ยุโรปเร่งหามาตรการรับมือโควิด-19 ที่กำลังระบาดรุนแรงขึ้น


โดย PPTV Online

เผยแพร่




การระบาดของโควิด-19 ในยุโรประลอกนี้ยังคงไม่คลี่คลาย หลายประเทศต้องเร่งหาทางชะลอการแพร่ระบาด แต่ยังมีปัญหาว่าประชาชนปฏิเสธการฉีดวัคซีน และหลายประเทศต้องหลีกเลี่ยงมาตรการล็อกดาวน์รัฐบาลประเทศต่างๆ มีวิธีรับมือแตกต่างกันไป แต่ขณะนี้ หนึ่งประเทศที่เจอกับวิกฤตโรคระบาดหนักหน่วงที่สุดในยุโรป ก็คือเยอรมนี

เยอรมนีเร่งเพิ่มมาตรการรับมือโควิด-19 หลังจากที่วันพุธ ทางการเผยตัวเลขว่ามีผู้เสียชีวิตจากไวรัสเกิน 1 แสนคนแล้วและเมื่อวันพุธ ยอดผู้ติดเชื้อใหม่ของเยอรมนีสูงถึง 79,051 คน นับว่าเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เกิดการระบาดโควิด-19 ตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2020 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากอาทิตย์ที่แล้ว วันศุกร์ที่ 19 พฤศจิกายน เยอรมนีมีผู้ป่วยใหม่ 57,302 คน

เจออีก! หญิง 41 ปี ฉีดเข็ม 3 ผมร่วงทั้งหัว

รีบยื่น!โครงการช่วย SMEs อุดหนุนเงิน3,000 บาท ปิดทบทวนสิทธิ 27 พ.ย. นี้

แองเกลา แมร์เคิล รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตเป็นเรื่องน่าสลดใจ ข้อมูลจากสถาบันโรคติดต่อโรเบิร์ต โคค ในรอบเจ็ดวันที่ผ่านมา อัตราผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นเกิน 400 ต่อหนึ่งแสนคนเป็นครั้งแรก

รัฐบาลเยอรมนีจึงเปลี่ยนมาประกาศใช้กฎ 3G เป็นมาตรการควบคุมสถานการณ์เร่งด่วน โดยเฉพาะในสถานที่ทำงานและระบบขนส่งสาธารณะทุกประเภท

มาตรการ 3G คืออะไร

3G คือคำใช้แทนคน 3 กลุ่ม

กลุ่มแรกคือ คนที่ฉีดวัคซีนแล้ว

 กลุ่มที่ 2 คือ กลุ่มที่ที่ติดเชื้อและหายแล้ว เป็นคนมีภูมิคุ้มกัน

ส่วนกลุ่มที่ 3 คือ คนที่มีผลตรวจเป็นลบ ถึงแม้ไม่ฉีดวัคซีนก็ตาม

ภายใต้มาตรการจะอนุญาตให้เฉพาะคน 3 กลุ่มนี้ที่สามารถทำกิจกรรมในพื้นที่สาธารณะ เช่นการแข่งขันกีฬา งานแสดงด้านวัฒนธรรม และ การนั่งในร้านอาหารได้ ส่วนคนที่ไม่อยู่ในกลุ่ม  3G จะถูกห้ามทำกิจกรรมที่กล่าวมาข้างต้น

ผู้โดยสารขนส่งสาธารณะในเยอรมนีจำเป็นต้องแสดงหลักฐาน 3G ถ้าหากว่าไม่มีหลักฐานก็จะถูกเชิญออกจากขนส่งสาธารณะ และใครก็ตามที่ฝ่าฝืนกฎ จะต้องรับโทษปรับเงินหลายพันยูโร

แต่อย่างไรก็ตาม รัฐบาลในยุโรปพยายามหลีกเลี่ยงการล็อกดาวน์เต็มรูปแบบ

ภายในสองอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังจากออสเตรียบังคับล็อกดาวน์และออกนโยบายบังคับฉีดวัคซีน เกิดการประท้วงในวงกว้างจากในหลายประเทศยุโรป เช่น ออสเตรียและเนเธอร์แลนด์

ประชาชนจำนวนหนึ่งมองว่าการล็อกดาวน์หรือกีดกันไม่ให้คนที่ไม่ฉีดวัคซีนใช้พื้นที่สาธารณะ คือการแบ่งแยกจากรัฐ และละเมิดสิทธิเสรีภาพในเวลาเดียวกัน

มาตรการที่กำลังนิยมใช้ตอนนี้คือการขอความร่วมมือให้ประชาชนรับวัคซีนเข็มบูสเตอร์ และแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนหรือผลตรวจโควิด-19เป็นลบ

ฝรั่งเศสเป็นอีกหนึ่งแห่งที่ยังไม่ได้ล็อกดาวน์ แต่ก็ต้องเผชิญกับยอดผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อวันที่ 25 พ.ย. ฝรั่งเศสมีตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งหมด 33,464 คน เสียชีวิต 72 คน ซึ่งเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนเมษายน ที่ฝรั่งเศสรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อเกิน 3 หมื่นคนติดกันเป็นเวลา 7 วัน

แต่รัฐบาลก็ออกมายืนยันว่าจะยังไม่กลับไปใช้มาตรการล็อกดาวน์แบบประเทศอื่นๆ อย่างเช่น ออสเตรีย และย้ำว่าฝรั่งเศสจะให้ความสำคัญกับสิทธิเสรีภาพควบคู่ไปกับความรับผิดชอบในขณะที่ต้องต่อสู้กับการระบาดโควิด-19

โอลีวิเย เวอคอง รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข อนุมัติให้ประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป สามารถรับวัคซีนเข็มบูสเตอร์ได้เลย และระยะเวลาจากวัคซีนเข็มล่าสุดที่กำหนดไว้ให้เว้น 6 เดือน ก็ลดลงเหลือ 5 เดือน

จากแต่เดิมที่ฝรั่งเศสเร่งฉีดเข็มบูสเตอร์ให้กับผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป และกลุ่มที่มีโรคแทรกซ้อนเสี่ยงต่อการเสียชีวิต

ขณะนี้คณะกรรมการจริยธรรมแพทย์และสำนักงานสุขภาพแห่งชาติของฝรั่งเศส กำลังพิจารณาการฉีดวัคซีนเข็มแรกให้กับเด็กอายุ 5 ถึง 11 ปี เพื่อป้องกันการติดเชื้อหลังยุโรปกลายเป็นศูนย์กลางโรคระบาดในขณะนี้

และเพื่อเป็นการกดดันผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีน เวอคองระบุว่า ต่อจากนี้ผลตรวจโควิดเป็นลบ จะสามารถใช้งานได้เพียงแค่ 24 ชั่วโมง จากเดิมที่อนุญาตให้ใช้ผลตรวจภายใน 72 ชั่วโมง

แต่ในบางประเทศ การขอความร่วมมือจากประชาชนอาจไม่เพียงพอ รัฐจึงต้องเพิ่มมาตรการที่เป็นที่คัดค้านอย่างการล็อกดาวน์

อาทิตย์นี้ที่สโลวาเกีย รัฐบาลได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน 90 วัน และสั่งล็อกดาวน์เต็มรูปแบบเป็นเวลา 2 อาทิตย์

สโลวาเกียกำลังเผชิญวิกฤตโรคระบาดอย่างสาหัส ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอัตราการฉีดวัคซีนในประเทศต่ำเป็นอันดับสามของยุโรป รองลงมาจากโรมาเนียและบัลแกเรีย

สโลวาเกียมีผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มแรกร้อยละ 47.7 และผู้ที่ได้รับวัคซีนครบโดสร้อยละ 42.8 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของสหภาพยุโรปที่อยู่ที่ร้อยละ 65.8 เมื่อวานนี้ สโลวาเกียเผยตัวเลขผู้ป่วยใหม่ 13,141 คน นับว่าสูงมากเมื่อเทียบกับประชากร 5.5 ล้านคน

โดยในรอบหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา สโลวาเกียมีผู้ป่วยใหม่รายวัน 1,929 คนต่อประชากรหนึ่งล้านคน ซึ่งนับว่าเป็นอัตราผู้ป่วยใหม่ต่อประชากรที่สูงที่สุดในโลกตอนนี้

รัฐบาลพยายามหามาตรการลดโอกาสการแพร่เชื้อให้มากที่สุด เพราะในขณะนี้ ระบบสาธารณสุขของสโลวาเกียกำลังดิ้นรนอย่างหนักจากผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นทุกวัน

กระทรวงสาธารณสุขกังวลมาก เพราะตอนนี้มีตัวเลขผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ในโรงพยาบาลเกินวันละ 3,000 คนแล้ว และในจำนวนผู้ป่วยทั้งหมด มีคนที่ไม่ฉีดวัคซีนมากถึงร้อยละ 83

ที่โรงพยาบาลเมือง เทรนซิน ภาคตะวันตกของสโลวาเกีย ประสบปัญหาเตียงในห้องผู้ป่วยหนักไม่พอรองรับผู้ป่วยโควิด-19 แล้วแต่ไม่ว่าจะเตรียมตัวอย่างไร ตอนนี้ยุโรปก็คงประวิงเวลาการระบาดครั้งต่อไปไม่ได้แล้ว

ฮันส์ คลูเกอ ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกภูมิภาคยุโรป ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNN ว่า ตราบใดที่อัตราการฉีดวัคซีนยังน้อยอยู่แบบนี้ ยุโรปก็จะต้องเจอโควิด-19 ระลอกใหม่ในอนาคต ขณะนี้ สิ่งที่จะต้องควบคุมให้ได้คือจำนวนผู้เสียชีวิต คลูเกอย้ำว่านอกจากวัคซีนแล้ว ประชาชนจำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง และล้างมือ เพื่อลดการแพร่เชื้อให้มากที่สุด

TOP ต่างประเทศ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ