“จาการ์ตา” กำลังจะจมน้ำ อินโดฯจึงต้องย้ายเมืองหลวง


โดย PPTV Online

เผยแพร่




เหตุผลในการย้ายเมืองหลวงจากจาการ์ตา เนื่องจากเมืองหลวงของอินโดนีเซียแห่งนี้เต็มไปด้วยปัญหา ที่หนักที่สุดคือ การทรุดตัวของแผ่นดิน ที่คาดว่าอีกไม่นานจาการ์ตาจะจมน้ำทะเล

ทำไมต้องย้ายเมืองหลวง? กรณีศึกษาจากอินโดนีเซีย-อียิปต์

นานาชาติ แห่ช่วยเหลือตองกา - นักวิทย์มึน ภูเขาไฟระเบิดสะเทือนค่อนโลก

ประชากรหนาแน่น รถยนต์และมอเตอร์ไซค์อันจอแจ จาการ์ตาคือเมืองที่คนราว 10 ล้านคน อาศัยกระจุกกันอย่างไร้แบบแผนสลัม ควันพิษ รถติด คือปัญหาที่อยู่กับชาวจาการ์ตาในทุกลมหายใจ แต่อีกปัญหาที่คืบคลานมาน่ากลัวกว่านั้น  นั่นคือบางส่วนของเมืองถูกคาดคะเนว่าจะจมอยู่ใต้น้ำในอีกราว 30 ปีข้างหน้า

สภาวะโลกร้อนทำให้จาการ์ตา เผชิญกับระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นไม่ต่างจากเมืองริมชายฝั่งอื่น ๆ  ทั่วโลก

แต่สาเหตุหลักที่ทำให้ที่นี่มีความเสี่ยงในการจมอยู่ใต้น้ำมากกว่าเมืองไหน ๆ คือ พื้นดินของเมืองเองที่ทรุดต่ำลงทุกปี การสร้างตึกสูงเบียดเสียด ดินอ่อนตัว จนถึงการสูบน้ำบาดาล ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้เมืองใหญ่คับคั่งแห่งนี้ทรุดตัวโดยเฉลี่ย 1-15 เซนติเมตรต่อปี หรือมากที่สุดราวหนึ่งไม้บรรทัด

วันนี้ชาวจาการ์ตาที่อยู่ใจกลางเมืองยังไม่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นตรงๆ ต่อหน้า แต่กับบางพื้นที่นอกเมือง ชีวิตของผู้คนกำลังค่อยๆ ไหลจมลงทะเล ซ้ำร้ายไปกว่านั้น ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นจากภาวะโลกร้อน ยิ่งทำให้พื้นที่แห่งนี้อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลมากขึ้นทุกปี แต่กระนั้นเราก็ยังเห็นบ้านเรือนขนาดใหญ่และตึกสูงผุดขั้นอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่บ้านเรือนขนาดใหญ่ถูกสร้างบนที่ที่ถูกถมจนสูงกว่าระดับน้ำทะเล  ห่างออกไปไม่กี่ร้อยเมตร แนวบ้านเรือนประชาชน 4-5 หลังตรงหน้า คือแนวด่านหน้าของเมืองที่อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลอย่างที่มองด้วยตาเปล่าก็สามารถเห็นได้ หลายร้อยชีวิตยังอาศัยอยู่ในบ้านที่เบียดเสียดหลังคาเกยซ้อนกันจนเหลือแต่ทางเดินที่อับชื้นและมืด

เอ็ตตี สาวชาวอินโดนีเซียรายนี้ อาศัยอยู่ที่ชุมชนแห่งนี้มา 35 ปีแล้ว เธอพาดูรอบ ๆ บ้าน พื้นดินที่ทรุดตัวลงทุกปีทำให้ผนังบ้านเต็มไปด้วยรอยร้าวที่ยาวและลึกขึ้นเรื่อยๆ  บ้านที่อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลยังทำให้น้ำทะเลทะลักเข้าท่วมบ้านบ่อยครั้ง ผนังสีเหลืองที่เต็มไปด้วยรอยคราบสีดำ คือร่องรอยความชื้นจากการที่บ้านเกือบทั้งหลังเคยจมอยู่ใต้น้ำ แม้ในวันที่น้ำแห้งไปแล้ว  ความอับชื้นเรื้อรังยังอบอวลอยู่ภายในบ้าน

ความผูกพันกับพื้นที่และความยากจน คือเหตุผลหลักที่ทำให้คนที่นี่ไม่สามารถย้ายไปอยู่ที่อื่นได้ ที่ผ่านมารัฐบาลอินโดนีเซียได้ทยอยย้ายคนออกจากพื้นที่เสี่ยงให้ไปอยู่ในแฟลตที่รัฐบาลเตรียมไว้ให้ แต่สำหรับเอ็ตตีที่ยังไม่ได้รับข้อเสนอจากรัฐบาล จึงยังต้องทนอาศัยอยู่ที่นี่ต่อไป

ขณะนี้กว่าครึ่งของเมืองจาการ์ตาอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล ตามแนวชายฝั่งของเมืองจึงถูกกั้นล้อมไปแต่พนังกันน้ำ ไม่ต้องคิดถึงวิวทิวทัศน์ริมทะเล  หาดทรายและเกลียวคลื่นหรือป่าชายเลน  มองออกไปมีแต่กำแพงที่เป็นป้อมปราการป้องกันไม่ให้น้ำทะเลบุกรุกเข้ามาในเมือง แต่หากพ้นกำแพงกั้นน้ำออกไป ทุกอย่างกำลังค่อยๆ ทรุดจมลงใต้บาดาล อย่างเช่น มัสยิดหลังนี้

ซากปรักหักพังของมัสยิดสะท้อนความจริงว่า น้ำทะเลจะค่อยๆ ท่วมทับทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ใกล้ และบ้านเรือนหลายหลังในจาการ์ตาอาจอยู่ในสภาพเช่นเดียวกับมัสยิดหลังนี้ในอนาคต ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา จาการ์ตาทรุดตัวลง 4 เมตร หรือเกือบเท่ากับบ้านสองชั้น

 สาเหตุหลักของการทรุดตัวคือการสูบน้ำบาดาลขึ้นมาใช้อย่างหนักหน่วง การสูบน้ำจากใต้ดินทำให้ชั้นดินต่าง ๆ ที่อยู่ด้านบนทรุดตัว บ้านเรือนและอาคารต่าง ๆ จึงทรุดตามลงมา จนเมืองอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล เมื่อเจอฝนในหน้ามรสุม  ระดับน้ำในแม่น้ำสูงขึ้นแต่ไม่สามารถระบายลงทะเลได้ เมืองจึงกลายเป็นแอ่งขังน้ำอย่างดี

แต่ปัญหาที่จาการ์ตาเจอไม่ใช่แค่เพียงน้ำท่วมขังรอการระบาย นอกจากน้ำในแม่น้ำที่ไหลลงทะเลไม่ได้  ยังเจอระดับน้ำทะเลชายฝั่งที่สูงขึ้นจนท่วมท้นเข้ามาอีก การป้องกันไม่ให้จาการ์ตาจมอยู่ใต้น้ำที่ตรงจุดที่สุดคือ การหยุดสูบน้ำใต้ดินขึ้นมา แต่ดูเหมือนว่าตรงนี้เองที่ใช้เวลาและไม่ง่ายอย่างที่คิด ทุกวันนี้มีเพียง 1 ใน 3 ของอาคารบ้านเรือนเท่านั้นที่เข้าถึงน้ำประปา

หญิงชาวอินโดนีเซียรายนี้ต้องออกมาสูบน้ำบาดาลในชุมชนทุกวัน  เพราะการติดตั้งน้ำประปาช้า ยุ่งยากและแพงไปสำหรับเธอ น้ำจากใต้ดินจึงเป็นแหล่งน้ำราคาถูกสุดสะอาดสุดเท่าที่หาได้ และใช้ทำทุกอย่างตั้งแต่ซักผ้า ดื่มกิน จนถึงทำอาหาร ส่วนสาเหตุที่จาการ์ตาไม่สามารถให้บริการน้ำประปาได้ทั่วถึง เพราะไม่มีแหล่งน้ำสะอาดที่เพียงพอ เนื่องจากจาการ์ตาเป็นอีกเมืองที่มีแม่น้ำสกปรกมากที่สุดในโลก

สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับจาการ์ตาสะท้อนถึงการบริหารจัดการเมืองที่ไร้ประสิทธิภาพ อีกทั้งการไม่ใส่ใจของมนุษย์ต่อโลก  บ้านหลังเดียวที่ตัวเองอาศัยอยู่

การละเลยเรื่องเล็ก ๆ ได้กลายเป็นต้นตอของปัญหาหนึ่ง  หลาย ๆ เรื่องรวมกันก่อเป็นมวลคลื่นของปัญหาใหญ่ที่สาดซัดเข้าใส่จาการ์ตาอย่างรุนแรง นำมาสู่การตัดสินใจย้ายเมืองหลวง เป้าหมาย คือ ข้ามฟ

ากเกาะชวา ไปยังจังหวัดกาลีมันตะวันออก บนเกาะบอร์เนียว และล่าสุดรัฐบาลอินโดนีเซียประกาศชื่อเมืองหลวงใหม่ออกมาแล้ว นั่นคือ นูซันตารา

 

ความท้าทายไม่ใช่แค่การสร้างเมืองหลวงใหม่แข่งกับเวลาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการโยกย้ายคนและศูนย์กลางราชการและธุรกิจไปอยู่ที่นั่น  จาการ์ตามีผู้อยู่อาศัยมากถึง 10 ล้านคน ถือเป็นเมืองที่หนาแน่นอันดันต้น ๆ ของโลก  คนจากต่างเมืองเข้ามาที่นี่ เพราะจาการ์ตาเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ มีโอกาส และมีงานให้ทำมากกว่าบ้านเกิด การโยกย้ายพื้นที่ที่เคยเป็นศูนย์กลางของทุกอย่างแบบนี้ย่อมใช้เวลา อีกทั้งคนหลายล้านคนก็น่าจะไม่ย้ายไปไหนง่าย ๆ ในระยะเวลาอันใกล้ ตราบใดที่ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจยังอยู่ที่นี่

ตามแผนงานแล้ว โครงการย้ายเมืองหลวงใช้งบประมาณมากถึง 1 ล้านล้านบาท นับเป็นโครงการที่ใหญ่ที่สุดของรัฐบาลอินโดนีเซีย มีเสียงต่อต้านจากบรรดานักสิ่งแวดล้อม เนื่องจากกังวลว่าการย้ายเมืองหลวงอาจส่งผลกระทบให้พื้นที่ป่าบนเกาะบอร์เนียวลดลง  อย่างไรก็ตามขณะนี้โครงการเริ่มขึ้นแล้ว และด้วยปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กำลังทวีความรุนแรงมากขึ่นเรื่อยๆ จาการ์ตาจะไม่ใช่เมืองหลวงแห่งสุดท้ายที่ต้องย้ายหนีน้ำ

TOP ต่างประเทศ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ