องค์การอนามัยโลก (World Health Oraganization : WHO) เปิดเผยว่า สามารถควบคุมการระบาดของโรคฝีดาษลิงในประเทศต่าง ๆ นอกถิ่นระบาดของไวรัสดังกล่าวในภูมิภาคแอฟริกาได้ โดยนับจนถึงขณะนี้ องค์การอนามัยโลกพบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงนอกทวีปแอฟริกาแล้วมากกว่า 100 คน ทั้งหมดอยู่ในยุโรป อเมริกาเหนือ และ ออสเตรเลีย
ดอกเตอร์ มาเรีย ฟาน เคิร์กโฮฟ หัวหน้าฝ่ายโรคอุบัติใหม่ของ WHO ระบุว่า แม้ตัวเลขผู้ป่วยนอกถิ่นระบาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น แต่ก็คาดการณ์ว่า ความเสี่ยงในภาพรวมต่อประชากรในวงกว้างนั้น ถือว่าต่ำมาก
"วราวุธ"สั่งกรมอุทยานฯตรวจสุขภาพลิงในประเทศ-ห้ามขนย้ายสัตว์ข้ามแดน
สธ.สั่งเพิ่มด่านคัดกรอง“ฝีดาษลิง”ที่สนามบิน โดยเฉพาะ 17 ประเทศเสี่ยง
ส่วน โรซามุนด์ ลูอิส (Rosamund Lewis) หัวหน้างานด้านโรคฝีดาษขององค์การอนามัยโลก ระบุว่า ยังไม่พบหลักฐานการกลายพันธุ์ของไวรัสฝีดาษลิง ซึ่งไวรัสในกลุ่มนี้มีโอกาสน้อยที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลง แต่การศึกหาลำดับคู่เบสในดีเอ็นเอจากไวรัสที่พบในร่างกายผู้ติดเชื้อจะช่วยทำให้ทราบว่าการระบาดนอกทวีปแอฟริกามีพัฒนาการอย่างไร
ส่วนนับจนถึงขณะนี้ มีรายงานว่าพบการระบาดของโรคฝีดาษลิงนอกแอฟริกาแล้วใน 16 ประเทศ โดยทาง WHO ยืนยันว่า แม้ว่านี้จะเป็นการระบาดใหญ่ของฝีดาษลิงครั้งแรกนอกถิ่นระบาดของมันอย่างทวีปแอฟริกาในรอบ 50 ปี แต่ฝีดาษลิงไม่ได้แพร่ระบาดง่าย ๆ ระหว่างมนุษย์ และอาการก็มักจะไม่รุนแรง
ทั้งนี้ ฝีดาษลิงเป็นเชื้อไวรัสสายพันธุ์ที่ใกล้เคียงกับฝีดาษในคนหรือไข้ทรพิษ แต่มีความรุนแรงน้อยกว่า และแพร่ระบาดได้ยากกว่า เชื้อไวรัสนี้มี 2 สายพันธุ์คือสายพันธุ์แอฟริกากลางและสายพันธุ์แอฟริกาตะวันตกซึ่งมีความรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์แอฟริกากลาง
ปกติแล้วมักจะพบเชื้อไวรัสนี้ในสัตว์ โดยเฉพาะสัตว์ตระกูลลิง และสัตว์ฟันแทะ อย่าง หนู และกระรอก คนสามารถติดเชื้อได้จากการสัมผัสเลือด สารคัดหลัง และตุ่มหนองของสัตว์ที่ติดเชื้อโดยตรง รวมถึงการถูกกัดหรือกินเนื้อสัตว์ที่มีเชื้อแบบไม่ปรุงสุก มีความเป็นไปได้น้อยที่จะมีการแพร่เชื้อจากคนสู่คน
ผู้ติดเชื้อจะแสดงอาการของโรคหลังติดเชื้อไปแล้วราว 12 วัน หลังจากนั้นจะเริ่มมีไข้ หนาวสั่น ปวดหัว เจ็บคอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ต่อมน้ำเหลืองบวม ราว 1-3 วันจะมีผื่นขึ้น เริ่มจากใบหน้ากระจายไปตามร่างกาย ผื่นจะกลายเป็นตุ่มหนอง ในระยะสุดท้ายหนองจะแตกและเป็นสะเก็ดหลุดออกมา ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะสามารถหายได้ด้วยตนเอง เนื่องจากอาการไม่รุนแรง ขณะที่ อัตราการตายของโรคค่อนข้างต่ำ แต่ในกลุ่มเด็กเล็กอาจสูงถึงร้อยละ 10
อนามัยโลกเตือน “ฝีดาษลิง” อาจระบาดเป็นวงกว้าง
ที่ปรึกษาอนามัยโลกคาด “ฝีดาษลิง” อาจระบาดหนักเพราะ “เพศสัมพันธ์”