รัสเซีย เริ่มปฏิบัติการบุกยึดภูมิภาคดอนบาส ยูเครนลั่นสู้ตาย

รัสเซียปิดเงียบ ลูกเรือ "มอสกวา" 500 ชีวิตเป็นตายร้ายดีไม่ชัดเจน

รัสเซียเปิดฉาก “สงครามเฟส 2” เริ่มบุกยูเครนตะวันออกตามคาด

โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดี ยูเครนประกาศว่า หลังจากใช้เวลาเตรียมการอยู่นาน ขณะนี้รัสเซียได้เริ่มปฏิบัติการโจมตี  ภูมิภาคดอนบาสทางภาคตะวันออกของยูเครนแล้ว และยูเครนพร้อมปกป้องแผ่นดินของตนเองอย่างเต็มที่

ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย เซอร์เก ราฟลอฟ  ได้ออกมายืนยันว่ารัสเซียเข้าสู่เฟสใหม่ของการโจมตีพื้นที่ด้านตะวันออกจริง

โดย เซอร์เก ราฟลอฟ ระบุว่า เป้าหมายของปฏิบัติการทางด้านตะวันออกของยูเครนเป็นไปเพื่อปลดปล่อยโดเนตสก์และลูฮันสก์ และมั่นใจว่านี่จะเป็นช่วงเวลาสำคัญในการปฏิบัติการพิเศษทางการทหารของรัสเซีย

ทั้งนี้จุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญของภูมิภาคดอนบาสคือแคว้นโดเนตสก์และลูฮันสก์ ขณะนี้กลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่รัสเซียหนุนหลังสามารถยึดได้เกือบครึ่งของที่นี่แล้ว เป้าหมายของรัสเซียคือ ยึดดอนบาสให้ได้ทั้งหมด  แต่เท่านั้นยังไม่พอ  รัสเซียต้องการยึดภาคตะวันออกของยูเครนให้ได้ทั้งหมด

นอกจากดอนบาสแล้ว เป้าหมายของรัสเซียคือ ภูมิภาคคาร์คีฟซึ่งอยู่ถัดจากดอนบาส ที่ผ่านมารัสเซียรุกคืบกำลังทางภาคพื้นดินเข้าภูมิภาคคาร์คีฟอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้มีเมืองที่รัสเซียยึดได้แล้วคือ เมืองอีซุม รวมถึงพื้นที่ราบระหว่างเมืองอีซุมและแคว้นลูฮันสก์ ซึ่งจะทำให้รัสเซียสามารถรุกคืบต่อถึงเมืองครอมาทอสได้

การทำสงครามในเฟส 2 นี้ รัสเซียมีผู้บัญชาการทัพคนใหม่ นั่นก็คือ พลเอกอเล็กซานเดอร์ ดวอร์นิคอฟ หนึ่งในเจ้าหน้าที่ทหารที่มีประสบการณ์มากที่สุดของรัสเซีย ผู้ที่เคยควบคุมปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในซีเรียเมื่อปี 2015 รัสเซียมีการจัดกำลังใหม่หลังสูญเสียอย่างหนักในการรบเฟสแรกที่เคียฟ มีการถอนกำลังที่เหลือจากเคียฟมาที่ตะวันออก และเสริมด้วยกำลังเพิ่มจากรัสเซียและที่ประจำการในเบลารุส

นอกเหนือจากกำลังหทาร รัสเซียยังเสริมแนวรบนี้ด้วยรถหุ้มเกราะจำนวนมากที่ถูกส่งเข้ามาในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ยังไม่นับการสนับสนุนทางอากาศอีก การรบทางตะวันออกรัสเซียจะมีความได้เปรียบขึ้น เนื่องจากจุดนี้อยู่ติดกับชายแดนรัสเซียจึงมีปัญหาเรืองการส่งกำลังบำรุงน้อยกว่าการรบที่เคียฟ ทั้งหมดทั้งปวงทำให้คาดว่า การรบในแนวด้านตะวันออกจะหนักหน่วงมากกว่าที่เห็นในการรบเฟสแรกที่เคียฟ

ส่วนทางยูเครนเสียเปรียบแทบทุกด้าน ทั้งทางกำลังกำลังพล ยานเกราะและทางอากาศ แต่สิ่งหนึ่งที่ยูเครนได้เปรียบคือ การมีประสบการณ์ในการรบและรู้จักพื้นที่บริเวณนี้ดี  เนื่องจากรบอย่างต่อเนื่องกับกองกำลังแบ่งแยกดินแดนที่มีรัสเซียหนุนหลังมาตั้งแต่ปี 2014 ในวันที่รัสเซียเริ่มสงครามในเฟส 2 ทหารยูเครนและอาสาสมัครตรึงกำลังเต็มที่ตามแนวที่เรียกว่า Point Zero หรือบริเวณที่ทหารรัสเซียและยูเครนจะต้องเผชิญหน้าและต่อสู้กัน

ที่นี่คือหนึ่งใน Point Zero ที่มีอยู่หลายร้อยจุดในภาคตะวันออก ทหารยูเครนในหลุมเพลาะพร้อมอาวุธ กำลังเตรียมพร้อมรับมือกับการรุกเข้ามาของทหารรัสเซีย โดยการรุกเพื่อยึดพื้นที่มีทุกรูปแบบตั้งแต่การโจมตีด้วยปืน ด้วยระเบิดจากปืนใหญ่แล้ว ยังมีการวางกับระเบิดในพื้นที่เป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตามหลายคนบอกว่า ไม่มีทางเลือกอีก นอกจากการสู้เพื่อปกป้องแผ่นดินเกิด

มีการวิเคราะห์กันว่า แนวรบด้านตะวันออกจะหนักหน่วงและรุนแรงมากขึ้น จะมีการใช้กลยุทธ์ทุกทางเพื่อยึดที่นี่ให้ได้เนื่องจากรัสเซีย ต้องมีการประกาศชัยชนะบางอย่าง ก่อนถึงวันที่ 9 พฤษภาคม ซึ่งจะเป็น Victory Day หรือวันที่รัสเซียมีชัยเหนือกองทัพนาซีในสงครามโลกครั้งที่ 2

นอกเหนือจากนี้การยึดภาคตะวันออกของยูเครนได้ รัสเซียจะได้เปรียบทางยุทธศาสตร์เพิ่มมากขึ้น ทั้งทางการทหารและทางเศรษฐกิจในระยะยาว เพราะรัสเซียจะสามารถเชื่อมแผ่นดินใหญ่ของตนเองเข้ากับเมืองท่าที่สำคัญในทะเลดำอย่างไครเมียได้ จากแผนที่จะเห็นว่า หากรัสเซียยึดภาคตะวันออกได้ และอีกเงื่อนไขหนึ่งคือยึดเมืองมาริอูปอลได้ รัสเซียจะมี Land Bridge จากแผ่นดินใหญ่ของรัสเซียเชื่อมต่อถึงไครเมียที่รัสเซียยึดจากยูเครนเมื่อปี 2014 ได้

 

ทางการยูเครนระบุว่า นี่คือแผนการของรัสเซีย และรัสเซียไม่เคยปิดบังว่าอยากจะบรรลุเป้าหมายนี้

การให้สัมภาษณ์ของโฆษกกระทรวงกลาโหมยูเครนที่ออกมาพูดหลังผู้นำยูเครนออกมาประกาศว่า การทำสงครามในดอนบาสของรัสเซียเริ่มขึ้นแล้ว โดยระบุว่า เป้าหมายของรัสเซียคือ การเชื่อมต่อแผ่นดินใหญ่รัสเซียเข้ากับแคว้นไครเมียบนทะเลดำ

สาเหตุที่การเชื่อมแผ่นดินใหญ่เข้ากับไครเมียได้มีความสำคัญต่อรัสเซีย เพราะไครเมียอยู่บนจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญ นั่นก็คือทะเลดำ เป็นทะเลที่ตั้งอยู่ตรงใจกลางของประเทศต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบัลแกเรีย โรมาเนีย ยูเครน รัสเซีย จอร์เจีย และตุรกี และเป็นที่ตั้งของท่าเรืออีกว่า 30 แห่ง ตลอดจนเป็นทะเลน้ำอุ่นที่สามารถเดินทางได้ทั้งปี

รัสเซียอยากได้เพราะตนเองไม่มีพื้นที่ทางออกทางทะเลที่เป็นน้ำอุ่น ก่อนที่จะยึดไครเมียได้ การออกทางทะเลสู่โลกภายนอกของรัสเซียทำได้ด้วยการออกทางอาร์ติกซึ่งน้ำเป็นทะเลน้ำแข็งเกือบทั้งปี และรัสเซียต้องใช้งบประมาณมหาศาลในการใช้เรือดันน้ำแข็งเพื่อเปิดทางให้เรือไปได้ การรบเพื่อเอาพื้นที่ด้านตะวันออกและเมืองมาริอูปอลของยูเครนจึงสำคัญมากต่อทั้งทางการทหารและทางเศรษฐกิจของรัสเซีย