สหรัฐฯ ระบายน้ำมันสำรองทุบสถิติ 180 ล้านบาร์เรล สกัดราคาพุ่ง
กองทัพรัสเซียถอนกำลังออกจากโรงไฟฟ้าเชอร์โนบิล กลับเบลารุส
นาย วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เปิดเผยว่าได้ลงนามในกฎหมายที่บังคับให้ประเทศอื่นต้องซื้อก๊าซจากรัสเซียด้วยสกุลเงินรูเบิล ตั้งแต่วันนี้ (1 เม.ย.54) เป็นต้นไป
โดย ปูติน ระบุว่า ประเทศที่ต้องการซื้อก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียจะต้องเปิดบัญชีด้วยสกุลเงินรูเบิลกับธนาคารในรัสเซีย และการชำระเงินจะต้องมาจากธนาคารเหล่านี้ นอกจากนี้เตือนว่าหากไม่ปฎิบัติตามหลักเกณฑ์ดังกล่าว รัสเซียจะถือว่าเป็นการผิดนัดชำระหนี้ในส่วนของผู้ซื้อ ซึ่งผลลัพธ์ที่จะตามมาคือการยุติสัญญาซื้อขายก๊าซที่มีอยู่ทั้งหมด
“วันนี้ผมได้ลงนามในประกาศที่จัดตั้งกฎเกณฑ์สำหรับการซื้อก๊าซธรรมชาติของรัสเซียกับชาติที่ถูกเรียกว่า ชาติไม่เป็นมิตร เราได้เสนอฝ่ายคู่ค้าจากประเทศเหล่านั้นด้วยแผนที่ชัดเจนและโปร่งใส เพื่อจัดซื้อก๊าซธรรมชาติของรัสเซีย พวกเขาจะต้องเปิดบัญชีสกุลรูเบิลในธนาคารของรัสเซีย การจ่ายค่าก๊าซจะเกิดขึ้นจากบัญชีเหล่านั้น”
“ถ้าหากไม่มีการจ่ายในลักษณะดังกล่าว เราจะพิจารณาว่านี่คือการผิดสัญญาของฝ่ายผู้ซื้อ โดยจะมีผลลัพธ์ที่แน่นอนตามมา ไม่มีใครซื้ออะไรเราโดยไม่ต้องจ่าย และเราจะไม่ทำงานการกุศล นอกเหนือไปกว่านั้น ในกรณีนี้ สัญญาที่มีอยู่จะถูกระงับ” ปูติน กล่าว
การที่ประธานาธิบดีปูติน สั่งให้ได้ดำเนินมาตรการปรับเปลี่ยนระบบการซื้อขายก๊าซจากรัสเซีย โดยกำหนดให้ประเทศที่ไม่เป็นมิตรต้องจ่ายเป็นสกุลเงินรูเบิลเท่านั้น เป็นการโต้กลับชาติตะวันตก ในประเด็นการถูกคว่ำบาตรด้านพลังงาน หลังก่อนหน้านี้ สหภาพยุโรป ซึ่งยุโรปเป็นประเทศรายใหญ่ที่สุดในการซื้อน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย เห็นพ้องต้องกันที่จะทำงานร่วมกันในการร่วมจัดซื้อก๊าซ แอลเอ็นจีและไฮโดรเจน ก่อนจะถึงฤดูหนาวหน้า และจะมีมาตรการร่วมกันเพื่อเติมการจัดเก็บก๊าซ โดยวัตถุประสงค์คือจะพยายามมุ่งเน้นไปที่การใช้ก๊าซที่ไม่ใช่ของรัสเซีย
ขณะที่ก่อนหน้านี้ ด้านนางเออร์ซูลา วอน เดอ เลเย่น ประธานสหภาพยุโรป หรือ อียู (EU) ได้ออกมาตอบโต้ว่า รัสเซียจะไม่ได้รับอนุญาตให้มาเรียกร้องการจ่ายเงินซื้อน้ำมันและก๊าซเป็นเงินสกุลรูเบิล
เช่นเดียวกันกับนายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ ของเยอรมนี ที่ปฏิเสธที่จะจ่ายค่าพลังงานเป็นเงินสกุลรูเบิล โดยระบุว่า เขาได้บอกกับประธานาธิบดีปูตินไปแล้วว่า เยอรมนีได้ตรวจสอบสัญญาที่ทำกับรัสเซียเอาไว้ถึงเรื่องการจัดซื้อก๊าซธรรมชาติ และจะยังคงจัดเงินในสกุลยูโร หรือบางครั้งก็อาจจะเป็นเงินดอลลาร์
“เราได้ไปดูสัญญาเรื่องก๊าซและอื่น ๆ มันระบุเอาไว้ว่า การจัดเงินจะจ่ายเป็นเงินยูโร บางครั้งเป็นดอลลาร์ แต่แน่นอนว่าปกติแล้วเป็นยูโร และผมได้พูดชัดเจนไปแล้วครับกับประธานาธิบดีปูตินว่า ในกรณีนี้เราก็จะทำเช่นนั้นต่อไป และสำหรับไอเดียของเขาก็คือ มันสามารถทำได้ ถ้าเราไปดูในรายละเอียดตอนนี้ แต่ในกรณีใด ๆ ก็ตาม สิ่งที่พวกเขาต้องการในการปรับใช้กับบริษัทเหล่านั้น สามารถและจะจ่ายด้วยสกุลยูโร” นายกรัฐมนตรีของเยอรมนี กล่าว
ผู้นำเยอรมนี กล่าวต่อว่า เยอรมนีหวังว่าจะสามารถเป็นอิสระมากขึ้นจากการพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันและถ่านหินจากรัสเซียได้ในปีนี้ แต่อาจจะต้องใช้เวลานานหน่อยในการลดการนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย
ทั้งนี้การลดการพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียอาจจะเป็นประเด็นใหญ่ที่ทางยุโรปกำลังเร่งหาวิธี เนื่องจากหลายชาตินำเข้าพลังงานจากรัสเซียเป็นสัดส่วนที่มากจริง ๆ และการที่จะลดการพึ่งพารัสเซียนั้น ดูเหมือนจะเป็นไปได้ยาก
อย่าง บัลแกเรีย นำเข้าก๊าซจากรัสเซียมากถึง 90 เปอร์เซ็นต์ โปแลนด์ นำเข้าก๊าซรัสเซียคิดเป็นสัดส่วนมากถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ส่วนกรีซและอิตาลี นำเข้าก๊าซจากรัสเซียมากถึงราว 40 เปอร์เซ็นต์
สหรัฐฯจะระบายน้ำมันหวังราคาเชื้อเพลิงถูกลง
ด้าน โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตั้งแต่เดือน พ.ค.เป็นต้นไป สหรัฐฯ จะระบายน้ำมันจากคลังสำรองปิโตรเลียมด้านยุทธศาสตร์วันละ 1 ล้านบาร์เรล ไปตลอดอีก 6 เดือน หรือ 180 วัน โดยหวังว่า จะช่วยทำให้ราคาน้ำมันที่ในเวลานี้ปรับตัวสูงขึ้น จากวิกฤตสงครามในยูเครนลดลง
ไบเดน ระบุอีกว่า การระบายน้ำมันรวม 180 ล้านบาร์เรลครั้งนี้ นับเป็นการระบายคลังน้ำมันสำรองครั้งใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ทั้งนี้เพื่อเป็นการให้เวลาสำหรับการขยายกำลังการผลิตไปจนถึงช่วงปลายปีนี้
โดยต่อมาภายหลังการประกาศดังกล่าวของไบเดน ทำให้ราคาน้ำมันดิบตลาดเวสต์เท็กซัส หรือ WTI ปรับตัวลดลง ประมาณ 6 เปอร์เซ็นต์ ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ลดลงประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์
ผู้สื่อข่าวยังได้ไปถามผู้นำสหรัฐฯเกี่ยวกับข่าวกรองที่ว่า ประธานาธิบดีของรัสเซีย รู้สึกว่าตนเองถูกหลอกลวงจากบรรดาที่ปรึกษา เกี่ยวกับผลงานของกองทัพรัสเซียในยูเครน และผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจรัสเซียจากมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก เพราะบรรดาที่ปรึกษาของเขาไม่กล้าพูดความจริง ทำให้ในเวลานี้เกิดความตึงเครียดขึ้นระหว่างปูติน และบรรดาผู้นำกองทัพของเขา
โดย ไบเดน ระบุถึงเรื่องดังกล่าวว่า ดูเหมือนว่าผู้นำรัสเซียจะรู้สึกเหมือนตัวเองถูกโดดเดี่ยว และก็มีหลักฐานที่ชี้ว่า เขาได้ไล่หรือจับกุมตัวของที่ปรึกษาบางคนเอาไว้แล้ว
ปธน.ยูเครน ชี้ดอสบาส-มาริอูปอล สถานการณ์น่าห่วง หลังรัสเซียระดมพลครั้งใหม่
รัสเซีย เตรียมใช้ทหารรับจ้างรบในพื้นที่ยูเครนตะวันออก