ภารกิจอพยพพลเมืองต่างชาติออกจากอัฟกานิสถานยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง หลังกองทัพสหรัฐฯ เข้าควบคุมดูแลและจัดระบบภายในสนามบินนานาชาติฮามิดคาไซ
แต่สถานการณ์ภายนอกสนามบินกลับยังเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย หลังสมาชิกกลุ่มตาลีบันที่ตั้งด่านตามถนนโดยรอบ พยายามขัดขวางไม่ให้ชาวอัฟกันเดินทางไปถึงสนามบิน แม้แต่ผู้ที่มีเอกสารยืนยันว่าจำเป็นต้องเดินทาง ก็ยังผ่านด่านตรวจออกมาได้อย่างยากลำบาก
เที่ยวบินอพยพนักการทูต-พลเมืองจากสนามบินคาบูลทำการอีกครั้ง
เหตุวุ่นวายที่สนามบินกรุงคาบูล มีผู้เสียชีวิต 7 ราย
“ไบเดน” ยันคิดถูก ถอนทัพจากอัฟกานิสถาน-ยอมรับ "ตาลีบัน" ยึดเร็วกว่าคาด
มีรายงานว่ากลุ่มตาลีบันยิงปืนขึ้นฟ้าและทุบตีผู้คนที่อยู่ด้านนอกสนามบิน ซึ่งเจ้าหน้าที่ของตาลีบัน ยอมรับว่ามีการยิงปืนขึ้นฟ้าจริงเพื่อควบคุมฝูงชน แต่ไม่ได้มีเจตนาทำร้ายใคร
ทั้งนี้ นับตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา มีรายงานผู้เสียชีวิตทั้งในและโดยรอบสนามบินแล้วอย่างน้อย 12 คน ส่วนใหญ่ถูกยิงและเหยียบกันเอง
ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ กล่าวว่า กองกำลังสหรัฐฯ อาจจำเป็นต้องประจำการอยู่ในอัฟกานิสถานจนกว่าภารกิจอพยพชาวอเมริกันจะเสร็จสิ้น แม้ปฏิบัติการดังกล่าวจะเกินกำหนดถอนกำลังทหารชุดสุดท้ายออกภายในวันที่ 31 สิงหาคมนี้ก็ตาม
ขณะที่องค์การบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ หรือ FAA ไฟเขียวให้สายการบินเชิงพาณิชย์ในประเทศ รวมถึงนักบินพลเรือน สามารถทำการบินเข้าไปในกรุงคาบูล เพื่อสนับสนุนภารกิจอพยพพลเมืองอเมริกันกลับประเทศได้ หลังจากก่อนหน้านี้ใช้แค่เครื่องบินทางทหารเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ทางสายการบินยังต้องยื่นเรื่องขออนุญาตจากกระทรวงต่างประเทศและกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ก่อนขึ้นทำการบินทุกครั้ง
ข้อมูลจากทำเนียบขาวชี้ว่า ขณะนี้ สหรัฐฯ สามารถอพยพคนออกมาจากอัฟกานิสถานได้แล้วกว่า 6,000 คน
ดราม่า นศ.อังกฤษลุยเดี่ยวเที่ยวอัฟกานิสถาน ได้อพยพกลับประเทศ
ขณะเดียวกัน ที่อังกฤษกำลังมีกระแสดราม่าวิพากษ์วิจารณ์ "ไมล์ส เราต์เลดจ์" (Miles Routledge) นักศึกษาหนุ่มวัย 21 ปี จากเมืองเบอร์มิงแฮม ที่ตัดสินใจลุยเดี่ยวไปท่องเที่ยวช่วงวันหยุดที่อัฟกานิสถาน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งที่มีคำเตือนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางจากรัฐบาลอังกฤษ
ตลอดเวลาที่อยู่ในอัฟกานิสถาน นักศึกษาหนุ่มโพสต์ภาพและคลิปวิดีโอลงโซเชียล เพื่ออัปเดตชีวิตของตนเอง พร้อมบอกถึงสาเหตุที่เลือกไปอัฟกานิสถาน เพราะชอบการท่องเที่ยวที่เสี่ยงอันตราย และไม่รู้สึกเสียใจเลยที่ตัดสินใจไป
ล่าสุด เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ไมล์สโพสต์ลงโซเชียลว่า ตนเองและชาวอังกฤษคนอื่นๆ ได้รับความช่วยเหลือจากกระทรวงกลาโหมอังกฤษ และอยู่ในรายชื่อผู้ที่ได้รับการอพยพออกจากกรุงคาบูลแล้ว
รวมถึงมีการโพสต์คลิปของตนเองขณะอยู่บนเครื่องบินของกองทัพอากาศอังกฤษ พร้อมข้อความว่า "แฮปปี้ เอ็นดิ้ง ถึงดูไบแล้ว ขอบคุณทหารที่ยอดเยี่ยมของกองทัพอังกฤษ ทุกคนปลอดภัยดี"
เรื่องราวของไมล์สถูกพูดถึงอย่างมากในโลกออนไลน์ หลายคนตั้งคำถามถึงการตัดสินใจเดินทางไปอัฟกานิสถานของเขา ทั้งที่รัฐบาลออกคำเตือนหลายครั้งในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
ชาวเน็ตต่อว่าไมล์สว่า "เห็นแก่ตัว" บ้างก็มองว่า ควรปล่อยให้อยู่ในอัฟกานิสถาน ไม่ควรมาแย่งที่นั่งบนเครื่อง ซึ่งควรเป็นของเด็กและผู้หญิง รวมถึงชาวอัฟกันที่ทำงานเป็นล่ามให้กองทัพอังกฤษ