ส่องมาตรการต่างประเทศแจกเงินเยียวยาโควิด

หนุ่มไทยแชร์ประสบการณ์ สวัสดิการช่วยเหลือจากรบ.สหรัฐฯ ได้แทบทุกคน

นักวิชาการ ชี้รัฐควรให้สวัสดิการทุกคน

ที่ผ่านมารัฐบาลกลางของสหรัฐฯ ได้ออกมาตการกระตุ้นเศรษฐกิจและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในรูปแบบของการแจกเงินให้พลเมืองคนละ 1,200 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 3.6 หมื่นบาท) และล่าสุดเมื่อไม่กี่วันที่มานี้คนที่นั่นก็เพิ่งจะได้รับเงินเพิ่มอีก 600 ดอลลาร์สหรัฐฯ (1.8 หมื่นบาท) และอนาคตก็จะได้รับเงินเพิ่มอีกหลังประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้รับตำแหน่งและเริ่มทำงานอย่างเป็นทางการ

สำหรับผู้ที่ได้รับเยียวยาจากรัฐบาลสหรัฐฯ นั้นต้องเป็นผู้พำนักอย่างถูกต้องตามกฎหมายและมี social security ซึ่งเป็นเอกสารที่บอกรายได้ประจำปีและการชำระภาษี และแทบจะทุกคนที่เป็นพลเมืองของสหรัฐฯ หรือแม้แต่คนที่ถือเพียงแค่กรีนการ์ดแต่ได้ชำระภาษีให้กับรัฐบาลก็จะได้เงินนี้ โดยไม่ต้องลงทะเบียนให้ยุ่งยาก

คุณดรัล ขันชะลี คนไทยในสหรัฐฯ กล่าวว่า “เท่าที่ผมทราบส่วนใหญ่ได้กันทุกคน และไม่ต้องลงทะเบียน ไม่ต้องกรอกแอปพลิเคชั่นอะไรเลย รัฐส่งเงินมาให้เองที่บ้าน สำหรับบางคนก็อาจจะได้เงินเข้าทางบัญชีเลย หรือบางคนอาจจะได้รับเช็คเหมือนอย่างผม ส่วนคนที่ถือกรีนการ์ดก็ได้เงินด้วยเพราะที่นี่คุณมีกรีนการ์ดถือว่ามีเลขเสียภาษีแล้วก็ได้รับทุกคน ก็ขึ้นอยู่กับกฎเกณฑ์ ถ้ารายได้สูงกว่ากำหนดก็จะไม่ได้รับเงิน แต่ถ้าต่ำกว่าก็จะได้รับเงินในส่วนนี้”

นอกจากสหรัฐฯ จะจ่ายเงินเยียวยาให้กับทุกคนทั่วประเทศแล้ว รัฐบาลท้องถิ่นก็ร่วมกับรัฐบาลกลางจ่ายเงินชดเชยให้ “คนตกงาน” ด้วย ซึ่งหมายความว่า คนตกงานในบางรัฐอาจได้เงินช่วยเหลือเพิ่มเติมอีก

ยกตัวอย่างเช่น รัฐแคลิฟอร์เนีย คุณพฤหัส อัญเชนคุณากร คนไทยที่อาศัยอยู่ที่นั่นบอกกับทีมข่าว PPTV ว่า ถ้าคนที่อาศัยอย่างถูกกฎหมายในรัฐแคลิฟอร์เนียตกงานก็จะได้เงินชดเชย 2 ก้อน ซึ่งเป็นเงินเพิ่มเติมจากเงินเยียวยาของรัฐบาลกลางที่ทุกคนต้องได้อยู่แล้ว โดยคนเหล่านี้จะได้รับเงินตั้งแต่ 300 – 700 ดอลลาร์ และได้จากรัฐบาลกลางเพิ่มอีก 600 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ รวมๆแล้วหนึ่งเดือนพวกเขาเหล่านี้อาจได้เงินตั้งแต่ 3,600-5,200 ดอลลาร์สหรัฐฯ

ส่วน “อังกฤษ” ซึ่งเป็นประเทศเผชิญกับการล็อกดาวน์มาแล้ว 3 รอบหลังโควิดระบาดหนัก ที่นั่นก็มีมาตรการจ่ายเงินเยียวยาให้กับพลเมืองของเขาเช่นกัน คุณฐิติพร แค็ปเอธอานาสิส คนไทยในอังกฤษเปิดเผยกับทีมข่าว PPTV ว่า ที่ผ่านมารัฐบาลจ่ายเงินชดเชยให้กับพนักงานที่ถูกพักงานอยู่ที่  80 % ของเงินเดือนที่ได้รับ และจ่ายเงินชดเชยสูงสุดอยู่ที่ 2,500 ปอนด์ต่อเดือน ส่วนบางคนที่ได้ทำงานเว้นวันวัน ในวันที่หยุดรัฐบาลก็จ่ายเงินให้ และสำหรับคนที่มีรายได้น้อยกว่าเกณฑ์ที่รัฐบาลกำหนดก็ต้องตรวจสอบ ซึ่งถ้าเข้าเกณฑ์ของรัฐบาลอังกฤษก็มีเงินสวัสดิการสำหรับคนรายได้น้อย และช่วงนี้ก็มีแจกเงินพิเศษเพิ่มอีก 20 ปอนด์ต่อสัปดาห์ด้วย

ขณะที่มาตรการเยียวยาโควิดในประเทศเพื่อนบ้านของเราอย่าง “มาเลเซีย” รัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อช่วยเหลือธุรกิจต่างๆ และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ถึง 4 ครั้ง รวมวงเงินมากกว่า 2.9 แสนล้านริงกิต ซึ่งงบประมาณก้อนนี้นอกจากจะเอาไปช่วยเหลือด้านธุรกิจแล้ว ยังแบ่งเป็นเงินช่วยประชาชนในภาคส่วนต่าง ๆ เช่น ข้าราชการและข้าราชการเกษียณจะได้รับเงิน 3,700 พันบาท พนักงานเอกชนที่เป็นคนโสดและไม่โสดมีอายุตั้งแต่ 21ปีขึ้นไป และมีรายได้น้อยกว่าหมื่นห้าถึง 6 หมื่นบาท จะได้รับเงินช่วยเหลือตั้งแต่ 3,700 บาทถึงหมื่นสองพันบาท รวมไปถึงนักศึกษา ได้รับเงิน 1,500 บาท  นอกจากแจกเงินแล้วรัฐบาลมาเลเซียยังสั่งห้ามนายจ้างลดเงินของพนักงานที่ได้เงินเดือนต่ำกว่า 4 พันริงกิต (ราว 30,000 บาท) ด้วย

ด้าน “สิงคโปร์” รัฐบาลอัดฉีดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจประมาณ 4 ครั้ง รวมวงเงินหลายหมื่นล้านดอลลาร์สิงคโปร์ โดยรัฐบาลสิงคโปร์ได้แบ่งงบประมาณดังกล่าวไปช่วยบริษัทจ่ายค่าจ้างพนักงานในอุตสาหกรรมต่าง ๆตั้ งแต่ 10%ถึง 50%ของเงินเดือนพนักงาน รวมถึงแจกเงินสดประชาชนทุกคนที่อายุตั้งแต่ 21 ปีขึ้นไป จำนวน 600 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 14,000 บาท

และปิดท้ายที่ “กัมพูชา” ซึ่งถือเป็นประเทศที่มีรายงานผู้ติดเชื้อโควิดไม่มาก ล่าสุดอยู่ที่ 453 คน แต่รัฐบาลได้ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและเยียวยาประชาชนอย่างต่อเนื่องราว ๆ 7 ครั้งเป็นวงเงินอย่างน้อย 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 770 ล้านบาท  โดยรัฐบาลกัมพูชาได้นำงบประมาณแบ่งไปช่วยคนงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และเสื้อผ้าสิ่งทอ คนละ 40 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1,200 บาท เป็นเวลา 3 เดือน รวมถึงจัดสรรเงินช่วยเหลือครอบครัวยากจนและกลุ่มเปราะบางอีกหลายแสนครอบครัวตามค่าครองชีพในพื้นที่ที่ประชาชนพักอาศัยเป็นเวลา 5 เดือน