"ฟิเดล คาสโตร" อดีตประธานาธิบดีคิวบา ถึงแก่อสัญกรรม ด้วยวัย 90 ปี (คลิป)
จับตาคิวบา เลือกผู้นำนอกตระกูลคาสโตรคนแรกในรอบ 60 ปี
คิวบาคือหนึ่งใน 5 ประเทศของโลกที่ยังคงขับเคลื่อนด้วยพรรคคอมมิวนิสต์ อีก 4 ประเทศได้แก่ จีน เกาหลีเหนือ เวียดนาม และลาว
เช่นเดียวกับเกาหลีเหนือ ตำแหน่งสูงสุดไม่ใช่ประธานาธิบดี แต่คือเลขาธิการพรรค มิเกล ดิอัช-กาเนลขึ้นมาสู่จุดสูงสุดนี้ได้ เพราะราอูลและสมาชิกพรรคเลือกเขา แบบเดียวกับที่ก่อนหน้านั้นฟิเดลเลือกราอูลในปี 2011
10 ปีที่ราอูล ผู้เป็นน้องชายดำรงตำแหน่งผู้นำ และอีก 46 ปีที่ฟิเดล ผู้เป็นพี่ชายขับเคลื่อนประเทศ ตระกูลคาสโตรคือโฉมหน้าของคิวบา
เส้นทางของฟิเดล คาสโตรเริ่มขึ้นในทศวรรษ 1960 ในเวลาที่คิวบามีผู้นำชื่อ ฟุลเกนซิโอ บาติสตา ซึ่งเป็นเผด็จการทหาร รวมถึงยังตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของสหรัฐฯ ในฐานะแหล่งผลิตน้ำตาลให้พญาอินทรี
ฟิเดลในวัยหนุ่มที่ฝักใฝ่สังคมนิยมก่อการปฏิวัติยึดอำนาจผู้นำ ขับไล่อิทธิพลสหรัฐฯ หันไปผูกมิตรกับโซเวียต
คิวบาโฉมใหม่ในรูปแบบสังคมนิยมจึงถือกำเนิดขึ้น ภายใต้การนำของฟิเดล คิวบารุ่งโรจน์และร่วงโรย ในช่วงแรกประเทศเล็กๆ กลายเป็นแดนในฝันเมื่อสวัสดิการรัฐช่วยให้ทุกคนเข้าถึงทุกอย่างฟรี ชาวคิวบามีกินมีใช้ เข้าถึงการศึกษาและการรักษาพยาบาลด้วยเงินสนับสนุนจากโซเวียต
คิวบาผงาดขึ้นเป็นหนึ่งในภูมิภาค โดดเด่นด้านระบบสาธารณสุขที่ดีที่สุดความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเมื่อโซเวียตถดถอย เมืองอันสดใสจมดิ่งสู่ความหมองหม่น สวัสดิการร่อยหรอ ความยากจนพุ่งทะยาน
ช่วงทศวรรษ 1970 ชาวคิวบาหลายหมื่นคนหนีออกนอกประเทศ สหรัฐฯ ส่งเรือมารับหวังสร้างชื่อว่ากอบกู้คนคิวบาจากชาติเผด็จการ
คิวบาเผชิญกับปรากฏการณ์สมองไหล ซ้ำด้วยการล่มสลายของโซเวียต ในที่สุดฟิเดลแก้ปัญหาเศรษฐกิจด้วยการทำในสิ่งที่ขัดต่ออุดมการณ์คือเปิดประเทศเพื่อการท่องเที่ยว
ในฐานะไม่กี่ชาติสุดท้ายที่ยังคงกลิ่นอายยุคสงครามเย็น มนตร์เสน่ห์ของคิวบาดึงดูดผู้คน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวอเมริกัน การเปิดประเทศนำมาสู่ความเปลี่ยนแปลงด้านอื่น พร้อมๆ กับการเข้ามาถึงของอินเตอร์เน็ตที่ช่วยเปิดโลก
แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงคือ พรรคคอมมิวนิสต์ 25 พฤศจิกายน ปี 2016 บุรุษผู้ยิ่งใหญ่แห่งคิวบาเสียชีวิต ราอูล ผู้เป็นน้องชายขึ้นดำรงตำแหน่งแทนฟิเดล
แต่อยู่ในอำนาจได้เพียง 2 ปี ผู้นำชราก็ประกาศวางมือ แต่งตั้ง มิเกล ดิอัช-กาเนล ขึ้นเป็นผู้สืบทอด ไม่มีใครล่วงรู้ความคิดของราอูล คิวบาในขณะนั้นกำลังถูกสหรัฐฯ ที่นำโดยโดนัลด์ ทรัมป์ คว่ำบาตรอย่างหนัก รวมไปถึงเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอย ผลกระทบจากวิกฤตน้ำมันเวเนซุเอลา เหล่านี้อาจเป็นเหตุผลให้ตระกูลคาสโตรตัดสินใจวางมือ
มรดกที่ มิเกล ดิอัช-กาเนล รับต่อมาจากราอูลนั้นเต็มไปด้วยความท้าทาย คิวบายุคใหม่กำลังเผชิญความแตกแยกระหว่างวัย สำหรับคนรุ่นใหม่ในคิวบาที่อายุต่ำกว่า 40 ปี พวกเขาเกิดไม่ทันยุคที่ประเทศรุ่งเรือง มองไม่เห็นความจำเป็นของระบอบสังคมนิยม คนกลุ่มนี้ต้องการปฏิรูปการเมือง และเปิดให้คิวบามีเสรีภาพมากขึ้น การมาของ มิเกล ดิอัช-กาเนล จึงเป็นที่คาดหวัง
แต่กับคนรุ่นเก่า พวกเขายังศรัทธาในคาสโตร จำนวนมากมองว่าการเข้ามาของผู้นำคนใหม่อาจไม่เปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก ตราบใดที่ราอูลยังมีชีวิต เขายังคงกุมบังเหียนอยู่ฉากหลัง แบบเดียวกับที่ฟิเดลทำแม้ถ่ายโอนอำนาจให้ราอูลแล้ว
ด้านผู้นำคนใหม่ระบุในสุนทรพจน์แรกแล้วว่า ตัวเขาจะยังคงสานต่อนโยบายของสองพี่น้องคาสโตร สะท้อนว่าอนาคตของคิวบายังคงขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของราอูล
กระนั้นสิ่งที่คนคิวบาสองรุ่นเห็นตรงกันคือปัญหาเศรษฐกิจที่ชอกช้ำจากโควิด-19 นักท่องเที่ยวหดหาย คนว่างงานมีมากถึง 1 ใน 3 ค่าครองชีพพุ่งทะยาน
นี่คือสิ่งแรกที่ต้องได้รับการแก้ไข เพราะในเมื่ออนาคตของคิวบาขึ้นอยู่กับพรรคคอมมิวนิสต์ อนาคตของพรรคก็ขึ้นอยู่กับสวัสดิภาพประชาชนเช่นกัน
ไม่มีอีกแล้วภัยจากชาติตะวันตก หรือสงครามทุนนิยม วันนี้มีเพียงการต่อสู้เพื่อปากท้อง สู้เพื่อให้รอดจากโรคระบาด
ท่ามกลางความท้าทายที่ถาโถม ในฐานะไม่กี่ประเทศที่ยังคงเป็นสังคมนิยม คิวบาต้องพยายามอย่างหนักเพื่อคงไว้ซึ่งมรดกของคาสโตร