รัสเซีย ยิงจรวดบึ้มโรงซ่อมเครื่องบินเมืองลวิฟ ฝั่งตะวันตกยูเครน
อุปทูตยูเครนโต้รัสเซีย “เราไม่ใช่คนเริ่มสงคราม แต่เราจะหยุดมัน”
เมตเลิฟ ชาวูโซลู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศตุรกี ได้เดินทางเยือนเมืองลวิฟซึ่งอยู่ทางตะวันของยูเครน และเข้าพบกับดมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซียเพื่อเจรจาถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ในการเยือนครั้งนี้ ชาวูโซลู กล่าวว่า ตุรกีจะเป็นคนกลางในการจัดการเจรจาระหว่างผู้นำรัสเซียกับยูเครนให้ได้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยูเครนก็ออกมาแถลงข่าวถึงประเด็นดังกล่าว
สิ่งที่น่าสนใจคือ ยูเครนต้องการให้ตุรกีเป็นผู้ค้ำประกันข้อตกลงที่ทำกับรัสเซีย เยอรมนี และ 5 ประเทศสมาชิกถาวรในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ได้แก่ สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส จีน รัสเซีย และสหรัฐฯ
ทั้งนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการประเทศตุรกี ยังไม่ได้ยืนยันว่าจะสามารถทำตามคำขอของทางยูเครนได้หรือไม่ แต่เขายืนยันในตอนท้ายของการสัมภาษณ์ว่าทางตุรกีต้องการข้อตกลงหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมโดยด่วนและหวังว่าจะสร้างข้อตกลงยุติถาวรได้
ผู้นำรัสเซียต่อสายตรงคุยกับผู้นำตุรกี
นอกจากการไปเยือนยูเครนของตุรกีแล้ว วันนี้สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า อิบราฮิม คาลิน ที่ปรึกษาและโฆษกของเรเจป เทย์ยิป เออร์โดกัน ประธานาธิบดีตุรกีออกมาเปิดเผยว่าเมื่อวานนี้ผู้นำรัสเซียต่อสายหาผู้นำตุรกีและเจรจากันนานกว่าชั่วโมงครึ่ง
ที่ปรึกษาของผู้นำตุรกี ระบุว่า สิ่งที่รัสเซียต้องการมี 2 ชุด คือ ชุดแรกมี 4 ข้อและยูเครนน่าจะทำได้ ประกอบไปด้วย
1. ยูเครนต้องเป็นกลางและไม่เข้าร่วมกับนาโต
2. ยูเครนต้องปลดอาวุธเพื่อไม่เป็นภัยกับรัสเซีย
3. ยูเครนต้องอนุรักษ์ภาษารัสเซียในยูเครนไว้
4. ยูเครนต้องกำจัดพวกลัทธินาซี
ส่วนชุดที่สองนั้นเป็นส่วนที่ยากมากสำหรับยูเครนและการเจรจา เพราะเป็นเรื่องบูรณภาพแห่งดินแดน โดยประกอบไปด้วยเรื่องการประกาศเอกราชให้โดเนตสก์และลูฮันสก์ ตลอดจนการยอมรับสถานภาพของไครเมียว่าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย
เมื่อดูในรายละเอียดจะพบว่าข้อเรียกร้องของรัสเซียชุดแรกในข้อ 2, 3 และ 4 เป็นข้อเรียกร้องที่ตั้งเอาไว้เพื่อไม่ให้รัสเซียเสียหน้ามากจากการบุกครั้งนี้ และเนื้อหาสาระจริง ๆ อยู่ที่ข้อ 1 และข้อเรียกร้องชุดที่สองเท่านั้น
หลังจากที่มีสัญญาณแบบนี้ออกมา เหล่านักวิเคราะห์ก็ได้ออกมาให้ความเห็นถึงความเป็นไปได้ของการยุติสงครามในครั้งนี้
นักวิเคราะห์ชี้มีโอกาสยุติการรุกรานหลังการเจรจา
มาเรีย โอ คอนแนล ศาสตราจารย์ด้านการระงับข้อพิพาทระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัย นอทเทอร์ดาม ประเทศฝรั่งเศส ให้ความเห็นว่า ตอนนี้ความขัดแย้งอยู่ในจุดเชื่อมที่สำคัญ เพราะรัสเซียล้มเหลวในการบุกครั้งนี้ และกำลังหาทางลงอยู่ โดยการบุกครั้งนี้ของรัสเซียไม่สมเหตุสมผล และเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้วที่สหรัฐฯไม่ได้กระโจนเข้าไปในเกมที่ไม่สมเหตุสมผลนี้
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าการกระทำของประธานาธิบดีปูตินจะไม่สมเหตุสมผล แต่นักวิเคราะห์รายนี้มองว่า การเจรจาต่อรองก็ยังเป็นไปได้อยู่ โดยการเจรจาต่อรองที่นำไปสู่การที่ยูเครนมีหลักประกันด้านความมั่นคง น่าจะพอเป็นทางที่ปูตินออกจากสงครามครั้งนี้ได้
คอนแนล ระบุว่า เพียงแค่หวังว่าในระหว่างนี้ ประธานาธิบดีปูตินจะไม่ตัดสินใจทำอะไรที่ไม่สมเหตุสมผลอีก เช่น การใช้อาวุธเคมี และถ้าปูตินมีเหตุผลพอ การเจรจาระหว่างผู้นำรัสเซียและยูเครนก็น่าจะหาข้อสรุปที่ตรงกันได้ และในส่วนของสหรัฐฯ ก็น่าจะพอใจกับเรื่องนี้ โดยมองว่า หากตกลงกันได้ สหรัฐฯ อาจเล่นบทบาทฟื้นฟูยูเครนให้ดีขึ้นเหมือนตอนที่สหรัฐฯ ฟื้นฟูยุโรปในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
ทั้งนี้รายละเอียดในข้อตกลงสันติภาพต้องทำด้วยความระมัดระวังเนื่องจากหากมีช่องโหว่ให้รัสเซียใช้พลิกแพลง ก็อาจทำให้ถูกใช้เป็นเหตุผลในการบุกยูเครนได้อีกในอนาคต