ซีอาน ยังล็อกดาวน์เข้ม หลังโควิดระบาดหนัก ประชาชนเริ่มโอดครวญขาดอาหาร

สหรัฐฯ รายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 วันเดียว “1 ล้านราย”

อย่าตระหนก ข่าวฝรั่งเศสพบโควิด-19 “B.1.640.2” กลายพันธุ์ 46 ตำแหน่ง

วันนี้เป็นวันที่ 13 แล้วที่ชาวเมืองซีอานกว่า 13 ล้านคนต้องกักตัวอยู่แต่ในบ้าน และยุทธศาสตร์นี้กำลังเผชิญกับแรงกดดันอย่างจากหลายด้าน ทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ที่ยังแตะหลักร้อย รวมถึงเสียงวิจารณ์จากหลายชุมชนว่า พวกเขากำลังขาดแคลนอาหาร

โดยภาพการตรวจหาเชื้อในเมืองซีอาน  เมืองที่ใหญ่ที่สุดทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ที่ตั้งอยู่ในมณฑลส่านซี เมื่อวันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา แม้จะเป็นช่วงวันหยุดปีใหม่ แต่ที่นี่ ประชาชนยังคงได้รับคำสั่งให้ทยอยกันไปตรวจหาเชื้อโควิดอย่างต่อเนื่อง

 บรรยากาศของต้นปี 2022 ในเมืองซีอานแทบไม่ต่างกับต้นปี 2020 ช่วงที่โควิดระบาดใหม่ ๆ ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะ เมืองซีอานกลายมาเป็นคลัสเตอร์ที่ใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่เกิดคลัสเตอร์ในอู่ฮั่น

นับตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ในจีนก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่วนใหญ่อยู่ในเมืองซีอาน ส่งผลให้รัฐบาลสั่งล็อกดาวน์เมืองในวันที่ 23 ธันวาคม ภายใต้คำสั่งล็อกดาวน์ครั้งใหม่ ประชาชนไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากบ้าน อนุญาตเพียงสมาชิก 1 คนต่อหนึ่งบ้านที่ออกไปซื้อหาอาหารและของใช้จำเป็นได้ทุกๆ 2 วัน รวมถึงยังมีคำสั่งห้ามเดินทางเข้าหรือออกเมือง เว้นแต่ธุระจำเป็นที่ต้องยื่นคำขอเป็นกรณีพิเศษ ตามมาด้วยภาพของการระดมตรวจหาเชื้อประชากรทุกคนดังที่เห็น

ผลจากการล็อกดาวน์นานเกือบ 2 สัปดาห์เป็นอย่างไร? ทางการจีนรายงานยอดผู้ติดเชื้อใหม่ของวันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา พบเพิ่ม 175 ราย นับเป็นยอดที่เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้าที่พบ 161 ราย โดยในจำนวนนี้ ส่วนใหญ่ของผู้ติดเชื้อใหม่ยังคงอยู่ในเมืองซีอาน ส่วนยอดผู้ติดเชื้อสะสมของประเทศมี 102,841 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมมี 4,636 ราย เทียบจำนวนประชากรที่มีมากถึงพันล้านคน หรือประชากรในเมืองๆ หนึ่ง อย่าง ซีอาน ที่มี 13 ล้านคน จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่เพียงหลักร้อยนั้นถือว่าเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก

แต่เป็นปัญหาสำหรับจีน เนื่องจากรัฐบาลจีนใช้นโยบายกดตัวเลขผู้ติดเชื้อให้เป็นศูนย์ ส่งผลให้ออกคำสั่งล็อกดาวน์คนทั้งเมือง สวนทางกับหลายประเทศที่ใช้นโยบายให้ประชาชนอยู่ร่วมกับโควิด เกือบ 2 สัปดาห์ของการล็อกดาวน์ ยอดผู้ติดเชื้อใหม่ขึ้น ๆ ลง ๆ แต่ยังไม่ใกล้เลข 0 ตามที่รัฐต้องการ ซ้ำร้ายมีแรงกดดันจากประชาชน

ทั้งนี้ภาพที่เผยแพร่บนโลกออนไลน์ เผยให้เห็นภาพประชาชนในซีอานขณะกำลังโต้เถียงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พวกเขาบอกว่า ภายใต้คำสั่งล็อกดาวน์ ผู้คนกำลังขาดแคลนอาหาร และเมื่อออกไปต่อคิวซื้อหาอาหาร กลับไม่มีร้านค้าขายให้ ต้องเล่าว่า ในช่วงต้นของการล็อกดาวน์ รัฐบาลซีอานอนุญาตให้สมาชิก 1 คน จากแต่ละบ้านออกมาหาซื้ออาหารและของใช้จำเป็นได้  แต่เมื่อสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น คำสั่งถูกเปลี่ยน  ประชาชนทุกคนต้องอยูในบ้าน จะออกนอกบ้านได้ก็เมื่อเจ้าหน้าที่เรียกให้ไปตรวจหาเชื้อแบบ RT-PCR ส่วนอาหารและข้าวของเครื่องใช้ ทางการจะจัดส่งมาให้เอง

ภาพของประชาชนที่ออกมาต่อว่า หรือระบายว่าพวกเขาขาดแคลนอาหารแบบนี้ถูกพบเห็นมากขึ้นบนโลกออนไลน์ แต่ขณะเดียวกันก็มีภาพที่แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลจัดส่งอาหารและของใช้ไปให้ประชาชนอย่างเต็มที่

เช่นภาพนี้ ที่เผยแพร่ออกมาช่วงปีใหม่ แสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ในชุดป้องกันกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อจัดส่งอาหารให้ทุกครัวเรือน พร้อมระบุว่า นี่คือวิธีที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนดูแลประชาชนชาวซีอาน

หรือภาพนี้ ที่ผู้ใช้ทวิตเตอร์อ้างว่า เป็นกล่องอาหารที่ได้รับมาจากรัฐบาลท้องถิ่นซีอาน  ซึ่งเมื่อเปิดดูก็จะพบว่า ข้างในกล่องเต็มไปด้วยผักผลไม้หลากชนิด

 

สำนักข่าว Global Times ของจีน ระบุว่า รัฐบาลมีอาหารแจกจ่ายพอให้กับประชาชนทุกคนในซีอาน แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นมาจากจำนวนเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครที่น้อย รวมถึงการที่คนขับรถจำนวนหนึ่งต้องกักตัว ส่งผลให้บุคลากรที่ขนส่งอาหารไปตามบ้านเรือนจึงน้อยลงไปด้วย

ยังไม่ชัดเจนว่าซีอานจะต้องล็อกดาวน์ไปอีกกี่วัน แต่เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ระบุว่า มาตรการจะบังคับใช้จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ด้านในภาพรวม นับตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคมเป็นต้นมา เมืองซีอานพบผู้ติดเชื้อโควิดแล้วอย่างน้อย 1,300 ราย  เป็นคลัสเตอร์ใหญ่ที่สุดหลังการระบาดในอู่ฮั่น และในจำนวนนี้ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นผู้ติดเชื้อโอมิครอนกี่ราย อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้นรัฐบาลจีนระบุว่า คลัสเตอร์ล่าสุดนี้เชื่อมโยงกับผู้ที่เดินทางเข้าประเทศมาจากปากีสถานเมื่อวันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งในตอนนั้นมีนักเดินทาง 6 คนติดเชื้อโควิดเดลตา

นอกเหนือจากล็อกดาวน์ เร่งตรวจหาเชื้อ จีนยกระดับมาตรการล็อกดาวน์ซีอาน สั่งย้ายเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบหลังไม่สามารถควบคุมการระบาดได้ เมื่อวานนี้มีรายงานว่า ทางการจีนได้สั่งย้ายเจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์ 2 ราย ที่ประจำการอยู่ในเขตยันตา เมืองซีอาน โดยระบุว่าเป็นการเสริมประสิทธิภาพในการรับมือกับโควิด-19 ให้ดียิ่งขึ้น

 

และล่าสุดวันนี้มีประกาศล็อกดาวน์เมืองเพิ่ม นั่นคือเมืองหยูโจว ในมณฑลเหอหนาน ทางตอนกลางของประเทศ คำสั่งล็อกดาวน์เพิ่งจะประกาศออกมาเมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา และเริ่มบังคับใช้วันนี้ ห้ามประชาชนราว 1.2 ล้านคนออกจากบ้าน ยกเว้นแต่คนที่ทำงานในธุรกิจจำเป็น อย่างซูเปอร์มาร์เก็ต, ระบบสาธารณสุขและระบบพลังงาน นอกจากนั้นยังสั่งปิดโรงเรียน ห้างสรรพสินค้า และระบบขนส่งมวลชนชั่วคราวอีกด้วย

โดยทางการระบุว่า ที่ต้องสั่งล็อกดาวน์เมืองก็เพราะเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อใหม่ 3 รายในเมืองนี้ โดยทั้งหมดเป็นผู้ติดเชื้อไม่แสดงอาการ พบเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา 2 ราย และเมื่อวานนี้เพิ่มอีก 1 ราย ส่วนในภาพรวม จีนมีผู้ติดเชื้อสะสม 1 แสน 1 หมื่นรายแล้ว เสียชีวิตแล้วกว่า 4,800 ราย สำหรับการฉีดวัคซีน มีคน 1,200 ล้านคนได้รับวัคซีนแล้ว หรือคิดเป็นร้อยละ 86.38 ของประชากรทั้งประเทศฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว

สถานการณ์โควิดทำให้เป้าหมายของจีนที่ต้องการกดตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ให้เป็นศูนย์ยากและท้าทายมากกว่าเดิม และขณะนี้เหลือเวลาอีกเพียง 30 วันเท่านั้น ก่อนจะถึงวันจัดงานโอลิมปิกฤดูหนาววันแรก วันที่ 4 กุมภาพันธ์นี้

 

ชาวจีนตั้งตารอโอลิมปิกฤดูหนาว แม้ต้องชมผ่านออนไลน์

ที่กรุงปักกิ่ง รัฐบาลตั้งป้ายไฟนับถอยหลัง และผู้คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกตื่นเต้นกับงานนี้ รวมถึงเสียดายที่ปีนี้พวกเขาต้องชมกีฬาผ่านระบบออนไลน์

และเมื่อวานนี้ จีนได้ปล่อยมิวสิควิดีโอต้อนรับการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวออกมาแล้ว นำแสดงโดยนักกีฬาจีน รัสเซีย คาซัคสถาน รวมถึงนักกีฬาชาวอเมริกันเอาไว้ด้วย

ทั้งนี้ หากเกิดขึ้นจริง กรุงปักกิ่งจะเป็นเมืองแรกของโลกที่สามารถเป็นเจ้าภาพการแข่งขันโอลิมปิกทั้งฤดูร้อนและฤดูหนาว

การแข่งขันจะเกิดขึ้นในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ไปจนถึงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ประกอบไปด้วยกีฬาหลายชนิด เช่น เลื่อนหิมะ เคิร์ลลิงหรือเปตองน้ำแข็ง ฮอกกี้น้ำแข็ง สเกตน้ำแข็ง และสกี เป็นต้น

สหรัฐฯ อังกฤษ แคนาดา และออสเตรเลียประกาศแล้วว่า จะไม่ส่งคณะทูตและเจ้าหน้าที่ระดับสูงเข้าร่วมพิธีเปิดและปิดงานตามธรรมเนียม เนื่องจากต้องการต่อต้านปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนในจีน

 

ล่าสุดมีเสียงจากโทมัส บัค ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ IOC ออกมาระบุว่า การแข่งขันที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ ทุกฝ่ายควรละวางความขัดแย้งทางการเมือง เพราะโอลิมปิกคือสัญลักษณ์ของความร่วมมือจากนานาชาติ