สหรัฐฯ เตือนเลี่ยงเดินทางมาไทย เสี่ยงโควิด


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐฯ เตือนพลเมืองเลี่ยงเดินทางมาประเทศไทย รวมถึงอิสราเอล และฝรั่งเศส หลังยอดโควิดพุ่งสูง

CDC สหรัฐฯ ยกระดับคำเตือนการเดินทางมายังประเทศไทย จากระดับ 3 เป็นระดับ 4 ซึ่งเป็นขั้นสูงสุด หมายถึงไม่ควรเดินทางไป จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก  แต่หากจำเป็นต้องเดินทาง ให้ฉีดวัคซีนโควิดให้ครบ 2 โดส

นอกจากประเทศไทยแล้ว ยังมีอีกหลายประเทศที่ถูกเพิ่มในรายชื่ิอประเทศที่ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางเช่นกัน อาทิ อิสราเอล ฝรั่งเศส และไอซ์แลนด์

ตำรวจกรุงลอนดอนปะทะม็อบ ประเดิมปลดล็อกดาวน์วันแรก

สหรัฐฯ พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 พันธุ์บราซิล "P.1" รายแรก

แจกฟรี!!! วัดออกซิเจนปลายนิ้วสำหรับผู้ป่วยโควิด จำกัด 100 ชุด

ส่วนสถานการณ์โควิดในสหรัฐฯ ก็หนักไม่แพ้กัน ยอดติดเชื้อเฉลี่ย 1 แสนคนต่อวัน สูงสุดในรอบ 6 เดือน จำนวนผู้ติดเชื้อที่ป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาลพุ่ง 40% โดยเฉพาะรัฐฟลอริดา ที่ตัวเลขทุบสถิติ 8 วันติด ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตพุ่ง 18% จากสัปดาห์ก่อนหน้า

อย่างไรก็ตาม จำนวนคนฉีดวัคซีนครบโดสที่ติดเชื้อและต้องเข้าโรงพยาบาลยังน้อยกว่า 0.005% และคนฉีดวัคซีนครบโดสที่เสียชีวิตจากโควิดยังน้อยกว่า 0.001%

ส่วนที่ฝรั่งเศส เมื่อวานนี้ (9 ส.ค.) เริ่มบังคับใช้กฎหมายใหม่ที่กำหนดให้ประชาชนต้องแสดงบัตรผ่านสุขภาพ ก่อนเข้าสถานที่สาธารณะ เช่น ร้านอาหาร คาเฟ่ โรงภาพยนตร์ และก่อนเดินทางระยะไกลทั้งทางรถไฟและเครื่องบิน แม้จะเจอกระแสคัดค้านอย่างหนักจากประชาชน โดยบัตรผ่านสุขภาพจะมีลักษณะเป็น QR Code แสดงสถานะการฉีดวัคซีนโควิด  ผลตรวจหาเชื้อที่เป็นลบ หรือหลักฐานว่าหายป่วยโควิดแล้ว ส่วนผู้ที่ไม่สามารถฉีดวัคซีนด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ สามารถยื่นเรื่องขอเอกสารรับรองได้เช่นกัน

WHO ยอมรับเป็นสูตรแรก สลับฉีดวัคซีนโควิด-19 แอสตร้าฯ ต่อด้วยไฟเซอร์

บรรดาผู้ประกอบการร้านอาหารระบุว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเช็คลูกค้าทุกคน และจำเป็นต้องปฏิเสธลูกค้าจำนวนมากที่ไม่มีบัตรผ่าน แต่เชื่อว่ามาตรการนี้จะช่วยให้พนักงานในร้านปลอดภัยขึ้น

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจในกรุงปารีส ออกตระเวนตามย่านที่มีร้านอาหารและคาเฟ่ เพื่อสุ่มขอดูบัตรผ่านสุขภาพจากลูกค้าในร้าน เพื่อให้มั่นใจว่าทุกฝ่ายปฏิบัติตามกฎหมาย

ขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊กขององค์การอนามัยโลก (WHO) โพสต์ข้อความอัปเดตเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 โดยระบุว่า สามารถใช้วัคซีน mRNA ของไฟเซอร์หรือโมเดอร์นาเป็นเข็มที่ 2 หลังฉีดวัคซีนเข็มแรกของแอสตร้าเซนเนก้า ได้ในบางกรณี เช่น วัคซีนมีจำกัด

WHO อธิบายเพิ่มเติมว่า ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างวิจัยว่า สามารถผสมวัคซีนโควิด-19 ชนิดต่างๆ ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพหรือไม่ แต่ข้อมูลใหม่ที่มีชี้ว่า การฉีดแอสตร้าเซนเนก้าตามด้วยไฟเซอร์ หรือโมเดอร์นา มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

ขั้นตอนลงทะเบียน พม. เปิดช่องทางออนไลน์ให้ประชาชน ยื่นขอรับเงินช่วยเหลือ

TOP ต่างประเทศ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ