แพทย์นิติเวชยูเครนเผย หลายศพในเมืองบูชา ถูกสังหารด้วย “ลูกดอกเหล็ก”


โดย PPTV Online

เผยแพร่




แพทย์นิติเวชพบประชาชนในเมืองบูชาหลายคนเสียชีวิตจาก “เฟลเชตต์ (Fléchette)” ซึ่งเป็นอาวุธที่ไม่ค่อยมีใครใช้ในสงครามสมัยใหม่

แพทย์นิติเวชยูเครน ระบุว่า จากการชันสูตรศพพลเรือนในเมืองบูชาที่เสียชีวิตมากกว่า 400 รายจากการบุกโจมตีของรัสเซียนั้น พบว่า มีหลายสิบคนที่ถูกสังหารโดยลูกดอกโลหะขนาดเล็ก

โดยนักพยาธิวิทยาและเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพที่ดำเนินการชันสูตรศพที่พบในหลุมศพจำนวนมากในเมืองบูชา กล่าวว่า พวกเขาพบลูกดอกโลหะขนาดเล็กที่เรียกว่า “เฟลเชตต์ (Fléchette)” ซึ่งฝังอยู่บริเวณศีรษะและช่วงอกของผู้เสียชีวิต

พบหลักฐานยืนยัน รัสเซียใช้ “อาวุธต้องห้าม” ในการโจมตียูเครน

รัฐมนตรีสหรัฐฯเดินทางถึงเคียฟแล้ว หารือผู้นำยูเครน

“มาครง” เป็น ปธน.ฝรั่งเศสต่อ ข่าวดีของสหภาพยุโรป นาโต และยูเครน

วลาดีสลาฟ ปิรอฟสกี แพทย์นิติเวชชาวยูเครน กล่าวว่า “เราพบวัตถุคล้ายตะปูที่บางมากในร่างกายของศพพลเรือนทั้งชายและหญิง แพทย์นิติเวชคนอื่นในภูมิภาคนี้ก็พบศพลักษณะแบบเดียวกัน ... ซึ่งมันยากมากที่จะหาตะปูเหล่านี้ในร่างกายของศพ พวกมันบางเกินไป ศพเหล่านี้ส่วนใหญ่มาจากภูมิภาคบูชา-เออร์พิน”

ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธที่ตรวจสอบรูปภาพของลูกดอกโลหะที่พบในศพ ยืนยันว่า อาวุธที่พบเป็นเฟลเชตต์จริง โดยมันเป็นอาวุธต่อต้านบุคคลที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งเฟลเชตต์เป็นภาษาฝรั่งเศส แปลว่า “ลูกดอก” ได้ชื่อนี้เพราะฝรั่งเศสเป็นชาติแรกที่พัฒนาอาวุธประเภทนี้

ลูกดอกโลหะขนาดเล็กเหล่านี้จะถูกบรรจุอยู่ในกระสุนปืนใหญ่หรือกระสุนรถถัง ในกระสุน 1 นัดจะบรรจุลูกดอกได้มากถึง 8,000 ดอก เมื่อยิงออกไประยะเวลาหนึ่ง ฟิวส์ที่ติดตั้งอยู่ในกระสุนจะระเบิด ทำให้กระสุนระเบิด และส่งลูกดอกโลหะกระจายใส่เป้าหมาย

เฟลเชตต์โดยทั่วไปจะมีความยาวระหว่าง 3-4 ซม. เมื่อกระสุนปืนระเบิดจะกระจายตัวเป็นทรงกรวยที่มีความกว้างประมาณ 300 ม. และยาว 100 ม.

เมื่อกระทบกับร่างของเหยื่อ ลูกดอกจะสูญเสียความแข็งแกร่ง และจะโค้งงอเป็นตะขอฝังอยู่ในร่างกาย ขณะที่ส่วนท้ายของลูกดอกที่มีลักษณะคล้ายหางลูกธนูเป็นครีบ 4 อัน มักจะแตกออก และทำให้เกิดบาดแผลเพิ่ม

แม้ว่ากลุ่มสิทธิมนุษยชนจะสั่งห้ามกระสุนเฟลเชตต์มาเป็นเวลานานแล้วก็ตาม แต่อาวุธชนิดนี้ไม่ได้ถูกห้ามใช้ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม การใช้อาวุธร้ายแรงในพื้นที่ที่มีประชากรพลเรือนหนาแน่น ถือเป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรม

ด้าน นีล กิบสัน ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธของกลุ่ม Fenix ​​Insight ในสหราชอาณาจักร กล่าวว่า เฟลเชตต์เหล่านี้น่าจะถูกยิงมาจากกระสุนปืนใหญ่ 122 มม. 3Sh1 ที่ใช้โดยปืนใหญ่ของรัสเซีย

“นี่เป็นกระสุนปืนที่แปลกและหายากอีกชนิดหนึ่ง ... คราวนี้มันเทียบได้กับขีปนาวุธต่อต้านบุคคล (APERS) ซีรีส์ 'Beehive' ของสหรัฐฯ แต่อันนี้เป็นเวอร์ชันรัสเซีย” เขากล่าว

เฟลเชตต์ถูกใช้เป็นอาวุธอย่างแพร่หลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 มักถูกทิ้งลงมาจากเครื่องบินเพื่อโจมตีทหารราบ ลูกดอกโลหะที่อันตรายถึงตายนี้สามารถเจาะหมวกกันน็อกหรือหมวกป้องกันทางทหารได้

ตั้งแต่หลังสงครามครั้งที่ 2 เป็นต้นมา ไม่ค่อยมีใครนิยมใช้อาวุธชนิดนี้กันอย่างแพร่หลาย เคยปรากฏไม่กี่ครั้งในสงครามเวียดนาม เมื่อสหรัฐฯ ใช้เฟลเชตต์แบบบรรจุในถ้วยพลาสติก

เฟลเชตต์มักไม่ค่อยถูกนำมาใช้ในสงครามสมัยใหม่ นอกเหนือจากที่กองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล (IDF) นำไปใช้เป็นระยะ ๆ ซึ่งนำไปใช้ในการปฏิบัติการทางทหารในเลบานอนและฉนวนกาซา

แอมเนสตี้อินเตอร์เนชันแนล องค์กรสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า “เฟลเชตต์เป็นอาวุธต่อต้านบุคคลที่ออกแบบมาเพื่อเจาะอุปกรณ์ป้องกันที่หนาแน่นและเพื่อโจมตีทหารศัตรูจำนวนมาก ... เป็นอาวุธที่ไม่ควรใช้ในพื้นที่ที่มีพลเรือน”

กองกำลังรัสเซียเข้ายึดบูชา ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองหลวงเคียฟไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 30 กม. หลังจากการสู้รบอย่างดุเดือดไม่กี่วันหลังจากการรุกรานเริ่มขึ้นในเดือน ก.พ.

ต่อมากองทัพรัสเซียได้รับคำสั่งให้ล่าถอยเมื่อปลายเดือน มี.ค. และในวันต่อมา ทางการยูเครนก็รายงานพบหลุมศพจำนวนมากที่มีศพของชาวเมืองหลายร้อยคนที่ดูเหมือนจะถูกสังหารหมู่

นอกจากเฟลเชตต์แล้ว ยังมีรายงานหลักฐานที่อาจจะยืนยันได้ว่า รัสเซียใช้อาวุธต้องห้ามอย่าง “ระเบิดลูกปราย (Cluster Bomb)” ในการโจมตียูเครนด้วย

อดีตนางแบบดัง “ติ๋ม เพ็ญพร ไพฑูรย์” เสียชีวิตแล้ว

คนบันเทิงรุ่นใหญ่ อาลัยรัก “เพ็ญพร ไพฑูรย์” จากไปอย่างสงบ

เรียบเรียงจาก The Guardian

ภาพจาก The Guardian

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP ต่างประเทศ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ