สมาคมร้านขายยาออสเตรเลีย (Pharmacy Guild) และหน่วยสวัสดิการผู้สูงอายุและชุมชนออสเตรเลีย (ACSA) เรียกร้องให้มีบทลงโทษใหม่ที่เข้มงวดขึ้น สำหรับการ “โกงสถานะการฉีดวัคซีนโควิด-19” ไม่ว่าจะเป็นการติดสินบนเจ้าหน้าที่ การใช้ใบรับรองฉีดวัคซีนปลอม หรือการให้บุคคลอื่นมาฉีดวัคซีนแทนในนามตัวเอง
ทั้งสององค์กรเตือนว่า กลุ่มต่อต้านวัคซีนโควิด-19 ในออสเตรเลียกำลังใช้กลยุทธ์เหล่านี้เพื่อหลีกเลี่ยงกฎหมายด้านสาธารณสุข รวมถึงนโยบาย “ไม่ฉีด ไม่มีงาน (No Jab, No Job)” ในภาคการดูแลผู้สูงอายุ
องค์การอนามัยโลกรายงานพบ "วัคซีนปลอม" ในอินเดีย-แอฟริกา
นักวิจัยเตือน ตลาดซื้อขายวัคซีนปลอม-ใบรับรองปลอม กำลังเติบโต
วิกฤตใหม่สหรัฐฯ “บัตรฉีดวัคซีนโควิด-19 ปลอม” ระบาดหนัก
หน่วยงาน Service Australia ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในการให้บริการและธุรกรรมการเงินด้านสังคม สุขภาพ และการดูแลเด็ก กล่าวว่า สำหรับผู้ให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่ออกใบรับรองฉีดวัคซีนปลอมให้กับลูกค้า มีโทษปรับสูงถึง 6,660 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 200,000 บาท) อย่างไรก็ตาม การสอบสวนการฉ้อโกงที่เกี่ยวข้องกับวัคซีน รวมถึงการบังคับใช้กฎหมาย ยังคงมีช่องว่างอยู่
สมาคมร้านขายยาออสเตรเลีย กล่าวว่า การโกงใบรับรองการฉีดวัคซีนเป็นปัญหาอย่างต่อเนื่องในออสเตรเลีย และบอกว่า ที่ผ่านมา มีรายงานเข้ามาจำนวนหนึ่ง เกี่ยวกับการที่เภสัชกรผู้ให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่ถูกขอให้ปลอมแปลงเอกสารรับรองการฉีดวัคซีน รวมถึงบางกรณียังมีการเสนอค่าตอบแทนมากถึง 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 32,000 บาท)
สมาคมฯ กล่าวว่า ยังมีรายงานความพยายามในการนำบุคคลอื่นมาฉีดวัคซีนโควิด-19 แต่ให้ออกใบรับรองเป็นอีกชื่อหนึ่ง เพื่อให้ผู้ที่ต่อต้านการฉีดวัคซีนสามารถรับใบรับรองการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของแท้ได้โดยตัวเองไม่ต้องฉีดจริง
สมาคมฯ กล่าวว่า การโกงสถานะการฉีดวัคซีน “มีแนวโน้มที่จะแพร่หลายมากขึ้นในออสเตรเลีย” โดยเตือนว่า เภสัชกรตามร้านขายยาที่เป็นผู้ให้บริการฉีดวัคซีนไม่ควรต้องมาดูแลรับมือการฉ้อโกง เพราะอาจถูกคุกคามและข่มขู่
“บทลงโทษทางกฎหมายที่บังคับใช้กับผู้ฝ่าฝืนมาตรการกักตัวและผู้ที่เพิกเฉยต่อคำสั่งบังคับฉีดวัคซีน ควรนำมาใช้กับผู้ที่ติดสินบนเจ้าหน้าที่ผู้ฉีดวัคซีน เพื่อปลอมแปลงใบรับรอง ไม่ว่าจะในรูปแบบดิจิทัลหรือโดยให้ผู้อื่นฉีดวัคซีนแทน ด้วย”
พวกเขายังบ่นว่า ปัจจุบัน “ไม่มีคำแนะนำ” ว่า เภสัชกรจำเป็นต้องรายงานการโกงสถานะการฉีดวัคซีนโควิด-19 หรือไม่ จึงขอเรียกร้องให้มีแนวทางที่เหมือนกันและระบบการรายงานเฉพาะ
พาสปอร์ตวัคซีนเป็นส่วนสำคัญของแผนการเปิดประเทศใหม่ในหลายรัฐของออสเตรเลีย โดยผู้อยู่อาศัยในนิวเซาท์เวลส์ ควีนส์แลนด์ และวิกตอเรียจำเป็นต้องแสดงหลักฐานว่า พวกเขาได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบโดสแล้ว จึงจะเข้าห้างร้านหรือการบริการต่าง ๆ ได้
ออสเตรเลียยังมีข้อกำหนดทั่วประเทศสำหรับคนงานในภาคการดูแลผู้สูงอายุว่าต้องฉีดวัคซีนโควิด-19 ด้วยคำสั่งของรัฐที่กำลังขยายหลักการ “ไม่ฉีดวัคซีน ไม่มีงาน” ไปสู่งานด้านบริการสาธารณะและอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงสูง
ACSA แสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในภาคการดูแลผู้สูงอายุจากการเกิดขึ้นของใบรับรองวัคซีนปลอม
“สิ่งที่น่ากังวลเป็นพิเศษคือการจ้างงานคนดูแลผู้สูงอายุที่ไม่ได้รับวัคซีน ซึ่งจะสร้างความเสี่ยงเพิ่มขึ้นสำหรับผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มเสี่ยงสูง ... เพื่อเพิ่มการปกป้องผู้สูงอายุจากโควิด-19 ให้ได้มากที่สุด รัฐบาลออสเตรเลียควรมีบทลงโทษหากใช้ใบรับรองปลอม เพื่อเป็นการป้องปราม”
ผู้เชี่ยวชาญด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยได้เตือนว่า ใบรับรองการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่แสดงผ่านระบบ Medicare และแอปพลิเคชันของรัฐนั้นปลอมแปลงได้ง่ายมาก
Services Australia กล่าวว่า “ข้อกำหนดการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่เกิดขึ้นใหม่อาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดการปลอมแปลงฝบรับรองการฉีดวัคซีน”
แต่หน่วยงานอ้างว่า ได้มีการกำหนด “บทลงโทษที่รุนแรง” แล้ว นอกจากโทษปรับ 6,660 ดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ระบุไว้ข้างต้น ยังมีโทษปรับ 26,640 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 870,000 บาท) และจำคุก 2 ปี หากมีการกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลที่ได้รับการคุ้มครอง
“หน่วยงานตระหนักดีถึงการฉ้อโกงเกี่ยวข้องกับใบรับรองการฉีดวัคซีนและเรื่องของใบรับรองปลอม หน่วยงานกำลังทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดการภัยคุกคามเหล่านั้นอย่างเหมาะสม”
โดย Services Australia ระบุว่า กำลังพัฒนาใบรับรองการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่ปลอมแปลงได้ยากขึ้น เช่น การใช้ลายน้ำ ซึ่งจะทำให้ยากต่อการปลอมแปลง
ทึ่งทั้ง World Expo 2020! อิตาลีสร้างอาคารแสดงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ระดับการตัดไม้ทำลายป่า “แอมะซอน” ของบราซิล สูงสุดในรอบ 15 ปี
เรียบเรียงจาก The Guardian
ภาพจาก AFP