คนรัสเซียไม่เห็นด้วยกับ “ปูติน” ยังคงเปล่งเสียงต่อต้าน


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ในวันที่ประธานาธิบดีปูตินเปรียบเทียบคนเองกับซาร์ปีเตอร์มหาราชผู้ยิ่งใหญ่ของจักรวรรดิรัสเซีย ชาวรัสเซียคิดอย่างไรกับการทำสงคราม

ในช่วงต้นโลกได้เห็นเสียงต่อต้านจากคนรัสเซียจำนวนไม่น้อยที่ออกมาแสดงพลังว่าพวกเขาไม่เห็นด้วยกับแนวทางของวลาดิเมียร์ ปูติน 

สิ่งที่รัฐบาลรัสเซียทำคือการออกกฎหมาย รวมถึงกฎหมายห้ามเผยแพร่ข่าวปลอมที่มีโทษจำคุกสูงสุดถึง 15 ปี และส่งผลให้ภาพการต่อต้านค่อยๆหายไป

อย่างไรก็ตามวันนี้ (13 มิ.ย.)ความพยายามในการต่อต้านสงคราม แสดงออกว่าไม่ใช่คนรัสเซียทุกคนที่จะเห็นด้วยกับสงครามยังมีอยู่ แต่ต้องเป็นการทำแบบใต้ดิน

สหพันธ์ยูโดนานาชาติระงับสถานะ "ปูติน" ในตำแหน่ง ปธ.กิตติมศักดิ์

“ปูติน” สั่งกองทัพรัสเซีย ถล่มยูเครนต่อ ชี้เจรจาสันติภาพถึงทางตัน

ป้ายประท้วงที่เลียนแบบธงชาติรัสเซียนี้ถูกแขวนอยู่ที่หน้ากระทรวงกลาโหมรัสเซียเมื่อวานนี้ บนป้ายมีข้อความว่า "Today is not my day" หรือ วันนี้ไม่ใช่วันของเรา จัดทำขึ้นโดยกลุ่มศิลปินที่เรียกตนเองว่า มอสโกอาร์ทติส พร้อมระบุว่า สีแดงคือ สีของเลือดชาวยูเครน

ป้ายดังกล่าวถูกแขวนในวันเดียวกับที่ชาวรัสเซียจะฉลอง "วันรัสเซีย" ซึ่งตรงกับวันที่ 12 มิถุนายนของทุกปี

นับเป็นความพยายามล่าสุดในการเปล่งเสียงต่อต้านสงครามขอบรรดาผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางของ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน

การแสดงออกด้วยงานศิลปะเกิดขึ้นเรื่อยมานับตั้งแต่รัสเซียจัดสินใจบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์

จากภาพคือ เวิร์คชอปเล็กๆ ที่จัดขึ้นโดย เซอร์เกย์ เบซอฟ ศิลปินชาวรัสเซีย เขาระบุว่าจุดประสงค์เพื่อแสดงออกว่า ผู้คนที่ต่อต้านสงครามไม่จำเป็นต้องรู้สึกหวาดกลัว และหากใครจะแสดงออกว่า ต้องการสันติภาพ ก็ควรเปล่งเสียงออกมาได้

บรรยากาศในรัสเซียเปลี่ยนไป เมื่อผู้เห็นต่างจากแนวทางบุกยูเครนของวลาดิเมียร์ ปูติน อาจเข้าข่ายการกระทำผิดกฎหมาย

ย้อนไปในช่วงต้น หลังรัสเซียบุกยูเครนโลกได้เห็นเสียงต่อต้านจากคนรัสเซียจำนวนไม่น้อยที่ออกมาแสดงพลังว่าพวกเขาไม่เห็นด้วยกับแนวทางของวลาดิเมียร์ ปูติน

แต่แล้วรัฐบาลรัสเซียกลับออกกฎหมายห้ามเผยแพร่ข่าวปลอม มิฉะนั้นจะถูกจำคุกสูงสุดถึง 15 ปี ส่งผลให้ภาพการต่อต้านจางหายไป อย่างไรก็ตามวันนี้ความพยายามแสดงออกว่าไม่ใช่คนรัสเซียทุกคนที่จะเห็นด้วยกับผู้นำยังคงมีอยู่ในรูปแบบใต้ดินเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง นี่คือหนึ่งในความพยายามเปล่งเสียงต่อต้านวลาดิเมียร์ ปูติน และสงครามที่รัสเซียเป็นผู้ก่อ

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา จู่ๆ สถานีวิทยุคอมเมอซานต์ เอฟเอ็ม ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานีวิทยุหลักของรัสเซียถูกแฮ็ก แทนที่จะเล่นเพลงของศิลปินรัสเซียตามปกติ แต่เพลงที่ผู้ฟังได้ยินกลับเป็นเพลงชาติยูเครนแทน

นอกจากนั้นแฮกเกอร์ยังเปิดเพลง "I don't need a war" ของวงร็อครัสเซียอย่าง โนกูสเลโวด้วย

รายงานข่าวระบุว่า นี่คือความพยายามล่าสุดในการส่งสารว่า คนรัสเซียจำนวนหนึ่งไม่ต้องการสงคราม

การที่แฮกเกอร์เลือกใช้สถานีวิทยุนี้ยังมีความหมายสำคัญอีกด้วย เพราะเจ้าของสถานีวิทยุคอมเมอซานต์ เอฟเอ็ม คือ อลิเชอร์ อุสมานอฟ มหาเศรษฐีผู้ร่ำรวยอันดับ 5 ของรัสเซีย คนๆ นี้มีความสนิมสนมกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน และอยู่ในรายชื่อบุคคลระดับสูงที่ถูกสหภาพยุโรปคว่ำบาตร

ย้อนไปเมื่อเดือนที่ผ่านมา สถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งของรัสเซียก็เคยถูกแฮ็กเพื่อส่งข้อความต่อต้านสงครามเช่นกัน

ย้อนไปช่วงต้นที่รัสเซียเริ่มบุกยูเครนเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ ในเวลานั้นมีคนรัสเซียจำนวนไม่น้อยพากันออกมาแสดงพลังว่าพวกเขาไม่ได้เห็นด้วยกับวลาดิเมียร์ ปูติน และแนวทางของปูตินไม่ใช่ภาพแทนของรัสเซีย

ต่อมา วันที่ 5 มีนาคม รัฐบาลรัสเซียผ่านร่างกฎหมายใหม่ที่กำหนดให้ "การเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกระบุว่าเป็นข่าวปลอมโดยเจตนา" จะมีโทษจำคุกสูงสุด 15 ปี

ข้อมูลที่ถูกระบุว่าเป็นข่าวปลอม มักเป็นรายงานที่ขัดแย้งกับรายงานของรัฐบาล เช่น การระบุว่า ทหารรัสเซียจำนวนมากเสียชีวิตในภารกิจบุกยูเครนเป็นต้น

เหยื่อคนแรกของกฎหมายใหม่นี้คือ เวโรนิกา เบรอตเซอร์คอฟสกายยา นักเคลื่อนไหวและฟู้ดบล็อกเกอร์ ที่มีผู้ติดตามถึง 1 ล้านคน เธอมีความผิดจากการโพสต์ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับกองทหารรัสเซียลงในอินสตาแกรม

ถัดมา อเล็กซานเดอร์ เนฟโซรอฟ ผู้สื่อข่าวคนดังของรัสเซียก็ถูกตั้งข้อหา จากการายงานข่าวว่า กองทหารรัสเซียโจมตีหญิงตั้งครรภ์ในเมืองมาริอูโปล ส่งผลให้เขาตัดสินใจลี้ภัยไปยูเครน และได้สัญชาติใหม่เป็นคนยูเครนในเวลาต่อมา

รายงานจาก OVD-Info องค์กรเพื่อสิทธิมนุษยชนของรัสเซียระบุว่า นับตั้งแต่กฎหมายใหม่บังคับใช้ มีคนรัสเซียถูกจับกุมจากข้อหาเผยแพร่ข่าวปลอมอย่างน้อย 2,000 คนแล้ว

นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมการต่อต้านจึงเป็นไปในลักษณะของรูปแบบใต้ดิน บทลงโทษสำหรับผู้ต่อต้านวลาดิเมียร์ ปูติน ยังไม่ได้จำกัดแค่การจำคุก หรือต้องลี้ภัยออกนอกประเทศ แต่ยังรวมถึงความเสี่ยงที่จะเพิกถอนสัญชาติด้วย

อาชัค มากิชยัน นักไวโอลินชาวรัสเซีย เชื้อสายอาร์เมเนีย ที่ปัจจุบันอาศัยอยู่ในเยอรมนี

อาชัคเป็นหนึ่งในนักเคลื่อนไหวที่ต่อต้านสงครามและประธานาธิบดีปูติน และกำลังจะถูกพิจารณาคดีในวันที่ 27 มิถุนายนนี้ จากข้อหาที่เขาถือป้ายประท้วงเพื่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2019

ดูเผินๆ เป็นความผิดฐานละเมิดคำสั่งควบคุมโรคเท่านั้น แต่หลังจากรัสเซียบุกยูเครน อาชัคยังคงเคลื่อนไหวต่อต้านสงครามอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้อัยการในกรุงมอสโกอาจเพ่งเล็งที่จะถอนสัญชาติเขา

สำหรับในกรณีของอาชัค อัยการอาจใช้ประโยชน์จากการที่เขาเกิดในอาร์เมเนีย ก่อนจะย้ายมายังรัสเซีย ด้วยการมุ่งไปที่ข้อหา การอพยพเข้าเมืองแบบผิดกฎหมาย

เจ้าตัวระบุว่า คดีของเขาจะเป็นคดีตัวอย่าง เพราะหากเขาพ่ายแพ้จนถูกถอนสัญชาติรัสเซีย นั่นจะทำให้ในอนาคต บรรดาผู้ต่อต้านปูตินที่ถูกจับกุมอาจเผชิญกับบทลงโทษอย่างการเพิกถอนสัญชาติไปด้วย หากพวกเขามีจุดอ่อนตรงที่ไม่ได้เกิดในรัสเซียหรือในสหภาพโซเวียต

หลายฝ่ายวิจารณ์ว่า คดีนี้มีกระบวนการยุติธรรมที่ไม่ปกติ และเห็นได้ชัดว่ามีแรงจูงใจทางการเมือง

ด้านอาชัคตั้งข้อสังเกตว่า บรรยากาศในรัสเซียเปลี่ยนนับตั้งแต่เกิดสงคราม เพราะหลายๆ อย่างมีความเป็นเผด็จการมากขึ้น

อีกเสียงต่อต้านมาจากกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยกับการครองอำนาจของปูตินอยู่แล้ว อิวาน ซาดานอฟ เคยทำงานให้กับอเล็กซี นาวัลนี ฝ่ายค้านและนักเคลื่อนไหวต่อต้านการคอร์รัปชันและการครองอำนาจเบ็ดเสร็จของปูติน

ปัจจุบัน นาวัลนี ถูกจำคุกในรัสเซีย และอิวานระบุว่า ในฐานะศัตรูของปูติน ทุกคนทราบดีว่า นาวัลนีจะไม่ได้ออกจากคุก ตราบใดที่ปูตินยังอยู่ในตำแหน่ง

วันนี้อิวานเดินทางมาที่ยูเครน เพื่อสำรวจความเสียหายที่รัสเซียทำ และสำรวจว่าข้อมูลจริงนั้นขัดแย้งกับรายงานข่าวจากรัฐบาลรัสเซียมากน้อยแค่ไหน พร้อมกันนั้นยังระบุว่า ในฐานะที่พวกเขาและยูเครนมีศัตรูคนเดียวกัน เขาอาจมองหาโอกาสในการหารือกับรัฐบาลยูเครนเร็วๆ นี้

อย่างไรก็ตามแม้เสียงต่อต้านและความพยายามจะยังคงเกิดขึ้น แต่ผลการสำรวจล่าสุดจาก Levada Center องค์กรสำรวจเดียวในรัสเซียที่เป็นอิสระกลับพบว่า ร้อยละ 77 ของคนรัสเซียยังคงสนับสนุนสงครามในยูเครน

ผลสำรวจนี้จัดทำขึ้นเมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และเป็นจำนวนเสียงสนับสนุนที่มากกว่าผลของเดือนเมษายน ซึ่งในตอนนั้นมีเสียงสนับสนุนที่ร้อยละ 74

ด้านอิวาน ซาดานอฟมองว่า ที่ผลออกมาแบบนั้นเป็นเพราว่า ส่วนใหญ่ของคนที่ต่อต้านสงครามไม่กล้าที่จะแสดงความคิดเห็นออกมา โดยเฉพาะเมื่อรัสเซียใช้กฎหมายใหม่ที่ตีความได้กว้างมากมาข่มขู่ประชาชน

TOP ต่างประเทศ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ