วารสารวิจัยรัสเซียอ้าง "ค้างคาวในไทย" อาจมีไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) แฝงอยู่
ไทม์ไลน์อนามัยโลกสืบหา “ต้นตอโควิด-19” ปริศนาที่รอวันเฉลย
ดร.สุภาภรณ์ วัชรพฤษาดี รอง ผอ.ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ ให้ความเห็นกรณีที่สำนักข่าวสปุตนิก (Sputnik) ของรัสเซียอ้างผลการศึกษาที่เผยแพร่ในวารสารเนเจอร์ คอมมิวนิเคชันส์ (Nature Communications) เมื่อวันอังคาร (9 ก.พ.) ว่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ถูกพบในเลือดของค้างคาวเกือกม้า 5 ตัว ที่อาศัยอยู่ในถ้ำจำลองของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแห่งหนึ่งของไทย และอาจเป็นต้นตอของโควิด-19 นั้นไม่เป็นความจริง ซึ่งสำนักข่าวน่าจะ "แปลเอกสารผิด"
เพราะมีหลายคำที่แปลออกมาไม่ตรง เช่น ค้างคาวมงกุฎแปลเป็นค้างคาวเกือกม้า ถ้ำธรรมชาติที่นักวิจัยไปเก็บตัวอย่างก็แปลเป็นถ้ำจำลอง เป็นต้น
รวมถึงอาจแปลมาไม่ครบถ้วน เพราะ ไวรัสที่ทีมนักวิจัยพบในค้างคาวไทยนั้น แม้จะมีความใกล้เคียงกับโคโรนาไวรัสถึง 91% แต่ก็เป็นไวรัสที่ไม่สามารถเข้าสู่เซลมนุษย์ได้ ต่างจากค้างคาวของอู่ฮั่นที่มีความใกล้เคียงถึง 96% และสามารถเข้าสู่เซลมนุษย์ได้ด้วย ดังนั้นค้างคาวไทยจึงไม่น่าใช่พาหะของโควิด-19