คาซัคสถานประท้วงเดือด รบ.ขึ้นราคาก๊าซแอลพีจี ปธน.โร่ขอความช่วยเหลือจากรัสเซีย


โดย PPTV Online

เผยแพร่




เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบขึ้นในประเทศคาซัคสถาน ผู้ประท้วงออกมาชุมนุมต่อต้านรัฐบาล โดยสาเหตุตอนแรกมาจากความไม่พอใจที่รัฐบาลปรับขึ้นราคาเชื้อเพลิงสูงขึ้น ทางฝากฝั่งของรัฐบาลได้ออกมาแถลงว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำของกลุ่มผู้ก่อการร้าย และวอนขอให้กองกำลังประเทศพันธมิตรอย่างรัสเซียเข้าช่วยเหลือ

เกาหลีเหนืออ้างยิงไฮเปอร์โซนิกสำเร็จด้วยดี

รัสเซีย ขู่ใช้ขีปนาวุธ หากสหรัฐฯ-นาโต ไม่ถอนกำลังจากยูเครน

เกิดสถานการณ์ความไม่สงบขึ้นทั่วประเทศคาซัคสถานนับตั้งแต่วันปีใหม่ที่ผ่านมา โดยมีการชุมนุมประท้วงของประชาชนจากความไม่พอใจที่รัฐบาลขึ้นราคาเชื้อเพลิง LPG หรือปิโตรเลียมเหลว

โดยการประท้วงดังกล่าวเริ่มต้นที่เมืองจาเนาเซ็น ทางตะวันตกของภูมิภาคมังกีย์สะตาอู และเริ่มกระจายไปยังเมืองต่าง ๆ โดยประชาชนตามเมืองอื่น ๆ ต่างสนับสนุนการประท้วงในจาเนาเซ็น และเริ่มออกมาชุมนุมด้วย การประท้วงได้ลุกลามบานปลาย

จนกระทั่งวานนี้ประธานาธิบดีคาซึม โจมาร์ท โทคาเยฟ ได้ประกาศเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา 23.00-07.00 น. ห้ามมีการมั่วสุม ชุมนุม หรือรวมกลุ่มกัน ในขณะที่ฝั่งนายกรัฐมนตรีของคาซัคสถาน นายอัสการ์ มามิน ได้ประกาศลาออกทั้งคณะ

ในขณะที่เมื่อวานมีรายงานว่าได้ยินเสียงปืนใกล้กับที่ทำการนายกเทศมนตรีในเมืองอัลมาตีซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของคาซัคสถาน และยังมีการจุดไฟเผาอาคารหลังจากที่ผู้ชุมนุมปิดล้อม

ขณะที่ประธานาธิบดีคาซึม โจมาร์ท โทคาเยฟของคาซัคสถาน แถลงเรียกร้องรัฐบาลชาติสมาชิกองค์การสนธิสัญญาความร่วมมือระหว่างกัน หรือ CSTO  ที่ประกอบไปด้วย รัสเซีย, ทาจิกิสถาน, อาร์เมเนีย , คีร์กีซสถาน, อุซเบกิสถาน และ คาซัคสถาน ให้ความช่วยเหลือในการแก้ไขภัยคุกคามก่อการร้าย ที่กำลังบ่อนทำลายความมั่นคงของประเทศ

โทคาเยฟระบุว่ากลุ่มก่อการร้ายเหล่านี้ได้รับการฝึกฝนจากต่างประเทศ พวกเขากำลังก่อความวุ่นวายทั่วคาซัคสถาน พร้อมทั้งยึดอาคารสถานที่ต่าง ๆ สาธารณูปโภค และยึดเครื่องบิน 5 ลำ ที่ท่าอากาศยานในเมืองอัลมาตี ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศ

ขณะที่สื่อคาซัคสถานรายงานว่าตำรวจและทหารรวม 13 นาย ได้ถูกสังหารระหว่างเหตุความไม่สงบที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ

 

ทั้งนี้ภายหลังจากประธานาธิบดีได้ออกมาร้องขอความช่วยเหลือจากรัสเซีย กองกำลังพันธมิตรซึ่งนำโดยรัสเซียก็ระบุว่า พวกเขาจะส่งกองกำลังรักษาสันติภาพเข้าไปเพื่อสร้างสเถียรภาพในคาซัคสถาน

โดยนิโคล ปาชินยาน นายกรัฐมนตรีของอาร์เมเนีย ซึ่งขณะนี้เป็นประธานของ CSTO ระบุในเฟซบุ๊กว่า กองกำลังพันธมิตรจะส่งกองกำลังรักษาสันติภาพเข้าไปในช่วงเวลาหนึ่ง เพื่อคงไว้ซึ่งความสงบเรียบร้อยและทำให้สถานการณ์เป็นปกติ และว่า สถานการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นจากการถูกต่างชาติแทรกแซง

และเมื่อบ่ายวันนี้ มีรายงานว่าพลร่มรัสเซียของหน่วยรักษาสันติภาพ CSTO ซึ่งประกอบด้วยทหารของชาติสมาชิกได้เดินทางเข้าไปถึงคาซัคสถานแล้ว

 

จุดเริ่มต้นเกิดขึ้นเมื่อเดือนมกราคม ปี 2019 ซึ่งมีการเปลี่ยนผ่านให้ซื้อขายเชื้อเพลิงผ่านตลาดหลักทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์ การเปลี่ยนผ่านดังกล่าวจะค่อย ๆ ตัดเงินอุดหนุนเชื้อเพลิงของผู้บริโภคออกไปและทำให้ราคาเชื้อเพลิงค่อย ๆ ปรับขึ้น  นโยบายนี้ส่งผลให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีความต้องการเชื้อเพลิงยังคงสูง ผลกระทบดังกล่าวเห็นได้ชัดในภูมิภาคมังกีย์สะตาอู โดยราคาของก๊าซแอลพีจีขยับขึ้นเป็น 2 เท่าจากราคาเดิม แต่เดิมราคาก๊าซในภูมิภาคนี้อยู่ที่ 0.14 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อลิตร เมื่อมีนโยบายดังกล่าวทำให้ราคาดีดตัวไปที่ 0.28 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อลิตร

เมื่อราคาก๊าซเพิ่มขึ้นนั้นหมายถึงราคาต้นทุนต่าง ๆ ก็จะเพิ่มขึ้นตาม ประกอบกับภูมิภาคมังกีย์สะตาอูนั้น สัดส่วนรถยนต์ร้อยละ 70-90 ใช้ก๊าซแอลพีจีเป็นส่วนใหญ่  แม้ว่าทางตะวันตกของคาซัคสถานจะอุดมไปด้วยน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ แต่คุณภาพชีวิตประชาชนเองกลับไม่ได้ดีตามโดยเฉพาะในเมืองอัลมาตี

เมื่อราคาเชื้อเพลิงแพงขึ้นจึงทำให้ต้นทุนค่าครองชีพสูงขึ้นตาม และประชาชนคือคนที่ได้รับผลกระทบกลุ่มแรก จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมการประท้วงถึงเริ่มต้นขึ้นที่นี่และค่อย ๆ ขยายวงออกไปอย่างที่เห็นกันในตอนนี้

 

จากการประท้วงเรื่องราคาเชื้อเพลิงที่ผ่านมาได้แตกประเด็นออกไปเป็นประเด็นทางการเมืองด้วยในเวลานี้ ผู้คนเริ่มขับไล่อดีตประธานาธิบดีนูร์สุลต่าน นาซาร์บาเยฟ วัย 81 ปี

นาร์ซาบาเยฟ เป็นประธานาธิบดีคนแรกของคาซัคสถานหลังจากแยกตัวออกจากสหภาพโซเวียตเมื่อปี 1991 และเขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีนานเกือบ 30 ปี ก่อนที่จะลาออกเมื่อปี 2019 ที่ผ่านมา เป็นคนที่ถูกมองว่ามีอิทธิพลสูงในทางการเมืองของคาซัคสถาน เขาดำรงตำแน่งผู้นำสภาความมั่นงคงแห่งคาซัคสถาน และครอบครัวของเขามีอิทธิพลในวงการเศรษฐกิจคาซัคสถานและเอเชียกลางมาก โดยการชุมนุมในตอนนี้มีการสร้างคำขวัญว่า Old men must go หรือ พวกชายหัวโบราณต้องออกไป

 

โบตา จาร์เดมาลี นักกฎหมายชาวคาซัคและแอคติวิตส์ได้ให้สัมภาษณ์กับอัลจาซีราว่า ประธานาธิบดีโทคาเยฟเป็นแค่หุ่นเชิด ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการปกครองประเทศที่แท้จริงยังคงเป็นนาร์ซาบาเยฟและระบบของเขา ครอบครัวของเขาผูกขาดแทบจะทุกธุรกิจที่นี่ และผู้ประท้วงมองออกว่าการผูกขาดดังกล่าวสัมพันธ์กับที่ก๊าซขึ้นราคา สิ่งนี้ทำให้ผู้คนไม่พอใจและเมื่อพิจารณาแล้วว่า สองข้อเรียกร้องนี้สัมพันธ์ซึ่งกันและกันการประท้วงจึงยังไม่มีทีท่าว่าจะสงบลง

 

อีกตัวละครที่จะเข้ามามีบทบาทคือ CSTO หรือ Collective Security Treaty Organization เป็นองค์การสนธิสัญญาความมั่นคงร่วมกัน ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ปี 1992  ปัจจุบันมีสมาชิก 6 ประเทศ ได้แก่อาร์เมเนีย เบลารุส คาซัคสถาน คีร์กีซสถาน รัสเซีย และทาจิกิสถาน  นอกจากนี้ยังมีรัฐสังเกตุกาณ์อีก 2 รัฐคือ อาร์เมเนียและเซอร์เบีย

โดยองค์กรมีจุดมุ่งหมายหลักเพื่อเพื่อเสริมสร้างสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศและระดับภูมิภาค ตลอดจนประกันการป้องกันร่วมกันในเรื่องของเอกราช บูรณภาพแห่งดินแดน และอำนาจอธิปไตยของรัฐสมาชิกในสัญญา

ระบบความมั่นคงร่วม คือ ระบบในระดับภูมิภาค หรือ ระดับโลกซึ่งแต่ละรัฐในระบบนั้นยอมรับความมั่นคงรัฐหนึ่ง ๆ เป็นปัญหาของทุกรัฐ ตกลงที่จะเข้าร่วมในการตอบสนองต่อภัยคุกคามและการละเมิดสันติภาพ

สำหรับ CSTO นั้นมีการระบุไว้ในกฎบัตรมาตรา 8 และ 9 ว่ารัฐสมาชิกต้องดำเนินมาตรการร่วมกันเพื่อจัดระเบียบภายในกรอบของระบบความมั่นคงโดยรวมที่มีประสิทธิภาพเพื่อตั้งกองกำลังประสมระดับภูมิภาค  และประเทศสมาชิกจะต้องประสานงานและร่วมมือกันต่อสู้กับการก่อการร้ายระหว่างประเทศหรือภัยคุกคามอื่น ๆ อันเกิดแก่ประเทศสมาชิก

 

นี่คือเหตุผลว่าทำไมประธานาธิบดีโทคาเยฟถึงเรียกหากองกำลัง และทางองค์การก็พร้อมส่งกองกำลังเพื่อรักษาสันติภาพทันที โดยเฉพาะกองกำลังรัสเซีย ที่คาซัคสถานเองมีความสัมพันธ์มาอย่างยาวนาน คาซัคสถานเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีพรมแดนติดกับรัสเซีย จีน และประเทศแถบเอเชียกลางอย่าง คีร์กีซสถาน อุซเบกิสถาน

คาซัคสถานเคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต โดยใช้ชื่อว่าสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตคาซัค หลังจากนั้นได้ประกาศเอกราชจากสหภาพโซเวียตเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ปี 1991 ก่อนการล่มสลายของสหภาพโซเวียตเพียง 9 วัน

ปัจจุบันมีสถานะเป็นประเทศที่เรียกว่า สาธารณรัฐแห่งสหภาพโซเวียต หรือ สาธารณรัฐสหภาพร่วมกับอีก 14 ประเทศที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวคาซัคร้อยละ 50 เป็นชาวรัสเซียอีกร้อยละ 30 และเชื้อชาติอื่น ๆ อีกกว่า 100 เชื้อชาติ

 

ความสัมพันธ์อันดีระหว่างคาซัคสถาน-รัสเซีย

ส่วนเหตุผลที่ต้องเรียกหารัสเซียก็เพราะคาซัคสถานเป็นประเทศที่มีความสัมพันธ์อันดีกับรัสเซียเมื่อเทียบกับประเทศสาธารณรัฐอื่น ๆ เช่น ยูเครน ที่หลังแยกตัวออกมากลับพยายามแยกตัวออกห่างรัสเซีย ตลอดจนคาซัคสถานยังมีประวัติศาสตร์ความร่วมมือด้านความมั่นคงมายาวนาน

หนึ่งในความร่วมมือคือ ไบร์คูร์นอคอสโมโดม ศูนย์อวกาศตั้งแต่สมัยสงครามเย็น  ไบโครนอร์คอสโมโดรม คือพื้นที่ชายฝั่งที่สำคัญด้านอวกาศ ที่นี่คือที่ปล่อยดาวเทียมลำแรกของโลก ดาวเทียมสปุตนิกเมื่อปี 1957 หลังจากที่ประกาศเอกราชออกจากสหภาพโซเวียตแล้วคาซัคสถานเคยพยายามจะเป็นอิสระจากอิทธิพลรัสเซียแต่ด้วยช่องโหว่ด้านประชากร เศรษฐกิจ และการทหารของคาซัคสถานทำให้นาซาร์บาเยฟประธานาธิบดีคนแรกยอมร่วมมือกับรัสเซีย

หลังจากนั้นคาซัคสถานตัดสินใจเช่า ไบร์คูร์นอคอสโมโดมกับรัสเซียในปี 1994  จากนั้นจึงขยายข้อตกลงจนถึงปี 2050 แม้ว่าจะมีความตึงเครียดเป็นครั้งคราวเกี่ยวกับปัญหาการควบคุมและการเปิดตัว  ปัจจุบัน ไบโครนอร์คอสโมโดรม มีพื้นที่ประมาณ 6,717 ตารางกิโลเมตรและมีสิ่งอำนวยความสะดวกทางการทหาร ทำให้สามารถเปลี่ยนเป็นฐานทัพทหารสำหรับรัสเซียในกรณีที่เกิดความขัดแย้ง คาซัคสถานเช่าสิ่งอำนวยความสะดวกทางทหารหรือการฝึกอบรมและการทดสอบไปยังรัสเซียหลายแห่ง และได้ส่งพลเมืองของตนหลายพันคนไปยังรัสเซีย

ประการที่สำคัญ คือ ในด้านภูมิรัฐศาสตร์ คาซัคสถานถือเป็นเหมือนสนามหลังบ้านรัสเซีย ตลอดจนพรมแดนที่ติดกัน หากคาซัคสถานมีปัญหาก็ย่อมหมายถึงความวุ่นวายที่อาจจะเข้ามาในบ้านของรัสเซียด้วยเช่นกัน  จึงน่าติดตามอย่างยิ่งว่าสถานการณ์ในคาซัคสถานจะลงเอยอย่างไร

 

 

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP ต่างประเทศ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

ขณะนี้ มีรายการกำลังถ่ายทอดสด คุณสนใจหรือไม่?

POP NEWS

POP NEWS

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ