ในภาวะประชาธิปไตยถูกคุกคาม ครูเมียนมา-ครูฮ่องกง หนึ่งเรียกร้อง หนึ่งลิดรอน
อังกฤษ เปิดให้ชาวฮ่องกงขอวีซ่าพิเศษ ชี้ จีน ละเมิดสนธิสัญญาคืนเกาะ
คุณแม่ในฮ่องกงเตรียมพาลูกย้ายประเทศ หลังระบบการศึกษาถูกจีนครอบงำ
เมื่อวันที่ 5 มี.ค. ผู้บริหารระดับสูงของจีนแผ่นดินใหญ่ได้เปิดเผยว่า มีเพียง “คนที่รักชาติ” เท่านั้นที่จะสามารถปกครองฮ่องกงได้ ขณะที่รัฐบาลปักกิ่งเตรียมเปลี่ยนแปลงระบบการเลือกตั้งของฮ่องกง
โดย หวังเฉิน รองประธานสภาประชาชนแห่งชาติ (NPC) ประกาศว่า จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงระบบเลือกตั้งในฮ่องกง เนื่องจาก “การชุมนุมประท้วง การจลาจล และความปั่นป่วนที่เกิดขึ้นในสังคมฮ่องกงในช่วงที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่า ระบบการเลือกตั้งที่มีอยู่ในปัจจุบันมีช่องโหว่และข้อบกพร่องที่ชัดเจน”
เขาเสริมว่า “ความเสี่ยงในระบบเลือกตั้ง” จำเป็นต้องถูกแก้ไขเพื่อให้แน่ใจว่า มี “คนที่รักชาติ” เป็นคนดูแลฮ่องกง
โดยสภา NPC จะหารือเกี่ยวกับปัญหาการเลือกตั้ง และจะยังไม่มีการเปิดเผยแผนการต่อสาธารณะ แต่สื่อต่างประเทศรายงานว่า ความเปลี่ยนแปลงหนึ่งที่อาจเกิดขึ้นคือ คณะกรรมการการเลือกตั้งที่สนับสนุนรัฐบาลปักกิ่งจะได้รับอำนาจใหม่และครองเสียงข้างมากในรัฐสภาหรือสภานิติบัญญัติ (LegCo)
คาดว่าคณะกรรมการดังกล่าวจะสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้สมัคร LegCo ทุกคนได้ และจะ “เลือกตั้งสมาชิกหลายคนเอง โดยลดจำนวนคนที่ได้รับเลือกจากประชาชนโดยตรง”
ด้าน หลี่เค่อเฉียง ประธานสภา NPC เตือนโลกว่า อย่าเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในฮ่องกง
นักวิจารณ์บางส่วนกล่าวว่า รัฐบาลปักกิ่งกำลังพยายามทำลายระบบ “หนึ่งประเทศสองระบบ” ที่ฮ่องกงทำไว้กับสหราชอาณาจักร โดยภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว ฮ่องกงซึ่งเป็นอดีตอาณานิคมของอังกฤษจะได้รับอนุญาตให้ดำเนินการปกครองตามระบบกฎหมายของตนเอง และมีสิทธิต่าง ๆ รวมถึงเสรีภาพในการพูด และเสรีภาพของสื่อมวลชน
ลอร์ดคริส แพทเทน อดีตผู้ว่าการฮ่องกงกล่าวว่า “พรรคคอมมิวนิสต์ของจีนได้ดำเนินการก้าวใหญ่เพื่อจะลบล้างเสรีภาพและความปรารถนาของฮ่องกงในการสร้างประชาธิปไตย”
ด้านสหภาพยุโรปเรียกร้องให้รัญบาลปักกิ่ง “พิจารณาผลกระทบทางการเมืองและเศรษฐกิจอย่างรอบคอบ เกี่ยวกับการตัดสินใจปฏิรูประบบเลือกตั้งของฮ่องกงที่จะบ่อนทำลายเสรีภาพขั้นพื้นฐาน ความหลากหลายทางการเมือง และหลักการประชาธิปไตย”
ความกลัวที่ว่า “หนึ่งประเทศสองระบบของฮ่องกงจะถูกทำลาย” นำไปสู่การประท้วงเพื่อประชาธิปไตยครั้งใหญ่ในปี 2019 ทำให้รัฐบาลปักกิ่งออกกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งระบุว่าจะจัดการกับผู้ที่ปลุกระดม สร้างความแตกแยก และนำเสถียรภาพกลับคืนมา
วิลลี แลม จากมหาวิทยาลัยจีนแห่งฮ่องกงกล่าวว่า หากแผนการใหม่ของ NPC สำเร็จ พวกเขาจะสามารถ “กำจัดฝ่ายค้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
เรียบเรียงจาก BBC
ภาพจาก AFP