จากเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน สั่งให้หน่วยรบนิวเคลียร์เตรียมความพร้อมขั้นสูงสุด จนทำให้เกิดความกังวลไปทั่วโลกว่าสงครามในยูเครน จะลุกลามบานปลายเป็นสงครามนิวเคลียร์หรือไม่
ล่าสุด ผู้นำสหรัฐฯ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว ยืนยันว่า ชาวอเมริกันไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องความเสี่ยงที่จะเกิดสงครามนิวเคลียร์ สอดคล้องกับนางเจน ซากี โฆษกหญิงประจำทำเนียบขาว ระบุว่า ยังไม่มีความจำเป็นต้องยกระดับเตือนภัยด้านนิวเคลียร์ในเวลานี้ และสหรัฐฯ กำลังพิจารณาคว่ำบาตรเพิ่มเติมในภาคพลังงาน
อียู ตอบโต้รัสเซีย จัดซื้อและส่งอาวุธให้กับยูเครน ยกระดับมาตรการคว่ำบาตร
ผู้นำโลก ร่วมประณามรัสเซีย เตรียมใช้มาตรการคว่ำบาตรรุนแรง
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี จัสติน ทรูโด ของแคนาดา ออกมาประกาศว่า รัฐบาลเห็นชอบส่งอาวุธทำลายรถถังให้แก่ยูเครน และจะสั่งห้ามนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย
“ยูเครน” ขอ “อบราโมวิช” ช่วยเจรจา "ปูติน" ยุติสงคราม
ทรูโดระบุว่า รายได้จากการส่งออกน้ำมันเป็นอีกช่องทางที่สนับสนุนปูติน และกลุ่มชนชั้นนำในประเทศ
ที่ผ่านมา มาตรการลงโทษส่วนใหญ่ของชาติตะวันตก มักจะมุ่งเน้นไปที่ภาคการธนาคารของรัสเซีย เนื่องจากหลายชาติยุโรปยังต้องพึ่งพาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย แต่แคนาดา ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่อันดับ 4 ของโลก นำเข้าน้ำมันจากรัสเซียเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ขณะเดียวกัน รัฐบาลแอลจีเรีย ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติไปยังยุโรป ระบุว่า พร้อมที่จะส่งก๊าซธรรมชาติเพิ่มเติมให้กับชาติยุโรป ผ่านท่อส่งก๊าซที่เชื่อมต่อกับอิตาลี เพื่อชดเชยก๊าซที่ขาดหายไปจากฝั่งรัสเซีย ท่ามกลางวิกฤตความขัดแย้ง
ยูเครนเตรียมปล่อยนักโทษที่มีทักษะทางทหาร สู้กับรัสเซียชดเชยความผิด
นอกจากมาตรการลงโทษจากสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรแล้ว ล่าสุด เรายังได้เห็นท่าทีจากรัฐที่มีสถานะเป็นกลางอย่างสวิตเซอร์แลนด์และฟินแลนด์ โดยนายกฯ หญิงฟินแลนด์ ประกาศเตรียมส่งอาวุธและอาหารให้กับยูเครน ส่วนสวิตเซอร์แลนด์ ออกมาร่วมวงใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย ตามมาตรการทั้งหมดของสหภาพยุโรป