อนามัยโลก เตรียมส่งทีมไปจีน หาต้นตอโควิด-19 อีกครั้ง


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ภายหลังมีข่าวว่า จีนเตรียมส่งตัวอย่างเลือดจากธนาคารเลือดในนครอู่ฮั่นไปตรวจสอบ หวังจะได้รับเบาะแสเพิ่มเติมเกี่ยวกับต้นกำเนิดของโควิด-19 ล่าสุด องค์การอนามัยโลก เผยมีแผนที่จะส่งทีมผู้เชี่ยวชาญไปที่จีนอีกครั้งเช่นกัน ย้ำอาจเป็นโอกาสสุดท้ายในการทราบว่าโควิด-19 อุบัติขึ้นมาได้อย่างไร

WHO อนุมัติฉุกเฉินแล้ว วัคซีนโควิด-19 แอสตร้าเซเนก้า "ล็อตผลิตในไทย"

ส่องดีลแต่ละประเทศซื้อ "ยาโมลนูพิราเวียร์" ต้านโควิด-19 รวมไทยลุ้นมาทันเปิดประเทศ?

เมื่อวันที่ 13 ต.ค. ที่ผ่านมา องค์การอนามัยโลก (WHO) แถลงว่าเตรียมส่งคณะผู้เชี่ยวชาญจำนวน 26 คน เข้าไปยังจีนอีกครั้ง เพื่อตรวจสอบหาต้นตอของโควิด-19  รวมถึงศึกษาวิจัยเกี่ยวกับเชื้อโรคใหม่ ๆ เพื่อป้องกันวิกฤตการระบาดในอนาคต โดยระบุว่า สาเหตุที่ตั้งคณะทำงานพิเศษ เพื่อเข้าไปยังจีนอีกครั้ง เนื่องจากในการสืบสวนครั้งที่แล้ว ผลสรุปที่ได้ยังขาดข้อมูลหลายอย่าง

ด้านไมเคิล ไรอัน ผู้อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก ย้ำว่า นี่อาจเป็นโอกาสสุดท้ายในการหาคำตอบว่า โควิด-19 อุบัติขึ้นได้อย่างไร

 

โควิด-19 เริ่มระบาดในอู่ฮั่นช่วงเดือนธันวาคม ปี 2019 ก่อนจะแพร่กระจายไปทั่วโลก จนถึงปัจจุบันเป็นเวลาเกือบ 2 ปีแล้ว แต่นักวิทยาศาสตร์ยังคงไม่ทราบว่า โควิด-19 มาจากไหน มาจากธรรมชาติ หรือมาจากห้องปฏิบัติการ ซึ่งในการหาคำตอบ ที่ผ่านมาประเด็นโควิด-19 ถูกเชื่อมโยงกับการเมืองและชาตินิยม ท่ามกลางกระแสแอนตี้ชาวเอเชียที่เกิดขึ้นจากโควิด-19 จีนถูกกล่าวหาว่าปิดบังข้อมูล ขณะที่องค์การอนามัยโลกก็ถูกกล่าวหาว่าเอนเอียงปกป้องจีน

โดยในแผนการลงพื้นที่สืบสวนหาต้นตอโควิดครั้งใหม่ ทางอนามัยโลกเน้นย้ำว่า นี่คืองานที่เป็นวิทยาศาสตร์อย่างแท้จริง ไม่มีการเมืองมาเกี่ยวข้อง และยังเรียกร้องให้รัฐบาลจีนให้ความร่วมมือ

 

คำประกาศขององค์การอนามัยโลกเกิดขึ้นหลังล่าสุดจีนเพิ่งออกมาบอกว่า เตรียมจะตรวจสอบตัวอย่างเลือดจากธนาคารเลือดจำนวน 200,000 ตัวอย่าง ในเมืองอู่ฮั่น ใหม่ที่สุดคือตัวอย่างในปี 2019 ที่เก็บไว้ก่อนเกิดการระบาด และคาดว่าอาจให้เบาะแสเกี่ยวกับต้นตอของโควิด-19  ในรายชื่อผู้เชี่ยวชาญจำนวน 26 คน ที่อนามัยโลกเตรียมส่งลงพื้นที่ในจีน มีอยู่ 6 คนที่เคยเข้าไปสืบสวนหาต้นตอโควิดในจีนมาแล้วเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา

หลังการลงพื้นที่ ช่วงปลายเดือนมีนาคม องค์การอนามัยโลกเผยแพร่รายงานระบุว่า มีสัญญาณการระบาดในเมืองอู่ฮั่นจริง และมีความเป็นไปได้ที่ไวรัสอาจแพร่กระจายจากค้างคาวมาสู่มนุษย์ จากนั้นจึงเกิดการติดต่อจากมนุษย์สู่มนุษย์อีกที ส่วนทฤษฎีไวรัสหลุดจากห้องแล็บ ทางอนามัยโลกชี้ว่ามีความเป็นไปได้น้อยมาก

ข้อสรุปหลังการลงพื้นที่ของอนามัยโลกชี้ว่า มีแนวโน้มอย่างมากที่โควิด-19 จะอุบัติขึ้นจากธรรมชาติ แต่ถึงกระนั้น ประเด็นโควิดหลุดจากห้องแล็บก็ยังไม่ถูกตัดออกไป

 

ปี 10 เดือนกับโควิด ยังไม่มีคำตอบว่าไวรัสมาจากไหน

ปัจจุบันทฤษฎีนี้ยังไม่ถูกปัดตก เนื่องจากทฤษฎีที่ว่าโควิดเกิดขึ้นจากธรรมชาติยังคงไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจน และประเด็นนี้มีน้ำหนักมากขึ้นเมื่อประธานาธิบดีโจ ไบเดน ก็ออกคำสั่งให้หน่วยข่าวกรองค้นหาเรื่องนี้เพิ่มเติม

การสืบสวนกินเวลา 90 วัน หน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ พบอะไร? พวกเขาได้ข้อสรุปที่เห็นต่างกัน โดยฝ่ายหนึ่งเชื่อว่า โควิดมาจากธรรมชาติ ส่วนอีกฝ่ายเชื่อว่า โควิดอาจหลุดมาจากห้องปฏิบัติการโดยบังเอิญ แล้วแพร่ระบาด นั่นหมายความว่า ทั้งอนามัยโลกและหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ยังคงไม่ได้ข้อสรุปชัดเจน

ย้อนไปเมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีข้อมูลสนับสนุนทฤษฎีโควิดหลุดจากห้องปฏิบัติการออกมาเพิ่มเติม ข้อมูลดังกล่าวเป็นเอกสาร PDF จากกองค์กรอิสระ EcoHealth Alliance องค์กรนี้ได้รับเงินจากหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐ 460 ล้านบาท และเมื่อปี 2018 เงินถูกส่งต่อให้กับองค์กรที่ชื่อ DARPA เพื่อทำการศึกษาเกี่ยวกับแนวโน้มภัยคุกคามจากไวรัสในอนาคต ในเอกสารระบุว่า ส่วนหนึ่งของการศึกษาพฤติกรรมไวรัสคือ การตัดแต่งพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโคโรนาเพื่อให้คุกคามเซลล์ของมนุษย์ได้ง่ายขึ้น จำลองสถานการณ์ว่า ถ้าเกิดขึ้นจริงจะมีวิธีการรักษาหรือป้องกันอย่างไร ซึ่งหลังเอกสารดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกมา มีนักระบาดวิทยาบางคนชี้ว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่ไวรัสจากการทดลองนี้จะหลุดออกมา และส่งผลให้ทฤษฎีโควิดจากมนุษย์ยังไม่สามารถปัดตกได้

 

เหล่านี้คือความคืบหน้าของการตามหาต้นตอโควิด-19 ที่เรารู้ และยังไม่อาจทราบได้ว่าต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหนจึงจะได้คำตอบ และเช่นเดียวกับทฤษฎีที่เสียงผู้สนับสนุนแตกเป็น 2 ฝั่ง  การระบาดของโควิด-19 เองได้สร้างความแตกแยกในสังคม ไม่เพียงแต่ประชาชนทั่วไป หากยังรวมถึงบรรดานักวิทยาศาสตร์

ล่าสุดผลสำรวจจากวารสาร Nature พบว่า ในการระบาดหลายระลอกที่ผ่านมามีนักวิทยาศาสตร์มากมายถูกขู่ฆ่าเพราะออกมาเตือนเรื่องโควิด

 

นักวิทยาศาสตร์จำนวนหนึ่ง ถูกคุกคามจากคนเห็นต่าง

 ผลสำรวจจากกลุ่มตัวอย่างนักวิทยาศาสตร์จำนวน 321 ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับโควิด-19 มีราว 1 ใน 5 ระบุว่า พวกเขาเคยถูกขู่ฆ่า ตลอดจนถูกคุกคามทางเพศ จากการที่ตนออกมาให้ข้อมูล หรือเตือนประชาชนในการป้องกันตัวจากโควิด-19 ในจำนวนนี้มี 6 คนระบุว่า พวกเขาเคยถูกทำร้ายร่างกายมาแล้ว จากการที่ตนเองให้ข้อมูลโควิด-19 ผ่านสื่อ

ศาสตราจารย์แอนดริว ฮิลล์ จากมหาวิทยาลัยลิเวอร์พูล ตัวเขาให้ข้อมูลเกี่ยวกับยาที่ใช้ในการต้านเชื้อโควิด แต่ต่อมาพบว่า ตนถูกขู่ฆ่าบนโลกออนไลน์ รวมถึงมีผู้คนส่งภาพตุ๊กตาวูดู ภาพสมาชิกนาซีที่ถูกแขวนคอ ไปจนถึงภาพโลงศพมาให้

ไม่ใช่แค่โควิด-19 แต่ยังรวมถึงประเด็นการสวมใส่หน้ากากอนามัย และการฉีดวัคซีนด้วยเช่นกัน ที่มีรายงานว่า นักวิทยาศาสตร์ที่ออกมาพูดเกี่ยวกับประเด็นเหล่านี้ มักถูกกลุ่มคนที่ต่อต้านคุกคาม

TOP ต่างประเทศ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ