ผ่านมา 6 สัปดาห์แล้วสำหรับเหตุการณ์บุกยูเครนของรัสเซีย ซึ่งทำให้ประชาชนในยูเครนต้องอพยพลี้ภัยออกจากประเทศไปแล้วมากกว่า 4 ล้านคน บาดเจ็บและเสียชีวิตอีกหลายพัน หลายเมืองกลายเป็นซากปรักหักพัง
แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีหลายฝ่ายที่ออกมาคาดการณ์ว่า ทางฝ่ายผู้รุกรานอย่างรัสเซียเอง ก็ประสบความสูญเสียที่หนักหนาไม่แพ้กัน ทั้งชีวิตของทหาร อาวุธยุทโธปกรณ์ รวมถึงความเสียหายทางเศรษฐกิจจากการถูกนานาชาติคว่ำบาตร
UN ขับรัสเซียออกจากหน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชน
เยอรมนีดักฟัง ทหารรัสเซียคุยกันเรื่อง “เจตนาสังหารพลเรือนยูเครน”
ฟินแลนด์ ผวารัสเซีย เตรียมหารือสภาขอเข้าเป็นสมาชิกนาโต
ล่าสุด เมื่อวานนี้ (7 เม.ย.) ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซียออกมาเปิดเผยว่า จากการประเมิน รัสเซียน่าจะสูญเสียทหารเพิ่มขึ้นในระดับที่เรียกได้ว่าเป็น “โศกนาฏกรรม”
ก่อนหน้านี้ รัสเซียยอมรับเพียงว่า การโจมตียูเครนไม่คืบหน้าเร็วเท่าที่ต้องการ แต่ล่าสุดเปสคอฟออกมาแสดงความเสียใจกับยอดทหารรัสเซียที่เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้น
“เราสูญเสียกองกำลังจำนวนมาก มันเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่สำหรับเรา” เปสคอฟกล่าว ซึ่งนี่นับเป็นครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซียออกมายอมรับความสูญเสียของกองทัพรัสเซียว่าอยู่ในระดับที่สูง แต่กระนั้นก็ไม่มีรายงานตัวเลขออกมาว่า รัสเซียสูญเสียกำลังพลไปแล้วเท่าไร
โดยตัวเลขล่าสุดที่รัสเซียรายงาน คือเมื่อต้นเดือน มี.ค. ที่บอกว่ามีทหารรัสเซียเสียชีวิตเกือบ 500 ราย แต่ตัวเลขประเมินล่าสุดจากสหประชาชาติคาดว่า รัสเซียสูญเสียทหารไปแล้วถึง 15,000 นาย
นอกจากความสูญเสียทางการทหารแล้ว รัสเซียกำลังเผชิญกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ยากลำบากที่สุดในรอบ 3 ทศวรรษ จากการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกที่ไม่เคยรุนแรงเท่านี้มาก่อน
โดยภาพความเสียหายในเมืองบูชา เมืองแห่งหนึ่งใกล้กับกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน ที่ปรากฏภาพพลเรือนยูเครนมากกว่า 400 เสียชีวิตอย่างน่าสลด ทำให้มีการประกาศมาตรการคว่ำบาตรระลอกใหม่
เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปเห็นชอบกับมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียครั้งที่ 5 โดยคว่ำบาตรหยุดการนำเข้าถ่านหินจากรัสเซีย ซึ่งมีระยะเวลาผ่อนผัน 120 วัน เพื่อให้ประเทศสมาชิกมีเวลาหาซัพพลายเออร์รายอื่น
อย่างไรก็ตาม ทางยูเครนก็กำลังเจอกระแสตีกลับเช่นกัน หลังมีคลิปวิดีโอที่ได้รับการยืนยันโดยสื่อระดับโลกว่าเป็นของจริง แสดงภาพของกองกำลังยูเครนที่ยิงและสังหารทหารรัสเซียที่ถูกจับและบาดเจ็บสาหัส ซึ่งขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนและการคุ้มครองเชลยสงคราม
เรียบเรียงจาก Reuters
ภาพจาก AFP