ผู้สื่อข่าวต่างประเทศหลายสำนักที่ประจำอยู่ในเมืองโอเดสซา เมืองท่าสำคัญ ทางตอนใต้ของยูเครน รายงานตรงกันว่า ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นหลายระลอก ในช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ก่อนจะมีเปลวไฟและกลุ่มควันดำหนาทึบลอยขึ้นจากพื้นที่ที่เป็นย่านอุตสาหกรรมของเมือง
ผู้สื่อข่าว วอชิงตัน โพสต์ คาดการณ์ว่า เป้าหมายที่ถูกถล่มโจมตี น่าจะเป็นคลังน้ำมันอย่างน้อย 1 แห่ง ที่อยู่ไม่ห่างจากใจกลางเมือง
อัปเดต! รัสเซีย-ยูเครน รบดุเดือด เร่งช่วยคนติดชั้นใต้ดินโรงละคร ราว 1.3 พันคน
รัสเซียกลายเป็นชาติที่ถูกคว่ำบาตรมากที่สุด
โฆษกกองกำลังประจำเมืองโอเดสซา เปิดเผยว่า รัสเซียยิงขีปนาวุธใส่โครงสร้างพื้นฐานสำคัญหลายจุด แต่กองทัพสามารถสกัดทำลายขีปนาวุธเบื้องส่วนไว้ได้ เบื้องต้น ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต พร้อมประกาศให้ชาวเมืองรีบหาที่หลบภัย
การโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้น หลังกองกำลังรัสเซียถอนกำลังออกจากเมืองสำคัญรอบ ๆ กรุงเคียฟ เพื่อไปมุ่งเสริมกำลังทางตะวันออกและทางใต้ของยูเครนแทน
ขณะที่รัฐมนตรีช่วยกลาโหมของยูเครน ประกาศว่า ทหารได้ยึดคืนกรุงเคียฟและเมืองรอบนอกอื่นๆ ในภูมิภาคเดียวกัน ทั้งเมืองบูชา และเอียร์ปิน ให้กลับมาอยู่ในการควบคุมได้อีกครั้งแล้ว
สนามบินฮอสโตเมล (Hostomel) ในกรุงเคียฟ เป็นอีกหนึ่งจุดที่ปลอดจากทหารรัสเซีย เหลือไว้แค่ซากเครื่องบินอันโตนอฟ เอเอ็น-225 (Antonov An-225) หรือ มรียา (Mriya) เครื่องบินขนส่งสินค้าที่มีขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมากที่สุดในโลก ซึ่งถูกรัสเซียยิงถล่มระหว่างเข้าโจมตีกรุงเคียฟ
ดมิโทร อันโตนอฟ (Dmytro Antonov) นักบินของเครื่อง ระบุว่า แทบไม่มีความหวังที่จะฟื้นฟูและซ่อมแซมเครื่องใหม่อีกครั้ง โดยข้อมูลจากกระทรวงกลาโหมยูเครน คาดว่า ต้องใช้งบประมาณถึง 1 แสนล้านบาท ในการสร้างเครื่องบินลำนี้ขึ้นให้กลับมาอยู่ในสภาพใช้การได้อีกครั้ง
ขณะที่ศูนย์วิจัยอิสระ เลวาดา เซ็นเตอร์ (Levada Center) ของรัสเซีย เผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในประเทศ ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 1,632 คน ระหว่างวันที่ 24-30 มีนาคม พบว่า 83% เห็นด้วยกับประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ที่สั่งเปิดฉากปฏิบัติการทหารในยูเครน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี ที่คะแนนนิยมของปูตินพุ่งทะลุ 80%
หากจำแนกตามอายุ จะพบว่า คนที่มีอายุ 55 ปี ขึ้นไป มีแนวโน้มจะสนับสนุนการตัดสินใจของปูติน มากกว่ากลุ่มที่มีอายุไม่เกิน 24 ปี
ศูนย์วิจัยเลวาดา ระบุว่า ผลสำรวจสะท้อนให้เห็นว่ามีประชาชนจำนวนมากเชื่อในโฆษณาชวนเชื่อของรัฐบาลก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว คะแนนนิยมของปูตินอยู่ที่เพียง 63% ก่อนจะค่อย ๆ ปรับเพิ่มขึ้น นับตั้งแต่ทหารรัสเซียเริ่มประชิดชายแดนยูเครน