เปิด 3 ปมเหตุความสัมพันธ์ ไทย-ซาอุฯ ห่างเหินกว่า 30 ปี


โดย PPTV Online

เผยแพร่




นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะบินเยือนซาอุดิอาระเบีย อย่างเป็นทางการแล้ว เมื่องช่วงเช้าที่ผ่านมา เป็นการเยือนในระดับผู้นำรัฐบาลระหว่างสองประเทศเป็นครั้งแรกในรอบ 32 ปี หวังฟื้นฟูความสัมพันธ์ ที่ห่างเหินกันไปนาน พร้อมกันนี้ก็ลุ้นข่าวดีกับโอกาสที่จะส่งออกแรงงานไทยไปซาอุฯอีกครั้ง

นายกฯเยือนซาอุฯ 25 – 26 ม.ค. นี้ ครั้งแรกในรอบ 30 ปีของรัฐบาลไทย

แปลกตา! หิมะและพายุลูกเห็บปกคลุมทะเลทรายซาอุดิอาระเบีย

การเยือนซาอุดิอาระเบีย ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นการเยือนอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 25-26 ม.ค. เป็นไปตามคำเชิญของเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมซาอุดีอาระเบีย ถือเป็นการเยือนในระดับผู้นำรัฐบาลระหว่างสองประเทศเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี

นายกรัฐมนตรีมีกำหนดเข้าเฝ้าและพบปะหารือกับเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมซาอุดีอาระเบีย

เพื่อส่งเสริมและกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างกัน โดยมีรายงานว่าทั้งสองประเทศจะฟื้นฟูและยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างกัน ทั้งในด้านการต่างประเทศ ด้านเศรษฐกิจ และแรงงาน

ก่อนออกเดินทางพล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์โดยผู้สื่อข่าวถามว่า การเดินทางเยือนครั้งนี้จะมีโอกาสดีในการฟื้นความสัมพันธ์อันดีหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า ก็ต้องดีกว่า 32 ปีที่ผ่านมา ซึ่งได้รับเกียรติในการที่ได้รับเชิญไปหารือฟื้นความสัมพันธ์เก่าๆ ก็ต้องดีขึ้น ส่วนจะมีโอกาสที่แรงงานไทยจะได้กลับไปทำงานที่ซาอุฯ หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ทุกเรื่อง จะได้มีการพูดคุยหารือ ซึ่งต้องเริ่มต้นกันก่อน

 

รมว.แรงงงาน ย้อนอดีตกว่า 30 ปี แรงงานไทยในซาอุฯ

ด้านนายสุชาติ ชมกลิ่ม รมว.แรงงานที่ร่วมคณะไปกับนายกรัฐมนตรีด้วย  กล่าวก่อนเดินทางว่า ในการเดินทางเยือนราชอาณาจักรซาอุดีอาราเบียอย่างเป็นทางการ ของนายกรัฐมนตรีและคณะ  ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดี ส่วนตัวรู้สึกตื่นเต้น เพราะยังไม่เคยไป  พ่อของตนเองเคยทำงานที่ซาอุฯ เมื่อปี 2528 ขณะนั้นตนเองอายุ 11 ปี เพราะในอดีต แรงงานไทยได้เดินทางไปทำงาน 2-3 แสนคน จนทำให้เกิดการแต่งเพลงถึงคนที่ไปทำงาน ที่นั่น

 

ปมเหตุความสัมพันธ์ ไทย-ซาอุฯ ห่างเหินกว่า 30 ปี

ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับซาอุดิอารเบีย เหินห่างกันมากว่า 30 ปี เนื่องมาจาก 3 เรื่องอื้อฉาวที่ ซึ่งทางการไทยยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน ให้กับประเทศซาอุฯ  ได้แก่ กรณีเพชร "บลูไดมอนด์ ที่หายไปอย่างไร้ร่องรอย  การฆาตกรรมนักการทูต และคดีอุ้มฆ่านักธุรกิจ  ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ในช่วงปี 2532-2533

- เหตุการณ์ที่ 1   เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2532 เจ้าหน้าที่การทูตขซาอุดีอาระเบีย 4 รายถูกฆ่ากลางกรุง  โดยทีตำรวจไม่สามารถจับคนร้ายตัวจริงมาลงโทษได้

- เหตุการณ์ที่ 2 เกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ปีเดียวกัน  คดีอุ้มฆ่า มุฮัมมัด อัลรูไวลี นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย และเป็นสมาชิกราชวงศ์ ได้หายตัวไปอย่างลึกลับ ต่อมาจึงมีการจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลชุดหนึ่ง ข้อหา ‘อุ้ม’ อัลรูไวลีไปเค้นข้อมูล เพราะเชื่อเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการตายของเจ้าหน้าที่การทูตของซาอุดีอาระเบียที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เรื่องนี้ทำให้ทางการซาอุดีอาระเบียไม่พอใจอย่างยิ่ง จนถึงขั้นลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูต ออกข้อจำกัดเกี่ยวกับแรงงานไทย ห้ามประชาชนของซาอุดีอาระเบียเดินทางมาประเทศไทย และลดระดับความร่วมมือระดับสูงในทุกด้านลงมาอยู่ระดับต่ำสุด

- เหตุการณ์ที่ 3 ที่เข้ามาซ้ำเติมทุกอย่างให้แย่ถึงขีดสุด คือคดีเพชรซาอุ  ช่วงเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2532 คนงานไทยชื่อ เกรียงไกร เตชะโม่ง ซึ่งไปทำงานในวังของเจ้าชายซาอุดีอาระเบีย ลักลอบโจรกรรมเพชรกลับประเทศ โดยตำรวจไทยไม่สามารถติดตามเพชรของกลางหลายรายการกลับส่งคืนให้ซาอุดีอาระเบียได้ทั้งหมด โดยเฉพาะเพชร ‘บลูไดมอนด์’ เม็ดใหญ่สุด ยิ่งไปกว่านั้นของกลางในส่วนที่ติดตามกลับมาได้ ยังมีการเอาไปปลอมแปลงก่อนเอาไปคืนให้ซาอุดีอาระเบีย

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรัฐมนตรีและคณะจะเดินทางกลับในวันพรุ่งนี้ เวลาประมาณ 08.45 น. ที่บน.6 โดยทันทีที่เดินทางถึง พล.อ.ประยุทธ์ และคณะจะ ต้องเข้ามาตรการควบคุมโรค ซีลรูท ทั้งการตรวจเชื้อโควิด RT- PCR สังเกตุอาการ รักษาระยะห่าง โดยจะทำการตรวจ RT-PCR อีกครั้ง ในวันที่ 30 มกราคม นี้ เมื่อครบ 5 วัน หลังเดินทางกลับ

 

TOP ต่างประเทศ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ