รองผู้ว่าฯจาการ์ตา เผยเมืองหลวงมีภูมิคุ้มกันหมู่แล้ว


โดย PPTV Online

เผยแพร่




อีกประเทศในอาเซียนที่บ่งชี้ว่าได้ผ่านพ้นจุดสูงสุดของการระบาดมาแล้วก็คือ อินโดนีเซีย เพราะล่าสุดจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่และจำนวนผู้เสียชีวิตน้อยลงมาก เมื่อเทียบกับยอดของเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ล่าสุดโจโก วิโดโด ผู้นำอินโดนีเซียระกาศผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ในหลายเมืองที่สถานการณ์ดีขึ้น รวมถึงกรุงจาการ์ตา ที่ทางรองผู้ว่าการออกมาระบุว่าสามารถสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้แล้ว จากความคืบหน้าของการฉีดวัคซีน อย่างไรก็ตามนักระบาดวิทยาชี้ว่า ยังเร็วเกินไปที่จะกล่าวแบบนั้น

สถานการณ์โควิดในอินโดนีเซียกำลังดีขึ้น พิจารณาจากกราฟของผู้ติดเชื้อใหม่ที่ลดลงมาก จุดสูงสุดของการระบาดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา อินโดนีเซียพบผู้ติเชื้อใหม่รายวันสูงถึง 56,757 ราย

ข้ามมาหนึ่งเดือน วันที่ 15 สิงหาคม ผู้ติดเชื้อใหม่ลดเหลือ 20,813 ราย หรือน้อยกว่าครึ่งหนึ่ง และยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลล่าสุดของเมื่อวานนี้ วันที่ 23 สิงหาคม อินโดนีเซียพบผู้ติดเชื้อใหม่เพียง 9,604 ราย เท่านั้น

อินโดฯ เริ่มคลายล็อกดาวน์ - "จาการ์ตา" อ้างมี "ภูมิคุ้มกันหมู่" แล้ว

สำรวจสถานการณ์โควิด-19 ประเทศในอาเซียน

เป็นครั้งแรกในการระบาดระลอกนี้ที่ยอดผู้ติดเชื้อใหม่น้อยกว่า 10,000 ราย ด้านยอดผู้เสียชีวิตก็ลดลงเรื่อยๆ เช่นกัน จากที่เคยเสียชีวิตกัน 1,800 - 2,000 รายต่อวันเมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคม ล่าสุดข้อมูลผู้เสียชีวิตรายวันของวันที่ 23 สิงหาคม พบเพียง 842 ราย นับเป็นครั้งแรกที่ยอดผู้เสียชีวิตน้อยกว่า 1,000 เช่นกัน

สถานการณ์ที่ดีขึ้นทำให้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา อาห์หมัด ไรเซีย ปาเตีย รองผู้ว่าการกรุงจาการ์ตาออกมาสร้างความฮือฮาด้วยการประกาศว่า เมืองหลวงของอินโดนีเซียสามารถสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้แล้ว

โดยระบุว่า ภูมิคุ้มกันหมู่เกิดขึ้นจากการฉีดวัคซีน โดยในกรุงจาการ์ตาเมืองเดียว มีสัดส่วนผู้ที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้วร้อยละ 54 จากประชากรทั้งหมด แต่หากเทียบทั้งประเทศ สัดส่วนประชากรอินโดนีเซียที่ได้รับวัคซีนครบโดสจะมีเพียงร้อยละ 11 เท่านั้น

อย่างไรก็ตามการประกาศดังกล่าวถูกนักระบาดวิทยาวิจารณ์  ปันดู ริโอโน นักระบาดวิทยาจากมหาวิทยาลัยอินโดนีเซียชี้ว่า ท่านรองผู้ว่าฯ น่าจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับภูมิคุ้มกันหมู่ เพราะอันที่จริงต้องมีสัดส่วนคนที่ได้รับวัคซีนครบสองโดสมากกว่าร้อยละ 70 ขึ้นไป

ทำไมอินโดนีเซียเล็งฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้คนวัยทำงานก่อนผู้สูงอายุ?

รวมถึงต้องดูคุณภาพของวัคซีนด้วย โดยชี้ว่า การที่อินโดนีเซียฉีดซิโนแวคเป็นหลักนั้น ต่อให้ฉีดวัคซีนครบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ภูมิคุ้มกันหมู่ก็จะน้อยกว่าร้อยละ 80 อยู่ดี เนื่องจากตัววัคซีนหลักนั้นมีประสิทธิภาพการป้องกันเพียงร้อยละ 51-55

อย่างไรก็ตาม แม้ในมุมของนักระบาดวิทยาอินโดนีเซียจะยังไม่เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ขึ้นจริง แต่อย่างน้อยสถานการณ์ที่ดีขึ้นก็มีข่าวดีให้ภาคธุรกิจ

ล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ในการแถลงของโจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซียระบุว่า เตรียมเปิดร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า และศาสนสถานอีกครั้ง ในพื้นที่สีเขียว ซึ่งมีการระบาดน้อยลง หนึ่งในเมืองดังกล่าวคือ กรุงจาการ์ตา

โดยให้เริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ แต่มีเงื่อนไขว่า ร้านอาหารและศาสนสถานต้องควบคุมผู้ที่มาใช้บริการไม่ให้เกินร้อยละ 25 ของจำนวนที่รับได้ ส่วนห้างสรรพสินค้าให้ผู้ใช้บริการไม่เกินร้อยละ 50 ของจำนวนที่รับได้

ส่วนบนพื้นที่ที่ยังคงมีการระบาดสูง อย่างเกาะสุมาตรา จังหวัดกาลิมันตันในเกาะบอร์เนียว และเกาะสุลาเวสีจะยังคงบังคับใช้มาตรการควบคุมต่อไป ทั้งนี้รัฐบาลจะประเมินสถานการณ์ใหม่อีกครั้งในสัปดาห์หน้า

นอกจากนั้นประธานาธิบดีอินโดนีเซียยังได้ประกาศลดราคาการตรวจโควิดแบบ PCR Test ลง เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนเข้ารับการตรวจเพิ่มมากขึ้น

โดยจากเดิมที่การตรวจมีราคาสูงสุดราว 2,000 บาท จะปรับลงให้ไม่เกิน 1,200 บาท และเน้นย้ำให้ผลการตรวจควรถึงมือผู้เข้ารับการตรวจภายใน 24 ชั่วโมง

ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น หลังที่ผ่านมาในช่วงการระบาดระลอกใหม่นี้ มีเสียงวิจารณ์จากประชาชนว่าค่าตรวจโควิดแพงเกินไป

TOP ต่างประเทศ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ