ขึ้นชื่อว่า “สงคราม” ผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ก็คือพลเรือน คนธรรมดาในประเทศนั้น ๆ ที่กลายเป็นเหยื่อรองรับความโหดร้ายและความรุนแรงของสงคราม จนโลกสากลต้องตั้งกรอบอนุสัญญาเจนีวา ว่าด้วยเรื่องอาชญากรรมสงคราม ป้องกันไม่ให้มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน
กระนั้น ตั้งแต่เกิดเหตุรัสเซียบุกยูเครนเป็นต้นมา ก็มีรายงานการละเมิดสิทธิมนุษยชนจากทั้งสองฝ่าย โดยยูเครนปรากฏภาพทรมานและสังหารเชลยศึก ส่วนรัสเซียถูกกล่าวหาว่า มีทหารสังหารและข่มขืนพลเรือน
รัสเซียปฏิเสธข้อเสนอแลกตัวคนสนิทปูตินกับเชลย เตือนยูเครน “ระวังตัวไว้”
ฟินแลนด์จ่อเข้าร่วมนาโตในไม่กี่สัปดาห์-เตรียมพร้อมกองทัพหากรัสเซียบุก
เรือลาดตระเวนรัสเซียในทะเลดำเกิดการระเบิด เสียหายหนัก
โดยสื่อต่างประเทศได้ลงพื้นที่ไปยังหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้กับกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน และได้ทราบข้อมูลที่ชวนสลด
แอนนา (นามสมมติ) หญิงยูเครนอายุ 50 ปีในหมู่บ้านแห่งนี้ เล่าว่า เมื่อวันที่ 7 มี.ค. ขณะที่เธออยู่บ้านกับสามีของเธอ ก็ได้มีทหารต่างชาติบุกเข้ามา
“เขาเอาปืนจ่อฉัน พาไปที่บ้านใกล้ ๆ แล้วสั่งฉันว่า 'ถอดเสื้อผ้าออก ไม่อย่างนั้นโดนยิง' เขาขู่ว่าจะฆ่าฉันถ้าฉันไม่ทำตามที่พูด จากนั้นเขาก็เริ่มข่มขืนฉัน” เธอกล่าว และเสริมว่า ผู้ที่ก่อเหตุเป็นทหารอายุน้อย รูปร่างผอม คาดว่าเป็นชาวเชเชนที่เป็นพันธมิตรกับรัสเซีย
“ขณะที่เขากำลังข่มขืนฉัน มีทหารอีก 4 นายเข้ามา ฉันคิดว่าฉันตายแน่แล้ว แต่พวกเขาก็พาทหารคนแรกไป แล้วฉันก็ไม่เคยเห็นเขาอีกเลย” เธอเล่า โดยเชื่อว่าเธอได้รับการช่วยเหลือจากทหารรัสเซียที่มีคุณธรรมมากพอ
เมื่อแอนนากลับมาบ้าน เธอก็พบสามีถูกยิงที่หน้าท้อง “เขาพยายามวิ่งตามมาเพื่อช่วยฉัน แต่เขาถูกกระสุนนัดหนึ่ง” เธอกล่าว
จากนั้นทั้งสองก็หาที่หลบภัยในบ้านของเพื่อนบ้าน โดยเธอพาสามีไปโรงพยาบาลไม่ได้เพราะการสู้รบ จนท้ายที่สุดเขาเสียชีวิตด้วยอาการบาดเจ็บในอีก 2 วันต่อมา
เมื่อกลับมาที่บ้านของตัวเอง เธอพบว่า มีทหารรัสเซียมาพักที่บ้านของเธอเป็นเวลา 2-3 วัน พวกเขามักจะเล็งปืนมาที่เธอ และขู่เธอให้มอบสิ่งของของสามีให้พวกเขา
“เมื่อพวกเขาจากไป ฉันพบยาและไวอากร้า พวกเขาจะเมาเละ พวกเขาส่วนใหญ่เป็นฆาตกร อาชญากรข่มขืน และโจร มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่โอเค” เธอกล่าว
ไม่ไกลจากบ้านของแอนนา เพื่อนบ้านละแวกนั้นเล่าว่า ที่บ้านอีกหลังหนึ่ง มีเหยื่ออีกคนที่ถูกข่มขืนโดยผู้ก่อเหตุรายเดียวกัน แต่เหยื่อรายนี้โชคร้ายถูกฆ่าเสียชีวิตด้วย โดยทหารรายนี้ก่อเหตุที่บ้านหลังนี้ก่อน แล้วจึงไปบ้านของแอนนา
เพื่อนบ้านเล่าว่า ผู้หญิงคนนั้นอายุ 40 ปี เธอถูกพาตัวออกจากบ้าน และถูกขังอยู่ในห้องนอนของบ้านที่อยู่ใกล้ ๆ กันซึ่งเจ้าของบ้านได้อพยพออกไปแล้ว โดยห้องพักที่ตกแต่งอย่างดีด้วยวอลล์เปเปอร์และเตียงที่มีหัวเตียงสีทอง ได้กลายเป็นสถานที่เกิดเหตุที่น่าสยดสยอง มีคราบเลือดจำนวนมากบนที่นอนและผ้านวม
ตรงมุมหนึ่งมีกระจกเงาซึ่งมีข้อความเขียนด้วยลิปสติกว่า “ฉันถูกทรมานโดยคนที่ไม่รู้จัก ฉันถูกทหารรัสเซียฝังไว้ในดิน”
อ็อกซานา เพื่อนบ้านของผู้เสียชีวิตบอกว่า ทหารรัสเซียเป็นคนพบศพเธอ “ทหารรัสเซียบอกฉันว่า เธอถูกข่มขืน คอของเธอถูกกรีดหรือไม่ก็ถูกแทง ทำให้เธอเลือดออกจนตาย พวกเขาบอกว่ามีเลือดเยอะมาก”
แอนดรี เนบีตอฟ ผู้บัญชาการตำรวจภูมิภาคเคียฟ บอกว่า เหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของคดีล่วงละเมิดทางเพศที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ ยังมีอีกกรณีหนึ่งที่น่าสลดไม่แพ้กันในหมู่บ้านแห่งหนึ่งทางตะวันตกของเคียฟ
โดยเป็นกรณีครอบครัวสามคนพ่อแม่ลูกในบ้านหลังหนึ่ง ผู้อยู่อาศัยเป็นคู่สามีภรรยาอายุ 30 กว่าปีและลูกเล็ก 1 คน
“วันที่ 9 มี.ค. ทหารของกองทัพรัสเซียหลายคนเข้ามาในบ้าน สามีพยายามปกป้องภรรยาและลูกของเขา ดังนั้นทหารรัสเซียจึงยิงเขาทิ้ง หลังจากนั้น ทหาร 2 คนได้ลงมือข่มขืนคนที่เป็นภรรยาซ้ำแล้วซ้ำเล่า พวกเขาออกไปแล้วก็กลับมา พวกเขากลับมาข่มขืนเธอ 3 ครั้ง พวกเขาขู่ว่า ถ้าเธอขัดขืน พวกเขาจะทำร้ายลูกชายตัวน้อยของเธอ เพื่อปกป้องลูกของเธอ เธอจึงไม่ขัดขืน”
ก่อนทหารรัสเซียจากไป พวกเขายังได้เผาบ้านและยิงสุนัขของครอบครัวนี้ทิ้งด้วย หลังจากนั้น ผู้หญิงรายนี้ก็หนีออกมากับลูกชายของ เธอแล้วติดต่อตำรวจ
ตำรวจได้รวบรวมหลักฐานที่บ้านของครอบครัวรายนี้ ซึ่งเหลือเพียงซากปรักหักพังเท่านั้น ส่วนศพของสามีที่ถูกฝังอยู่ในสวน ขณะนี้ตำรวจได้ขุดศพของเขาขึ้นมาเพื่อตรวจสอบแล้ว และวางแผนที่จะนำคดีนี้ไปสู่ศาลระหว่างประเทศด้วย
ด้าน ลุดมีลา เดนิโซวา ผู้ตรวจการแผ่นดินยูเครนด้านสิทธิมนุษยชน กล่าวว่าพวกเธอกำลังรวบรวมคดีในลักษณะดังกล่าวที่เกิดขึ้น
“มีเด็กหญิงและสตรีอายุระหว่าง 14-24 ปีประมาณ 25 คน ถูกข่มขืนในห้องใต้ดินของบ้านหลังหนึ่งในเมืองบูชา โดย 9 คนในนั้นกำลังตั้งครรภ์ ... ทหารรัสเซียบอกกับเหยื่อว่า พวกเขาจะข่มขืนพวกเธอจนกว่าพวกเธอจะไม่ต้องการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายคนใด เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเธอมีลูกชาวยูเครนอีก” เธอเล่า
เดนิโซวาบอกว่า ทีมงานของเธอได้รับโทรศัพท์หลายสายอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับคดีข่มขืนและล่วงละเมิดทางเพศ “มีผู้หญิงอายุ 25 ปีโทรมาบอกเราว่า น้องสาวอายุ 16 ปีของเธอถูกข่มขืนที่ถนนต่อหน้าต่อตาเธอ เธอบอกว่า ขณะที่พวกเขาข่มขืนน้องสาวของเธอ กลุ่มผู้ก่อเหตุบอกว่า 'สิ่งนี้จะเกิดขึ้นกับโสเภณีนาซีทุกคน'”
เมื่อถูกถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะประเมินตัวเลขของอาชญากรรมทางเพศที่ทหารรัสเซียก่อขึ้นในระหว่างการบุกยูเครน
เดนิโซวากล่าวว่า “เป็นไปไม่ได้ ณ ตอนนี้ เพราะไม่ใช่ทุกคนที่เต็มใจบอกเราว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา ส่วนใหญ่เรียกร้องการสนับสนุนด้านจิตใจ ดังนั้นเราจึงไม่สามารถบันทึกว่าเป็นอาชญากรรมได้ เว้นแต่พวกเขาจะให้การเป็นพยานแก่เรา”
เธอกล่าวว่า ยูเครนต้องการให้องค์การสหประชาชาติจัดตั้งศาลพิเศษขึ้นเพื่อพิจารณาคดีกับผู้นำรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน เป็นการส่วนตัว ในข้อหาก่ออาชญากรรมสงครามรวมถึงการข่มขืน
แอนนาบอกว่า “ฉันอยากจะถามปูตินว่าทำไมสิ่งนี้ถึงเกิดขึ้น ฉันไม่เข้าใจ เราไม่ได้อยู่ในยุคหิน ทำไมเขาถึงเจรจาไม่ได้ ทำไมเขาถึงเข้ามาบุกยึดครองและเข่นฆ่าพวกเรา”
สหรัฐฯ ประกาศให้ความช่วยเหลือทางการทหารชุดใหม่ "ยูเครน" มูลค่า 800 ล้านดอลลาร์
รัสเซียเพิ่มกำลังทหารทางตะวันออก มุ่งยึดดอนบาส
เรียบเรียงจาก BBC
ภาพจาก AFP