เกาหลีใต้อ่วม ยอดผู้ติดโควิดพุ่งเกิน 7,000 ราย พบโอมิครอน 38 คน


โดย PPTV Online

เผยแพร่




จับตาสถานการณ์โควิดในหลายประเทศ ล่าสุดเกาหลีใต้มียอดผู้ติดเชื้อใหม่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา คือมากถึง 7,000 คน ส่วนในแอฟริกาใต้ ยอดผู้ติดเชื้อใหม่ที่เมื่อวานลดลงไปครึ่งหนึ่ง ล่าสุดกลับมาสูงอีกครั้ง ทั้งหมดเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่โลกยังคงรอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโควิดโอมิครอน ที่ขณะนี้พบการระบาดแล้วใน 57 ประเทศทั่วโลก

นักวิทย์พบโควิด-19 “โอมิครอน BA.2” ลูกพี่ลูกน้องของโอมิครอนเดิม

WHO ชี้ “โอกาสน้อย” โควิดสายพันธุ์โอมิครอนหลบเลี่ยงวัคซีนได้หมด

กราฟยอดผู้ติดเชื้อโควิดใหม่ของเกาหลีใต้ ที่วันนี้ (8 ธ.ค.64) เป็นครั้งแรกที่พบผู้ติดเชื้อมากกว่า 7,000 คน รายงานจากสาธารณสุขเกาหลีใต้ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อของวันนี้ วันที่ 8 ธันวาคม พบมากถึง 7,174 ราย ทุบสถิติยอดเมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ตอนนั้นพบวันละ 5,000 ราย โดยในจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่นี้ ร้อยละ 80 อยู่ในกรุงโซล เมืองหลวง

สถานการณ์ล่าสุดสร้างความประหลาดใจให้กับหลายฝ่าย และนำมาซึ่งภาพนี้ นี่คือบรรยากาศที่ศูนย์ตรวจที่บริเวณสถานีรถไฟแห่งหนึ่งในกรุงโซล ซึ่งมีผู้คนมาต่อแถวรอตรวจยาวเหยียด

หลายคนเล่าว่า พวกเขารู้สึกกังวลใจต่อสถานการณ์ เพราะได้ข่าวมาว่า แม้แต่คนที่ฉีดวัคซีนครบสองโดสแล้วก็ยังติดเชื้อ รวมถึงยังระบุว่า อยากจะฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์ไว ๆ

ด้านฝั่งรัฐบาลระบุว่า จะแก้ปัญหาผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นแบบพุ่งทะยานนี้ด้วยการให้คนที่ไม่มีอาการ หรือมีอาการน้อยรักษาตัวที่บ้าน เพื่อไม่ให้โรงพยาบาลต้องรับมือหนักเกินไป  รวมถึงจะเร่งฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์โดสให้กับประชาชนที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป เนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยงที่สุด อีกสิ่งที่รัฐบาลตั้งใจจะทำคือการออกมาตรการบังคับฉีดวัคซีนแบบที่หลายประเทศในยุโรปทำในขณะนี้ หนึ่งในมาตรการที่จะออกมาคือ กำหนดให้วัยรุ่นอายุ 12-17 ปี เข้ารับวัคซีนให้ครบสองโดสภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ มิเช่นนั้นพวกเขาขะถูกจำกัดสิทธิห้ามเข้าร้านอาหาร ห้ามเข้าห้องสมุดคาดกันว่าจะมีมาตรการอื่น ๆ ทยอยออกมาเพิ่มอีก เพื่อบรรเทาความรุนแรงของการระบาด

ส่วนความคืบหน้าของการระบาดของโควิดโอมิครอน มีรายงานว่าล่าสุดจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 38 คน  โดยผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่มาจากคลัสเตอร์โบสถ์คริสต์แห่งหนึ่งในเมืองอินชอน ในจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่มี 3 รายอยู่ในกรุงโซล ทั้งหมดเป็นนักศึกษา และเชื่อมโยงกับคลัสเตอร์โบสถ์

ด้านสาธารณสุขรายงาน ขณะนี้กำลังติดตามและตรวจหาเชื้อผู้สัมผัสที่เกี่ยวข้องราว 1,300 ราย แต่หากย่อยกลุ่มให้เหลือแค่ผู้สัมผัสใกล้ชิด จำนวนจะเหลือ 607 ราย

 

 

ยอดผู้ติดเชื้อแอฟริกาใต้พุ่งอีก แต่ไม่มีอาการหนัก

อีกประเทศที่น่าจับตามองยังคงเป็น แอฟริกาใต้ เมื่อวานนี้ยอดผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่งจะลดลงไปถึงครึ่งหนึ่ง แต่ล่าสุดกลับเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ยอดผู้ติดเชื้อโควิดใหม่ในแอฟริกาใต้เพิ่มจาก 6,381 รายเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม เป็น 13,147 รายในวันที่ 7 ธันวาคม หรือในรอบ 24 ชั่วโมง ไม่ชัดเจนว่าเกี่ยวข้องกับเชื้อโอมิครอนหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ ขณะนี้แอฟริกาใต้กำลังเผชิญกับการระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 4

ที่นานาชาติให้ความสนใจก็เพราะแอฟริกาใต้เป็นประเทศที่แจ้งเตือนเรื่องการอุบัติของเชื้อโอมิครอนไปยังองค์การอนามัยโลก  หน่วยงานแอฟริกาใต้แจ้งเตือนเพราะพบจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน โดยเฉพาะในจังหวัดเกาเต็ง ที่ตั้งของนครโจฮันเนสเบิร์ก

วันที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา องค์การอนามัยโลกยกสถานะให้ B.1.1.529 โควิดกลายพันธุ์สายพันธุ์ใหม่ที่แอฟริกาใต้เพิ่งจะแจ้งข่าวเป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวล ก่อนจะตั้งชื่อว่า “โอมิครอน” จากตัวอักษรลำดับที่ 15 ในอักษรกรีก จากนั้นนานาชาติก็ออกมาตรการแบนเที่ยวบินจากแอฟริกาใต้ ห้ามนักเดินทางเข้าประเทศตนทันที ส่งผลให้เกิดภาพของนักท่องเที่ยวต่างชาติติดค้างที่สนามบิน มาตรการยังครอบคลุมไปถึงประเทศข้างเคียงอย่าง ซิมบับเว บอตสวานา เลโซโท และอื่นๆ อีกราว 10 ประเทศ แต่ปัญหาคือ ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์บ่งชี้ว่า โควิดโอมิครอนร้ายกาจกว่าโควิดตัวอื่น ๆ และข้อมูลที่ออกมาเป็นเพียงการคาดการณ์จากตำแหน่งการกลายพันธุ์ที่มากเท่านั้น

นอกจากนั้นยังมีรายงานจากแพทย์ในแอฟริกาใต้ที่ระบุว่า แม้ผู้ติดเชื้อจะมาก แต่อาการผู้ป่วยในระลอกนี้มีไม่หนัก พวกเขามีอาการแต่ปวดหัว ปวดตัว เจ็บคอ รวมถึงยังไม่มีผู้เสียชีวิต  อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ป่วยกลุ่มที่ยังไม่ได้รับวัคซีนนั้น อาการจะหนักว่านี้ แต่ก็ไม่หนักถึงต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ แต่กระนั้นจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่พบความเชื่อมโยงระหว่างยอดผู้ติดเชื้อที่พุ่งทะยานกับเชื้อโอมิครอน

 

สหราชอาณาจักรเจอผู้ป่วยโอมิครอนเพิ่มไม่หยุด

ขณะที่สถานการณ์ในสหราชอาณาจักรที่จำนวนผู้ติดเชื้อโอมิครอนยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึงในวันนี้ วันที่ 8 ธันวาคมยังเป็นวันครบรอบ 1 ปีที่อังกฤษเริ่มฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้ประชาชนทั่วไปด้วย

 มาการ์เร็ต คีแนน หญิงอังกฤษวัย 91 ปี ที่เป็นประชาชนทั่วไปคนแรกที่ได้รับวัคซีนต้านโควิด-19  ย้อนไปเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ปี 2020 มาร์กาเร็ตได้รับวัคซีนไฟเซอร์ และภาพของเธอขณะฉีดวัคซีนถูกเผยแพร่ไปทั่วโลก เนื่องจากในเวลานั้นสหราชอาณาจักรเป็นชาติแรกที่ฉีดวัคซีนให้ประชาชนทั่วไป และในวันนี้ เนื่องในโอกาสครบรอบ 1 ปี เธอยังคงแนะนำให้ทุกคนไปเข้ารับวัคซีน

วันครบรอบ 1 ปีที่รัฐบาลฉีดวัคซีนให้กับประชาชนคนแรกเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สหราชอาณาจักรกำลังขอร้องให้ผู้คนเข้ารับวัคซีนกันมาก ๆ  เพราะขณะนี้พวกเขาเผชิญภัยคุกคามจากทั้งโควิดเดลตาและโอมิครอน

เมื่อวานนี้ ซาจิด จาวิด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของอังกฤษเพิ่งจะออกมาระบุว่า เชื้อโอมิครอนอาจแพร่ระบาดในหลายชุมชนของอังกฤษแล้ว เนื่องจากผู้ติดเชื้อจำนวนหนึ่งไม่ใช่นักเดินทาง และไม่มีประวัติการเดินทาง พร้อมส่งทหารเข้ามาในอังกฤษและสกอตแลนด์ เพื่อช่วยฉีดวัคซีนบูสเตอร์โดสให้ประชาชน

ด้านจำนวนผู้ติดเชื้อโอมิครอน เมื่อวานนี้ยอดสะสมอยู่ที่ 336 ราย ล่าสุดในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมายอดเพิ่มเป็น 437 รายแล้ว โดยส่วนใหญ่ของผู้ติดเชื้ออยู่ในอังกฤษ รองลงมาคือสกอตแลนด์ สถานการณ์ล่าสุดทำให้มีเสียงเตือนออกมาว่า หากรัฐบาลยังไม่ล็อกดาวน์ประเทศ สหราชอาณาจักรอาจเผชิญกับการระบาดสูงสุดของโควิดโอมิครอนในเดือนมกราคมนี้

ขณะเดียวกันก็มีเสียงจากผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ยอด 400 กว่านี้อาจเป็นเพียงแค่ภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น เพราะนี่เป็นเพียงยอดที่ตรวจเจอ

 

ด้านศาสตราจารย์อลาสแต แกรนด์ ศาสตราจารย์ด้านนิเวศวิทยาจากมหาวิทยาลัยอีสต์แองเกลีย เผยว่า ค่า R ของโอมิครอนนั้นอยู่ที่ 3.47 ค่านี้หมายความว่า จำนวนผู้ป่วย 1 คนจะสามารถแพร่เชื้อต่อได้อีกกี่คน ซึ่งด้วยค่านี้บ่งชี้ว่า จำนวนผู้ตดเชื้อโอมิครอนกำลังเพิ่มขึ้นเท่าตัว  เทียบกับเดลตาที่มีค่า R ที่ 1 แล้ว ข้อมูลล่าสุดจึงบ่งชี้ว่าโอมิครอนระบาดเร็วกว่ามาก

ส่วนยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในภาพรวม ข้อมูลของวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา สหราชอาณาจักรพบผู้ติดเชื้อใหม่ 45,691 ราย ถือว่ายังลดลงไม่มากนักเมื่อเทียบกับวันก่อ นๆ  ดังนั้นด้วยภัยคุกคามสองทางทั้งเดลตาและโอมิครอน จึงมีความกังวลว่าในวันคริสต์มาสนี้ ยอดผู้ติดเชื้อใหม่ของสหราชอาณาจักรอาจเพิ่มเป็น 90,000 ราย

ด้านรัฐบาล ระบุว่า ขณะนี้กำลังร่างแผนฉุกเฉินที่อาจสั่งให้ผู้คนทำงานจากที่บ้านชั่วคราว รวมถึงบังคับใช้วัคซีนพาสปอร์ตก่อนเข้าสถานที่ต่าง ๆ

 

TOP ต่างประเทศ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ