สหรัฐฯคว่ำบาตรทางการค้า สองแคว้นกบฏในยูเครน หลังรัสเซียรับรองเอกราช
ยูเครนประณามรัสเซีย ย้ำไม่ได้เป็นหนี้ใคร
เมื่อวานนี้ ( 21 ก.พ. 2565) โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดีของยูเครน ได้ออกแถลงการณ์ตอบโต้หลังจากที่ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีของรัสเซีย ได้ลงนามรับรองเอกราชให้กับยูเครนตะวันออก เขากล่าวว่ารัสเซียกำลังละเมิดอธิปไตยของยูเครนและกำลังละเมิดข้อตกลงมินสค์ พฤติกรรมดังกล่าวของรัสเซียกำลังปิดประตูการเจรจาสันติภาพที่หลายชาติพยายามร่วมมือกันอยู่ในตอนนี้
เซเลนสกี กล่าวว่า เขาได้เตรียมหารือกับประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส นายกบอริส จอห์นสัน ผู้นำสหราชอาณาจักร และผู้นำชาติยุโรปอื่น ๆ ด้วย พร้อมยืนยันว่ายูเครนจะทำงานร่วมกับ OSCE เพื่อป้องกันความรุนแรงที่อาจเพิ่มขึ้น
โดยย้ำชัดว่าจะใช้วิธีทางการทูตเท่านั้น แต่กระนั้นยูเครนก็จะใช้สิทธิตามกฎหมายระหว่างประเทศเพื่อปกป้องตนเอง เนื่องจากยูเครนสามารถแยกแยะได้ว่า รูปแบบไหนคือการโจมตีของผู้รุกราน และรูปแบบไหนคือการยั่วยุจากฝั่งตรงข้าม
ผู้นำยูเครน ระบุก่อนจบการแถลงว่ายูเครนไม่กลัวสิ่งใดทั้งนั้น พวกเขาอยู่ในบ้านของตน และจะไม่ให้สิ่งใดกับใครก็ตาม นี่คือเดือนกุมภาพันธ์ปี 2022 ไม่ใช่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2014 ที่รัสเซียเคยบุกคาบสมุทรไครเมีย
ล่าสุด เประธานาธิบดีเซเลนสกี ได้แถลงว่า นี่คือการยกระดับความรุนแรงของรัสเซีย การประกาศเอกราชของทั้งสองแคว้นคือการสร้างความชอบธรรมทางกฎหมายก่อนที่รัสเซียจะรุกรานยูเครน
ชาวยูเครนกังวล หลัง "ปูติน" รับรองเอกราชยูเครนตะวันออก
สำนักข่าว AFP ได้ลงพื้นที่สอบถามความเห็นชาวยูเครนที่อาศัยอยู่ในเมืองอัฟดิฟกาซึ่งเป็นเมืองด่านหน้าของยูเครน เพราะตั้งอยู่ไม่ไกลจากแคว้นโดเนตสก์ประชาชนต่างลงความเห็นว่ากังวลกับสิ่งที่เกิดขึ้นว่าจะเป็นเหมือนปี 2014 ที่มีการผนวกคาบสมุทรไครเมีย
นอกจากนี้พวกเขาเชื่อว่าทั้งสองแคว้นไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของยูเครนมานานแล้ว การไปครั้งนี้จึงเป็นการไปแบบไม่กลับ เนื่องจากผู้คนบริเวณนั้นมีวิถีชีวิต และระบบการเมืองเป็นของตนเอง
