บุรุษผู้เป็นขุมพลังอันแข็งแกร่งของกษัตริย์อังกฤษ


โดย PPTV Online

เผยแพร่




พิธีศพของเจ้าชายฟิลิปจะเกิดขึ้นในวันที่ 17 เมษายนนี้ โดยทางสำนักพระราชวังเน้นย้ำว่าจะจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายที่สุดและป้องกันตามมาตรการโควิด-19 หลังข่าวการสิ้นพระชนม์ มีรายงานว่า สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงรู้สึกว่างเปล่า เหมือนส่วนใดส่วนหนึ่งของชีวิตหายไป เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะเจ้าชายฟิลิปทรงอยู่เคียงข้างและสนับสนุนพระองค์ตลอด 70 ปีที่ผ่านมา

อังกฤษเตรียมยิงสลุตอาลัยเจ้าชายฟิลิป

เจ้าชายฟิลิป สิ้นพระชนม์ สิริพระชนมายุรวม 99 ชันษา

วันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา เมฆหมอกแห่งความหม่นหมองปกคลุมไปทั่วสหราชอาณาจักร ธงชาติถูกลดเหลือครึ่งเสา ช่อดอกไม้หลากสีถูกนำมาวางไว้อาลัยต่อบุรุษผู้ไม่มีวันหวนกลับ

เจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระสิ้นพระชนม์เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 9 เมษายน รายงานจากสำนักพระราชวังให้รายละเอียดเพียงสั้นๆ ว่า พระองค์จากไปอย่างสงบระหว่างพำนักอยู่ที่พระราชวังวินเซอร์

ข่าวการจากไปของเจ้าชายฟิลิป ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ เพราะพระองค์มีพระชนมายุมากถึง 99 พรรษา และก่อนหน้านั้นก็เพิ่งจะเข้ารับการผ่าตัดพระหทัย และต้องพำนักยาวในโรงพยาบาลถึงหนึ่งเดือนเต็ม

การสิ้นพระชนม์ของเจ้าชายฟิลิปไม่มีผลต่อลำดับการสืบราชบัลลังก์ เพราะพระองค์มีสถานะคู่ครองของกษัตริย์

อย่างไรก็ตามในประวัติศาสตร์อังกฤษ ไม่เคยมีคู่ครองกษัตริย์คนใดดำรงตำแหน่งมานานขนาดนี้ และตลอด 73 ปีของการครองคู่ เจ้าชายฟิลิปมีบทบาทสำคัญต่อราชวงศ์

เจ้าชายฟิลิปไม่ใช่คนอังกฤษ พระองค์มียศ “เจ้าชายแห่งกรีซและเดนมาร์ก”

พระองค์เป็นลูกชายคนเดียวของเจ้าฟ้าชายแอนดรูว์แห่งกรีซ มารดาของพระองค์คือเจ้าหญิงอลิซแห่งแบตเทนเบิร์ก

ช่วงเวลาที่พระองค์ประสูติ กรีซกำลังทำสงครามกับตุรกี และความพ่ายแพ้ของกรีซส่งผลให้ พระเจ้าคอนสแตนตินที่ 1 แห่งกรีซ ซึ่งมีสถานะเป็นลุงของพระองค์ถูกบังคับให้สละราชสมบัติ

โดยเชื่อกันว่าในช่วงวิกฤตนั้น เจ้าชายฟิลิปซึ่งยังคงเป็นทารกถูกพาหนีออกนอกประเทศด้วยการซ่อนตัวในลังขนส้ม และพระองค์ถูกส่งไปอยู่กับพระญาติในอังกฤษ

ต่อมากรีซเปลี่ยนการปกครองเป็นสาธารณรัฐ เจ้าชายฟิลิปจึงมีสถานะเสมือนเจ้าไร้แผ่นดิน

ชาติกำเนิดจากต่างชาติ ประกอบกับปูมหลังที่บ้านแตกสาแหรกขาด อีกทั้งยังมีฐานะทางการเงินที่ยากจนกว่าเชื้อเจ้าคนอื่นๆ เหล่านี้ทำให้สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 ผู้เป็นพระราชบิดาของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งขณะนั้นมียศเป็นเจ้าหญิงไม่ยอมรับ

แต่ทั้งสองพระองค์ก็มุ่งมั่นที่จะแต่งงานกัน ในที่สุดปี 1947 พิธีเสกสมรสอย่างยิ่งใหญ่ ก็ถูกจัดขึ้นในมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ มีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์บีบีซี เพื่อให้ ผู้ชม 200 ล้านคนทั่วโลก ได้ติดตามชมอย่างใกล้ชิด

ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ไม่ได้มีผู้ดำรงตำแหน่งพระสวามีของกษัตริย์บ่อยนัก ตามกฎของราชวงศ์อังกฤษ หากกษัตริย์เป็นชาย คู่ครองจะได้ตำแหน่งราชินีไปด้วย แต่หากกษัตริย์เป็นหญิง คู่ครองจะไม่ได้ตำแหน่งใดๆ

พระยศเจ้าชายของพระองค์ได้มาจากการแต่งงานกับสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งขณะนั้นมียศเป็นเจ้าหญิง ส่วนตำแหน่งดยุกแห่งเอดินบะระ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงประทานให้พระสวามีหลังขึ้นครองราชย์

ในช่วงต้นสถานะของพระองค์นำมาซึ่งปัญหา รัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดไว้ว่าพระสวามีของกษัตริย์ต้องทำหน้าที่อะไร และเจ้าชายฟิลิปเองก็หัวรั้นกับข้อห้ามและข้อปฏิบัติมากมาย หนึ่งในนั้นคือการจำใจต้องลาออกจากการเป็นทหารกองทัพเรือ เพื่อดำรงตำแหน่งพระสวามี รวมถึงขัดแย้งกับบรรดาราชสำนัก เมื่อพระองค์ต้องการเปลี่ยนราชวงศ์ไปสู่ความทันสมัย

จนกระทั่งเมื่อพระองค์เริ่มยอมรับได้แล้วว่า ชั่วชีวิตต่อจากนี้พระองค์มีหน้าที่เดียวคือสนับสนุนสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ให้ครองราชย์อย่างยาวนานและผาสุก ฟิลิปผู้อารมณ์ร้อน จึงแปรเปลี่ยนมาเป็นบุรุษผู้สงบนิ่งและมักยืนอยู่ข้างหลังกษัตริย์ แต่ยังคงความโผงผางจนบางครั้งก็เป็นที่วิจารณ์ของสาธารณชน

เจ้าชายฟิลิปทรงเดินตามหลังสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เสมอ และเมื่อมีปฏิสันถารกับผู้คน พระองค์จะตรัสถึงภรรยาของตนว่าสมเด็จพระราชินี

เมื่อออกสู่สาธารณชนเจ้าชายฟิลิปคือที่สอง แต่หากเป็นเรื่องในบ้านพระองค์ยังคงเป็นหัวหน้าครอบครัว และเป็นคนตัดสินใจในเรื่องสำคัญอย่างสถานศึกษาของพระโอรสและพระธิดา

มากกว่านั้นพระองค์ยังเป็นที่ปรึกษาและเป็นผู้แก้ไขวิกฤตที่เกิดขึ้นในราชวงศ์บ่อยครั้ง อย่างกรณีเจ้าหญิงไดอานา มีการเปิดเผยจดหมายหลายฉบับที่เจ้าหญิงทรงเขียนปรึกษาเจ้าชายฟิลิป และพระองค์ให้คำมั่นว่าจะช่วยแก้ไขวิกฤตชีวิตคู่ของทั้งสอง บทบาทนี้ถูกมองว่าเพื่อแบ่งเบาภาระงานของกษัตริย์

7 ทศวรรษของการดำรงตำแหน่ง พระองค์ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสมาชิกราชวงศ์ที่ออกงานมากที่สุด ทรงประกอบพระราชกรณียกิจทั้งในและต่างประเทศกว่า 20,000 ครั้ง และทรงเป็นองค์ประธานของโครงการการกุศลหลายร้อยโครงการ

ชาวอังกฤษไม่ได้เห็นการแสดงออกซึ่งความรักระหว่างเจ้าชายฟิลิปและสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 มากนัก

จนกระทั่งในปี 1997 ระหว่างงานฉลองวันครบรอบอภิเษกสมรสปีที่ 50 สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงกล่าวถึงเจ้าชายฟิลิปว่า พระองค์ทรงเป็นขุมพลังอันแข็งแกร่งและเป็นที่ยึดมั่นให้แก่พระองค์ตลอดหลายปีของการครองราชย์ที่ผ่านมา

นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมหลังการสิ้นพระชนม์ของเจ้าชายฟิลิป สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 จึงตรัสว่า ขณะนี้พระองค์กำลังเผชิญกับความว่างเปล่าครั้งใหญ่ในชีวิต

7 ทศวรรษของเจ้าชายฟิลิปในฐานะพระสวามี พระองค์ทรงงานมากมาย แต่งานที่สำคัญที่สุดคือ การสนับสนุนภรรยาที่มีสถานะเป็นกษัตริย์ของตน

ไม่ง่ายสำหรับบุรุษผู้แข็งแกร่งและเปี่ยมไปด้วยพลังในการสร้างสรรค์ที่จะยอมรับว่าตนต้องเป็นรองภรรยาตลอดชีวิต แต่พระองค์พิสูจน์ให้เห็นว่าทำได้ และเสียความเป็นตัวเองไปให้น้อยที่สุดด้วยการคงไว้ซึ่งอารมณ์ขันและการวิพากษ์วิจารณ์อย่างตรงไปตรงมา นั่นทำให้ผู้คนจดจำเรื่องราวของพระองค์แตกต่างกันไป

แต่มีสิ่งหนึ่งที่ผู้คนเห็นตรงกัน กษัตริย์ของพวกเขาครองราชย์มานานจวบจนวันนี้ได้ ส่วนหนึ่งก็เพราะขุมพลังอันยิ่งใหญ่จากบุรุษที่ถวายกายและใจให้พระองค์

TOP ต่างประเทศ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ