แอฟริกา – โมรอกโก, ตูนิเซีย

อเมริกาเหนือ – แคนาดา

อเมริกากลาง – เอลซัลวาดอร์

อเมริกาใต้ – อาร์เจนตินา, ชิลี, โคลอมเบีย, เปรู

 

เรียบเรียงจาก BBC / CNN / WHO

ภาพจาก AFP / Getty Image

TOP ต่างประเทศ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ