สำนักงานความมั่นคงด้านสุขภาพแห่งสหราชอาณาจักร (UKHSA) ได้ออกคำแนะนำใหม่เกี่ยวกับผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงโดยระบุว่า ผู้ป่วยด้วยโรคฝีดาษลิงควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับสัตว์เลี้ยงของตนเองเป็นเวลา 21 วัน โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงที่เป็นหนูเจอร์บิลหรือหนูทะเลทราย หนูแฮมเตอร์ส และสัตว์ตระกูลฟันแทะ เพราะอาจมีความไวต่อโรคนี้เป็นพิเศษ และกังวลว่าเชื้อไวรัสฝีดาษลิงอาจแพร่ระบาดไปยังประชากรสัตว์ประเภทดังกล่าว
ชัยชนะที่ยังไม่สมบูรณ์ในการขจัดโรคฝีดาษ
WHO คาดพบผู้ป่วย “โรคฝีดาษลิง” เพิ่มมากขึ้นทั่วโลก
ด้านศาตราจารย์ ลอว์เรนซ์ ยัง (Prof. Lawrence Young) นักไวรัสวิทยาจากมหาวิทยาลัยวอร์ริก ของสหราชอาณาจักร ระบุว่า สิ่งที่น่ากังวลคือไวรัสอาจแพร่ระบาดไปยังสัตว์เลี้ยง และเกิดการแพร่เชื้อไปมา จากสัตว์สู่มนุษย์ และจากมนุษย์สู่สัตว์ ซึ่งหากไม่ระมัดระวัง อาจสร้างแหล่งรังโรคในสัตว์ หรือเรียกว่าแหล่งก่อเชื้อโรค และแพร่ระบาดเชื้อโรคในสัตว์ ซึ่งเชื้อโรคอาจแพร่ระบาดกลับไปสู่มนุษย์ และจะทำให้มนุษย์อยู่ในวงจรของการติดเชื้อไปด้วย
นอกจากนี้สำนักงานความมั่นคงด้านสุขภาพแห่งสหราชอาณาจักร (UKHSA) และหน่วยงานด้านสุภาพอื่นๆ ได้แนะนำให้เคลื่อนย้ายหนูตะเภา หนูประเภทอื่นๆ และสัตว์ตระกูลฟันแทะ ออกจากบ้านของผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงเป็นเวลา 21 วัน และทำการตรวจหาเชื้อไวรัสดังกล่าวในสัตว์เลี้ยง
ทั้งนี้จากข้อมูลการซื้อขายสัตว์เลี้ยงในสหราชอาณาจักรพบว่า มีครอบครัวในอังกฤษเลี้ยงสัตว์ฟันแทะอยู่ประมาณ 2 ล้านครัวเรือน
ส่วนสัตว์เลี้ยงอื่นๆ อย่างสุนัข และแมว แม้มีความเสี่ยงต่ำ แต่เมื่อพบเจ้าของติดเชื้อดังกล่าวควรแยกสัตว์เลี้ยงไว้ และให้สัตวแพทย์ตรวจเช็คอาการของสัตว์เลี้ยงเป็นประจำเพื่อให้แน่ใจว่าสัตว์เหล่านี้ไม่ได้รับเชื้อฝีดาษลิง
นอกจากนี้หน่วยงานด้านสาธารณสุขของอังกฤษยังแนะนำว่า ผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงควรหลีกเลี่ยงการเตรียมอาหารหรือดูแลสัตว์เลี้ยงของตน หากมีบุคคลอื่นในบ้านสามารถทำหน้าที่นี้แทนได้
อย่างไรก็ตามหัวหน้าเจ้าหน้าที่สัตวแพทย์ของอังกฤษ ระบุว่าเวลานี้ยังไม่มีการตรวจพบการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสฝีดาษลิงในสัตว์เลี้ยง และยังคงมีความเสี่ยงต่ำ แต่ว่าจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป และจะทำงานร่วมกับทั่วโลกเพื่อจัดการความเสี่ยงด้านสุขภาพสัตว์ที่เกี่ยวข้องกับโรคฝีดาษลิง
สำหรับสถานการณ์การระบาดของโรคฝีดาษลิงทั่วโลก ล่าสุดองค์การอนามัยโลก หรือ WHO รายงานพบผู้ติดเชื้อยืนยันหรือต้องสงสัยว่าจะติดเชื้อฝีดาษลิงแล้วกว่า 300 คนในกว่า 20 ประเทศทั่วโลก ซึ่งในจำนวนนี้แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันแล้วกว่า 200 คน และต้องสงสัยว่าจะติดเชื้ออีกกว่า 100 คน
โดยฟินแลนด์เป็นประเทศล่าสุดที่รายงานยืนยันพบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงรายแรก และสหราชอาณาจักรรายงานยืนยันพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 106 คน
ขณะที่ก่อนหน้านี้มีรายงานยืนยันพบการระบาดของฝีดาษลิงในหลายประเทศในทวีปยุโรป อเมริกาเหนือ ออสเตรเลีย และภูมิภาคตะวันออกกลาง
ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิงที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นว่าเชื้อไวรัสไม่รุนแรง และอัตราการเพิ่มขึ้นไม่ได้รวดเร็วเหมือนการระบาดของโควิด-19
ซึ่งทางด้าน ดร. ซิลเวีย ไบรอันด์ ผู้อำนวยการแผนกการระบาดทั่วโลกและโรคระบาดขององค์การอนามัยโลก ได้ออกมาให้คำแนะนำเมื่อวานนี้ว่า ทั่วโลกต้องวางมาตรการที่เหมาะสมในการควบคุมการแพร่ระบาด ซึ่งหากเริ่มกันตั้งแต่ตอนนี้ ก็จะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ง่าย
อย่างไรก็ตามผู้อำนวยการแผนกการระบาดทั่วโลกและโรคระบาดขององค์การอนามัยโลก เน้นย้ำว่า มีช่องทางและโอกาสที่จะป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสฝีดาษลิง พร้อมขอให้ประชาชนไม่ต้องวิตกกังวล เพราะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสนี้ค่อนข้างช้ากว่าไวรัสประเภทอื่นๆ เช่น โควิด
นอกจากนี้ยังชี้ว่า เวลานี้ยังไม่จำเป็นต้องเริ่มการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสฝีดาษลิงในประชากรจำนวนมาก แต่ให้ฉีดวัคซีนป้องกันให้กับผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อก็พอ