ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐได้ประกาศเมื่อวานนี้ ว่าจะมีการนำน้ำมันจากคลังสำรองน้ำมันทางยุทธศาสตร์ออกมาใช้จำนวน 50 ล้านบาเรลล์ เพื่อแก้ปัญหาราคาพลังงานที่ถีบตัวสูงขึ้น โดยจะเริ่มนำออกมาจำหน่ายในท้องตลาด ตั้งแต่ช่วงกลางเดือน หรือ ปลายเดือน ธ.ค. เป็นต้นไป ก่อนจะถึงช่วงเทศกาลสำคัญในปลายปีที่จะมีผู้คนเดินทางเป็นจำนวนมาก โดยปริมาณน้ำมันที่จะนำออกมาครั้งนี้นับว่า มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐเลยทีเดียว
ฟังผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ “ราคาน้ำมันไทย” แพงจริงหรือ? เพราะอะไร?
ราคาน้ำมันลงอีก!!! 40 สต.ทุกชนิดเว้น E85 ลด 20 สต.
โดยจะมีการปล่อยน้ำมันปริมาณมากที่สุดที่เคยทำมาจากคลังสำรองน้ำมันทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ เพื่อช่วยเพิ่มปริมาณน้ำมันที่เราต้องการ ในขณะที่เรากำลังฟื้นตัวจากโรคระบาดนี้ นอกจากนี้ยังได้ขอให้ประเทศอื่นๆช่วยกันแก้ปัญหานี้ อินเดีย ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ และสหราชอาณาจักรได้เห็นชอบที่จะปล่อยน้ำมันจากคลังสำรองของตนเอง และจีนก็จะปล่อยมากกว่านี้ การร่วมมือนี้จะช่วยเรารับมือกับปัญหาการขาดแคลนน้ำมัน ซึ่งจะช่วยลดราคาน้ำมันได้ สิ่งสำคัญก็คือ วันนี้ เราได้เริ่มความพยายามครั้งใหญ่เพื่อจะรักษาราคาน้ำมันให้คงที่ และเป็นความพยายามที่จะแพร่ไปทั่วโลก และท้ายที่สุด ไปถึงปั๊มน้ำมันใกล้บ้านคุณ
อย่างไรก็ตาม ผู้นำสหรัฐย้ำว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะยังไม่สามารถแก้ปัญหาทำให้ราคาน้ำมันถูกลงได้ภายในชั่วข้ามคืน มันอาจจะต้องใช้เวลาสักพักหนึ่ง และในระยะยาว สหรัฐจะเพิ่มการพึ่งพาตนเองในพลังงานน้ำมันให้มากขึ้น และเปลี่ยนไปใช้พลังงานสะอาดให้มากกว่านี้
การดึงน้ำมันจากคลังสำรองมาใช้เกิดขึ้นเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำมันทั่วโลก ซึ่งทำให้ราคาน้ำมันโลกพุ่งสูงขึ้น และ กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผย ว่านับถึงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา คลังสำรองน้ำมันของสหรัฐมีปริมาณน้ำมันอยู่ราว 604.5 ล้านบาร์เรล และเมื่อนำออกมาใช้แล้ว ทำเนียบขาวยืนยันว่าจะมีการเติมน้ำมันกลับเข้าไปจำนวน 32 ล้านบาร์เรล ซึ่งอาจจะใช้เวลาหลายเดือนหลังจากนี้ และจะมีการเติมน้ำมันไปเรื่อยๆจนครบ 50 ล้านบาร์เรลที่นำออกมาในที่สุด
ยุโรปอ่วม โควิดกลับมาระบาดหนัก หลายประเทศเร่งล็อกดาวน์
แจกเพียบ! ประชารัฐตำบลละ 20 ล้าน บัตรเครดิตบ้านละ 5 หมื่น แผนเตรียมเลือกตั้ง พปชร.
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังทำเนียบขาวเผชิญแรงกดดันต่อปัญหาราคาน้ำมันพุ่งสูง ซึ่งส่งผลทำให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้แก่ความอเมริกันจำนวนมาก
หวั่นโควิดโผล่ซ้ำ ร้านอาหารกลางกรุงฯ เซ็นทรัลเวิลด์แจงคลัสเตอร์ Groove