อังกฤษ ยอดติดโควิดพุ่งอีกครั้ง วันเดียวเกือบ 5 หมื่นราย นักวิเคราะห์ชี้ภูมิลดหลังฉีดวัคซีน


โดย PPTV Online

เผยแพร่




สหราชอาณาจักร เคยเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของโควิด-19 แต่หลังโครงการฉีดวัคซีนคืบหน้ารวดเร็ว จำนวนผู้ติดเชื้อก็ลดลงมากจนสามารถกลับมาเปิดเมืองใช้ชีวิตแทบจะปกติได้อีกครั้ง แต่ล่าสุดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ยอดผู้ติดเชื้อใหม่กลับเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้งจาก และขณะนี้รัฐบาลกำลังมองหาแผนรับรอง เพื่อรับมือกับการระบาดในฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง

โควิด-19 “เดลตา” ในอังกฤษกลายพันธุ์ ผู้เชี่ยวชาญชี้ ไม่ใช่สาเหตุยอดติดเชื้อสูงขึ้น

องค์การอนามัยโลก เตรียมกำหนดราคายาต้านโควิดให้ถูกที่สุด

ยอดผู้ติดเชื้อใหม่ในสหราชอาณาจักรกำลังเพิ่มขึ้นอย่างน่ากังวลจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาสูงถึง 49,018 คน ถือเป็นจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันที่มากที่สุดในรอบ 3 เดือน  สหราชอาณาจักรมียอดผู้ติดเชื้อใหม่สูงเกิน 4 หมื่นรายต่อวันแบบนี้มานานเกือบสัปดาห์แล้ว ส่วนยอดผู้เสียชีวิตก็สูงเช่นกัน โดยข้อมูลจากเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา หรือเมื่อวานนี้มียอดผู้เสียชีวิตรายวัน 223 คน ถือเป็นจำนวนผู้เสียชีวิตในรอบ 24 ชั่วโมง มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม

เหตุผลมีหลายปัจจัย หนึ่งคือการผ่อนปรนมาตรการเพื่อเปิดเมืองให้ผู้คนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ สหราชอาณาจักรเปิดเมืองเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา ในตอนนั้นรัฐบาลประกาศผ่อนปรนมาตรการควบคุมต่าง ๆ ผับ บาร์ ร้านอาหาร ไนท์คลับกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง อันที่จริงในทางเทคนิค ผู้คนถูกขอให้สวมใส่หน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ แต่ในทางปฏิบัติผู้คนมักไม่ค่อยทำตามกัน และรัฐก็ไม่ได้ใส่ใจควบคุมมากนัก

 

ฉีดวัคซีนเด็กได้ช้า-ภูมิคุ้มกันลด ปัจจัยระบาดรอบใหม่

รายงานชี้ว่าอัตราการฉีดวัคซีนในกลุ่มประชากรอายุต่ำกว่า 18 ปี กำลังชะลอตัวลง โดยปัจจุบันจำนวนประชากรกลุ่มนี้ที่ได้รับวัคซีนโดสแรกมีเพียงร้อยละ 15 เท่านั้น รวมถึงจำนวนประชากรที่เข้ารับวัคซีนบูสเตอร์โดสก็น้อยกว่าที่คิด สหราชอาณาจักรกำหนดให้ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบสองเข็มสามารถเข้ารับวัคซีนเข็มที่ 3 ได้ โดยสงวนช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมาไว้สำหรับบูสเข็มที่ 3 ให้กับกลุ่มประชากรที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป

แต่สถิติชี้ว่า ในจำนวนคนที่มีสิทธิรับวัคซีนเข็มที่ 3 ทั้งหมดราว 6.5 ล้านคน มีเพียง 3.6 ล้านคนเท่านั้นที่เข้ารับ ยังมีปัจจัยเสริมด้วย เช่น ภูมิคุ้มกันที่ลดลงของวัคซีน ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อได้รับวัคซีนไปแล้วเป็นเวลานาน

โดยจุดนี้นักวิเคราะห์มองว่า เพราะสหราชอาณาจักรเป็นประเทศแรก ๆ ที่เริ่มฉีดวัคซีนให้ประชาชน ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันลดลงก่อนประเทศอื่น รวมถึงการใช้วัคซีนแอสตร้าเซเนก้า เป็นหลักก็มีส่วน ซึ่งรายงานจาก Public Health England ชี้ว่า วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้ามีประสิทธิภาพป้องกันการติดเชื้อลงลงจากร้อยละ 66.7 เป็นร้อยละ 47 หลังผ่านไป 20 สัปดาห์ เทียบกับไฟเซอร์ลดลงเช่นกันแต่ไม่มากเท่า โดยลงจากร้อยละ 90 เหลือร้อยละ 70

 

มีข้อสังเกตว่า การระบาดที่กลับมารุนแรงอีกครั้งเกิดขึ้นจากเชื้อไวรัสกลายพันธุ์หรือไม่?

การระบาดระลอกล่าสุดในช่วงกลางปี สหราชอาณาจักรเผชิญกับเชื้อเดลตา ที่ระบาดได้เร็วขึ้น ในรอบนี้มีรายงานว่าผู้ติดเชื้อจำนวนหนึ่งติดเชื้อเดลตาพลัส หรือที่เรียกว่า AY.4.2

อย่างไรก็ตาม สัดส่วนของผู้ที่ติดเชื้อไวรัสเดลตาพลัสยังมีน้อยมาก มีเพียงร้อยละ 6 เท่านั้นจากผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งหมด ขณะนี้จึงเชื่อกันว่า ไวรัสกลายพันธุ์ไม่ใช่ปัจจัยที่ทำให้เกิดการระบาดรอบใหม่

AY.4.2 กลายพันธุ์ที่ตำแหน่งพันธุกรรม A222V และ Y145H คาดว่าอาจเพิ่มความสามารถในการแพร่ระบาดราวร้อยละ 10-15 แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่า เชื้อโควิดตัวนี้กำลังสั่นคลอนระบบสาธารณสุขของสหราชอาณาจักร รวมถึงสถานะของมันก็ยังไม่เข้าข่าย สายพันธุ์ที่น่ากังวล

นอกจากพบในสหราชอาณาจักรแล้ว โควิด AY.4.2 ยังถูกพบในเดนมาร์ก แต่พบเพียงร้อยละ 2 เท่านั้นของผู้ติดเชื้อใหม่ รวมถึงพบในอิสราเอล เป็นประเทศล่าสุด

 

รัฐบาลอังกฤษเตรียมแผนรับมือโควิด ช่วงฤดูหนาวที่จะถึง

ขณะนี้รัฐบาลสหราชอาณาจักรกำลังจับตาไวรัสตัวใหม่ รวมถึงเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างเต็มที่  อีกหนึ่งความกังวลมาจากการที่ฤดูหนาวกำลังจะมาถึง ซึ่งจะเอื้อให้เชื้อไวรัสโควิด รวมถึงเชื้อไวรัสอื่น ๆ ระบาดได้รวดเร็วขึ้น

แผนรับมือสำหรับฤดูหนาวนี้ แผนแรกคือแผน A โดยระบุว่า รัฐบาลจะฉีดบูสเตอร์โดสให้กับประชากรเพิ่มอีก 30 ล้านคน โดยในจำนวนนี้ครอบคลุมผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี ผู้ใหญ่ที่มีโรคประจำตัว บุคลากรทางการแพทย์แนวหน้า และผู้ที่ทำงานด้านสังคม

นอกจากนั้นยังรวมถึง ตั้งเป้าฉีดวัคซีนเข็มแรกให้เด็กอายุ 12-15 ปี และยังคงเปิดศูนย์ตรวจโควิดฟรีต่อไป และรณรงค์ให้ผู้คนเข้ารับวัคซีนต้านไข้หวัดใหญ่ฟรีก่อนฤดูหนาวนี้ รวมถึงรณรงค์ให้ผู้คนสวมหน้ากากอนามัยในที่ที่มีคนหนาแน่น อีกแผนคือแผน B ที่รัฐบาลระบุว่า อาจต้องใช้ หากผู้ติดเชื้อใหม่ยังคงเพิ่มสูงขึ้น หรือแผน A ไม่สามารถช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นได้

ในแผนครอบคลุมตั้งแต่ กำหนดให้สวมหน้ากากอนามัยในบางสถานที่ ซึ่งหากฝ่าฝืนจะมีผลทางกฎหมาย ขอให้ประชาชนทำงานจากที่บ้าน กำหนดการตรวจสอบวัคซีนพาสปอร์ตก่อนเข้าสถานที่กรือรับบริการต่าง ๆ รวมถึงรณรงค์ให้ประชาชนระมัดระวังตัวมากขึ้น

อย่างไรก็ตามแม้ยอดผู้ติดเชื้อจะกลับมาเพิ่มสูง แต่การระบาดระลอกใหม่นี้มีจุดที่น่าสังเกตว่า จำนวนผู้ป่วยหนักไม่มากเท่าครั้งก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรที่มาก

ปัจจุบัน จำนวนคนสหราชอาณาจักรที่ได้รับวัคซีนเข็มแรกแล้วมี 49 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 73.5 ส่วนจำนวนคนที่ได้รับวัคซีนครบสองเข็มมี 45 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 67.5

TOP ต่างประเทศ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ