ผู้ศรัทธาหลายพันคนมารวมตัวกันที่เมืองหริทวาระ (Haridwar) เพื่อเข้าร่วมในพิธีกรรมล้างบาปและแสวงบุญ (Shahi Snan) ในแม่น้ำคงคา ช่วงเทศกาลกุมภเมลา ของชาวฮินดู ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ซึ่งมียอดผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นกว่า แสนคนต่อวัน
ชาวฮินดูนับล้าน ลงอาบแม่น้ำคงคา ไม่หวั่นโควิด-19
หน่วยงานที่รับผิดชอบในเทศกาลดังกล่าว ยืนยันว่า จะจัดระเบียบผู้คนที่หลั่งไหลมา และยึดหลักการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด เช่น การสวมใส่หน้ากากอนามัย และ เว้นระยะห่างทางสังคม รวมถึงล้างมือบ่อยครั้ง เทศกาลดังกล่าวจะมีขึ้นตลอดทั้งเดือนและคาดว่าจะมีผู้มาเข้าร่วมพิธี 30-50 ล้านคน โดยเมื่อเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาคาดว่ามีผู้เดินทางมาราว 5 ล้านคน
“เรามีการเตรียมการที่เพียงพอสำหรับผู้มาแสวงบุญ” เจ้าหน้าที่รัฐอินเดีย ระบุ มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 15,000 คนที่ถูกนำไปใช้เพื่อจัดการกับการควบคุมฝูงชน
มีกล้องเซ็นเซอร์ แจ้งเตือนจำนวนรถในพื้นที่จอดรถ หรือการเดินเท้าเข้ามาของผู้คน การตรวจจับผู้ที่ไม่สวมหน้ากากอนามัย แต่อีกมุมหนึ่งกล้องก็สามารถบันทึกภาพได้ว่าคนจำนวนมากฝ่าฝืนกฎการสวมหน้ากากอนามัย
ขณะเดียวกัน ก่อนเข้าสู่เมืองหริทวาระ (Haridwar) ทุกคนที่เข้าร่วมเทศกาลจะต้องลงทะเบียนออนไลน์และแสดงใบรับรองแพทย์เพื่อยืนยันสถานะทางสุขภาพของตนเอง โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางมาจากรัฐที่มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ต้องยืนยันผลตรวจโควิด-19 ที่แสดงผล "ลบ"
เจ้าหน้าที่ตำรวจอินเดีย รายงานว่า มีผู้คนอย่างน้อย 650,000 คนลงไปล้างตัวในแม่น้ำแล้วเมื่อวันจันทร์ และตลอดวันจะมีผู้คนประมาณ 11,000 ถึง 18,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ ริมฝั่งแม่น้ำคงคา
การรวมของคนมหาศาลนี้ ก่อให้เกิดความกังวล ท่ามกลางความพยายามในการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 การรักษาระยะห่างเป็นเรื่องยากมาก เจ้าหน้ารัฐยอมรับ "ถ้าเราพยายามบังคับใช้มันก็อาจทำให้เกิดความโกลาหล ซึ่งเราก็พยายามขอให้ผู้คนสวมหน้ากากและปฏิบัติอย่างเหมาะสมกับสถานการณ์โควิดอย่างต่อเนื่อง"
อย่างไรก็ตาม อินเดียพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 168,912 ราย เมื่อวันจันทร์ (12 เมษายน) สูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง ซึ่งการระบาดระลอก 2 นี้เริ่มต้นขึ้นในเดือนมีนาคม และ แพร่กระจายอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าระลอกแรกเมื่อปีที่แล้วที่มีผู้ติดเชื้อต่อวันที่ 97,000 ราย
สลด! ชาวอินเดียเหยียบกันดับ 27 ราย แย่งกันอาบน้ำล้างบาป
ที่มาภาพ AFP
เรียบเรียงจาก : hindustantimes / CNN