ดร.สือเจิ้งลี่ นักวิทยาศาสตร์หญิงชาวจีนจากสถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่น (WIV) ซึ่งตกเป็นศูนย์กลางข่าวลือว่าการระบาดของไวรัสโควิด-19 รั่วไหลจากห้องปฏิบัติการเฉพาะทางของเธอ ได้ปฏิเสธว่า สถาบันของเธอไม่ควรถูกตำหนิว่าเป็นต้นตอภัยพิบัติด้านสุขภาพทั่วโลก
“ฉันจะเอาหลักฐานมาให้ดูได้ยังไงในเมื่อมันไม่มีหลักฐาน ... ฉันไม่รู้ว่าโลกมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร พากันโยนของเสียเข้ามาใส่นักวิทยาศาสตร์ผู้บริสุทธิ์อย่างต่อเนื่อง” ดร.สือให้สัมภาษณ์กับสื่อของสหรัฐฯ ซึ่งปรากฏให้เห็นไม่บ่อยครั้งนักนับแต่มีการระบาด
ไบเดนสั่งหน่วยข่าวกรอง หาต้นตอโควิด-19 ให้เจอใน 90 วัน
จีนปฏิเสธเสียงแข็ง ไม่มีนักวิจัยแล็บอู่ฮั่นเข้าโรงพยาบาล
ข่าวกรองสหรัฐฯ พบข้อมูลใหม่ ปลุกกระแสทฤษฎีโควิด-19 มาจากจีน
ดร.สือเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสโคโรนาในค้างคาว และนักวิทยาศาสตร์บางคนกล่าวว่า เธออาจเป็นผู้นำในการทดลองเพิ่มประสิทธิภาพเชื้อไวรัส เพื่อศึกษาผลกระทบของเชื้อต่อโฮสต์ให้ดียิ่งขึ้น
เมื่อปี 2017 ดร.สือและทีมงานของเธอที่ห้องปฏิบัติการแล็บหอู่ฮั่นได้ตีพิมพ์รายงานเกี่ยวกับ “การทดลองสร้างไวรัสโคโรนาค้างคาวลูกผสมใหม่ โดยผสมและจับคู่ไวรัสต่าง ๆ ที่มีอยู่หลายชนิด รวมถึงชนิดที่เกือบแพร่เชื้อสู่มนุษย์ เพื่อทำการศึกษาความสามารถในการแพร่เชื้อและจำลองตัวเองในเซลล์ของมนุษย์”
แต่ ดร.สือได้ส่งอีเมลถึงสื่อสหรัฐฯ ว่า การทดลองของเธอแตกต่างจากการทดลองเพื่อเพิ่มศักยภาพไวรัส พวกเขาพยายามทำความเข้าใจว่าไวรัสสามารถแพร่ข้ามสายพันธุ์ได้อย่างไร ไม่ใช่การพยายามทำให้ไวรัสอันตรายขึ้น
“ห้องปฏิบัติการของฉันไม่เคยดำเนินการหรือให้ความร่วมมือในการทดลองที่เพิ่มความรุนแรงของไวรัส” เธอกล่าว
เมื่อเดือนที่แล้ว ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้สั่งให้หน่วยข่าวกรองตรวจสอบต้นตอของเชื้อโควิด-19 ซึ่งมีทฤษฎีโควิด-19 รั่วไหลจากห้องปฏิบัติการเป็นหนึ่งในสมมติฐานหลัก
เรียบเรียงจาก CNA
ภาพจาก AFP