เกาหลีเหนือ ทดสอบขีปนาวุธยิงจากเรือดำน้ำ ตกทะเลญี่ปุ่น


โดย PPTV Online

เผยแพร่




สื่อของทางการเกาหลีเหนือยืนยันว่า เกาหลีเหนือทดสอบยิงขีปนาวุธอีกครั้ง โดยยิงไปตกในทะเลญี่ปุ่น ท่ามกลางความพยายามของหลายฝ่ายที่อยากจะรื้อฟื้นการเจรจากับเกาหลีเหนือ

เกาหลีใต้ชี้เกาหลีเหนือใช้เรือดำน้ำยิงขีปนาวุธ

ทหารเกาหลีเหนือโชว์ความแกร่งเหนือมนุษย์

เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2564 ช่วงเช้าที่ผ่านมา สำนักข่าวเคซีเอ็นเอ ของทางการเกาหลีเหนือรายงานว่า เกาหลีเหนือประสบความสำเร็จในการทดสอบการยิงขีปนาวุธจากเรือดำน้ำ “8.24 ยอนกัง”  การประกาศดังกล่าวของสื่อทางการเกาหลีเหนือมีขึ้น หลังจากเมื่อวานนี้กองทัพเกาหลีใต้ออกมาระบุว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้อีกครั้ง และคาดว่าเป็น ขีปนาวุธยิงจากเรือดำน้ำหรือ SLBM

รายละเอียดระบุว่า ขีปนาวุธถูกยิงมาจากเขตชินโพ ซึ่งเชื่อว่าเป็นจุดที่เรือดำน้ำจอดอยู่ โดยขีปนาวุธลูกดังกล่าวเดินทางไปไกลราว 450 กิโลเมตร ด้วยความสูง ณ จุดสูงสุดที่ 60 กิโลเมตรจากพื้นดิน ก่อนจะไปตกในทะเลตะวันออก หรือทะเลญี่ปุ่น

ทั้งนี้เกาหลีเหนือเคยทดสอบขีปนาวุธที่ยิงจากเรือดำน้ำจากจุดเดียวกันนี้มาแล้วเมื่อปี 2016 แต่นักวิเคราะห์สังเกตุว่า การทดสอบคราวนี้ ขีปนาวุธดูเหมือนมีเทคโนโลยีการควบคุมทิศทางที่ล้ำหน้าขึ้นมาก และเป็นไปได้ว่า เกาหลีเหนือเข้าใกล้ความสำเร็จในการยิงขีปนาวุธจากเรือดำน้ำมากขึ้น

นอกจากนั้นนักวิเคราะห์ยังมองว่า จากภาพถ่ายที่ปรากฏออกมา ขีปนาวุธลูกล่าสุดมีลักษณะเล็ก และเพรียวกว่าขีปนาวุธแบบ SLBM ลูกก่อน ๆ  นั่นหมายความว่าอาวุธอาจถูกออกแบบมาเพื่อจัดเก็บในเรือดำน้ำโดยเฉพาะ

นับเป็นครั้งที่แปดของปีนี้แล้วที่เกาหลีเหนือทดสอบยิงขีปนาวุธครั้งใหญ่ ในจำนวนดังกล่าวเป็นการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป และขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงหรือไฮเปอร์โซนิก ซึ่งเป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรจากนานาประเทศ แต่การทดสอบครั้งล่าสุดน่าสนใจ เพราะเป็นการทดสอบจากเรือดำน้ำ โดยเกาหลีเหนือเคยทำการทดสอบขีปนาวุธจากเรือดำน้ำมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2016 ขีปนาวุธที่ยิงจากเรือดำน้ำต่างจากการทดสอบขีปนาวุธอย่างอื่นอย่างไร และเป็นอันตรายหรือภัยคุกคามมากกว่าหรือไม่?

เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา เกาหลีใต้ก็เพิ่งจะประสบความสำเร็จในการทดสอบยิงขีปนาวุธจากเรือดำน้ำเช่นกัน ต่างจากฐานยิงทั่วไป การยิงขีปนาวุธจากเรือดำน้ำมีข้อได้เปรียบตรงที่ ยากจะตรวจจับ และในกรณีของเกาหลีเหนือ การยิงขีปนาวุธจากวัตถุที่เคลื่อนที่ได้แบบนี้ ช่วยขยายของเขตในการยิงจากเดิมที่จำกัดอยู่แค่ในคาบสมุทรเกาหลี แต่หากยิงจากเรือดำน้ำ นั่นหมายความว่า พวกเขาอาจยิงจากที่ไหนก็ได้

ยังไม่ชัดเจนว่าเกาหลีเหนือมีเรือดำน้ำในครอบครองจำนวนเท่าไหร่  แต่รายงานจากสำนักข่าว AP คาดว่า มีอยู่ราว 70-90 ลำ โดยทั้งหมดเป็นเรือดำน้ำพลังงานดีเซล และส่วนใหญ่มีศักยภาพเพียงแค่ยิงตอร์ปิโด และทุ่นระเบิด

ในจำนวนนี้อาจมีเรือดำน้ำเพียงลำเดียวที่สามารถยิงขีปนาวุธได้ และคาดกันว่าในการทดสอบยิงขีปนาวุธจากเรือดำน้ำเมื่อปี 2016 และครั้งล่าสุด อาจเป็นเรือลำเดียวกล่าว และจากการสังเกต เรือดังกล่าวน่าจะมีท่อยิงขีปนาวุธติดตั้งอยู่เพียงท่อเดียวเท่านั้น

ญี่ปุ่นยกระดับเตือนภัย ภูเขาไฟ "อาโสะ" แห่งคุมาโมโตะ ปะทุ

อย่างไรก็ตามย้อนไปในปี 2019 เกาหลีเหนือเคยเปิดตัวเรือดำน้ำขนาด 2,000 ตัน ที่ประกอบด้วยท่อยิงขีปนาวุธหลายท่อ แต่ยังไม่ชัดเจนว่าเรือลำนี้ได้ถูกนำไปทดสอบหรือใช้งานจริงแล้วหรือไม่

ด้านศักยภาพของขีปนาวุธ เป็นที่น่าสังเกตว่า ศักยภาพด้านขีปนาวุธของเกาหลีเหนือพัฒนาไปมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 1984 ในสมัยของคิม อิล ซ็อง ในภาพรวมตั้งแต่ปี 1984 จนถึงปัจจุบัน ทดสอบไปแล้วมากกว่า 150 ครั้ง แต่มากกว่าครึ่งหนึ่งเกิดหลังปี 2011 เป็นต้นมา หรือในสมัยของคิม จอง อึน ผู้นำคนปัจจุบัน

จากแผนภาพนี้จะเห็นพัฒนาการของประสิทธิภาพอาวุธเกาหลีเหนือ  โดยในช่วงแรก ๆ ปี 1964 - 1998 ขีปนาวุธส่วนใหญ่ที่ทดสอบเป็นขีปนาวุธพิสัยใกล้ และ พิสัยกลาง ปี 2003 เกาหลีเหนือเริ่มทดสอบขีปนาวุธแบบร่อน  จากนั้นในปี 2006 ก็ทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปเป็นครั้งแรก  และนับตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา ไม่เคยมีปีไหนที่เกาหลีเหนือไม่ทดสอบอาวุธ เว้นเพียงปีเดียวคือ 2018 ซึ่งในเวลานั้น เกาหลีเหนือกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาลดอาวุธนิวเคลียร์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์  ส่วนขีปนาวุธแบบ IRBM หรือ ขีปนาวุธนำวิถีพิสัยกลางกึ่งสูง เพิ่งเริ่มทดสอบในปี 2016

ในบรรดาอาวุธที่เกาหลีเหนือทดสอบทั้งหมด คาดกันว่าขีปนาวุธที่น่ากลัวที่สุดในปัจจุบันคือ ฮวาซอง 15 ขีปนาวุธข้ามทวีปที่มีพิสัยไกลถึง 13,000 กิโลเมตร  และเป็นขีปนาวุธที่สามารถเดินทางไกลถึงสหรัฐฯ ตัวแรกที่เกาหลีเหนือสร้างขึ้น ศักยภาพรองลงมาคือ ฮวาซอง 14 และ 12 ที่มีระยะการยิงราว 10,400 กิโลเมตร และ 4,500 กิโลเมตรตามลำดับ

ส่วนศักยภาพของขีปนาวุธที่ยิงจากเรือดำน้ำ หรือ SLBM ยังคงเป็นขีปนาวุธพิสัยใกล้  แต่จากรายงานล่าสุดบ่งชี้ว่า แม้จะเป็นพิสัยใกล้ แต่เกาหลีเหนือได้ปรับแต่งให้มีเทคโนโลยีในการควบคุมที่ล้ำสมัยมากขึ้น และเคลื่อนที่ได้คล่องตัวมากขึ้น

โดยรายงานจาก คิม ดง ยูบ อดีตทหารเรือเกาหลีใต้ที่ผันตัวมาเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยกังนัมชี้ว่า ขีปนาวุธลูกล่าสุดอาจเป็นขีปนาวุธ KN-23 ที่อัพเกรดขึ้น  หนึ่งในฟังก์ชันที่อัพเกรดคาดว่า คือ ความสามารถในการร่อน ซึ่งจะช่วยให้ขีปนาวุธหลบหลีกการตรวจจับได้มากยิ่งขึ้น

เมียนมาเพิ่มข้อหาจับสมาชิกพรรค NLD ทันทีหลังมอบตัว | 20 ต.ค. 64 | รอบโลก DAILY

หลังการทดสอบ นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะของญี่ปุ่นให้สัมภาษณ์ว่า การยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือว่าเป็นสิ่งที่น่าเศร้าใจอย่างยิ่ง

การทดสอบขีปนาวุธล่าสุดของเกาหลีเหนือสร้างความเป็นกังวลให้แก่เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น เพราะการทดสอบของเกาหลีเหนืออาจจะส่งผลกระทบต่อความพยายามรื้อฟื้นการประชุม

สัปดาห์นี้ ทูตพิเศษว่าด้วยเกาหลีเหนือของสหรัฐก็มีกำหนดการที่จะเยือนกรุงโซล เพื่อหาวิธีรื้อฟื้นโต๊ะเจรจากับเกาหลีเหนือ และเมื่อวานนี้ หน่วยข่าวกรองจากสหรัฐ เกาหลีใต้และญี่ปุ่น เข้าหารือที่กรุงโซล ของเกาหลีใต้ เพื่อพูดคุยในประเด็นเกาหลีเหนือ

โดยทั้งสามฝ่ายได้แบ่งปันมุมมอง และเห็นพ้องต้องกันว่า เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องคงเสถียรภาพให้เกิดขึ้นบนคาบสมุทรเกาหลี และต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อเริ่มต้นกระบวนการสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลีในเร็ววัน

อุตุฯเตือน เตรียมรับมือฝนตกอีกระลอก 21 - 23 ต.ค. ก่อนเข้าสู่ฤดูหนาว

ขณะที่ในฝั่งของจีน ซึ่งถือเป็นพันธมิตรที่สำคัญของเกาหลีเหนือ ได้ออกมาเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องโฟกัสไปที่สถานการณ์ในภาพรวม อดทนอดกลั้น และคงไว้ซึ่งสันติภาพและเสถียรภพบนคาบสมุทรเกาหลี เดินหน้าเปิดการเจรจา ที่น่าสังเกตุคือ เป็นครั้งแรก ๆ ที่จีนออกมาพูดว่า สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีช่วงนี้ล่อแหลม

 

TOP ต่างประเทศ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ