กลุ่มรณรงค์ระหว่างประเทศเพื่อการยกเลิกอาวุธนิวเคลียร์ (ICAN) รายงานว่า ในปี 2021 ที่ผ่านมา 9 ประเทศติดอาวุธนิวเคลียร์ใช้งบประมาณกว่า 8.24 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.88 ล้านล้านบาท) ในการพัฒนาและอัปเกรดอาวุธนิวเคลียร์เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 8%
ปัจจุบัน ทั่วโลกมีเพียง 9 ประเทศเท่านั้นที่มีสถานะเป็นประเทศติดอาวุธนิวเคลียร์ ได้แก่ สหรัฐฯ จีน รัสเซีย สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส อินเดีย อิสราเอล ปากีสถาน และเกาหลีเหนือ
คลัง “อาวุธนิวเคลียร์” ทั่วโลก จะเพิ่มขึ้นหลังจากนี้
โลกร้อน-สงครามยูเครน เปลี่ยนทัศนคติของญี่ปุ่นต่อ “นิวเคลียร์” หรือไม่?
“พลังงานนิวเคลียร์” จำเป็นต่อการลดภาวะโลกร้อนของเอเชีย?
โดยผู้ที่ใช้งบประมาณด้านอาวุธนิวเคลียร์สุงที่สุด คือ สหรัฐฯ คือ 4.42 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.5 ล้านล้านบาท) รองลงมาคือจีน รัสเซีย สหราชอาณาจักร และฝรั่งเศส
“รัฐที่ติดอาวุธนิวเคลียร์ใช้เงินจำนวนมหาศาลไปกับอาวุธทำลายล้างที่ผิดกฎหมายในปี 2021 ในขณะที่ประเทศส่วนใหญ่ในโลกสนับสนุนการห้ามใช้อาวุธนิวเคลียร์ การใช้จ่ายนี้เป็นความล้มเหลวในการยับยั้งสงครามในยุโรป และทำให้ทรัพยากรอันมีค่าสูญหายไป ซึ่งน่าจะดีกว่าหากถูกนำไปใช้จัดการกับความท้าทายด้านความมั่นคงในปัจจุบัน หรือรับมือกับผลจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 วงจรการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยแบบนี้จะต้องยุติเสียที” ICAN กล่าว
ICAN ตั้งข้อสังเกตว่า มีการใช้เงินหลายล้านในการล็อบบี้การพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ “การแลกเปลี่ยนเงินและอิทธิพลจากประเทศต่างๆ ไปสู่บริษัทต่างๆ ไปจนถึงนักวิ่งเต้นและนักคิด เป็นการค้ำจุนและบำรุงรักษาคลังอาวุธระดับโลกที่มีอาวุธทำลายล้างอย่างร้ายแรง”
เมื่อวันจันทร์ (13 มิ.ย.) สถาบันวิจัยสันติภาพนานาชาติแห่งสตอกโฮล์ม (SIPRI) เตือนว่า ในอนาคตอันใกล้ 9 ประเทศติดอาวุธนิวเคลียร์จะเพิ่มหรืออัปเกรดคลังแสงอาวุธนิวเคลียร์ขึ้นไปอีก และความเสี่ยงของการนำอาวุธดังกล่าวไปใช้จะสูงขึ้นอย่างมาก
สำหรับเกาหลีเหนือ มีเพียงการประมาณการงบประมาณที่ใช้ไปกับอาวุธนิวเคลียร์ในปี 2021 ว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณ 642 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.2 หมื่นล้านบาท) ไปกับอาวุธนิวเคลียร์ แต่ไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับจำนวนงบประมาณชัด ๆ ที่เกาหลีเหนือใช้ไปกับอาวุธนิวเคลียร์ SIPRI ประมาณการว่า เกาหลีเหนืออาจมีหัวรบมากถึง 20 หัวรบ
เรียบเรียงจาก Al Jazeera
ภาพจาก AFP
ศาลสหรัฐฯตัดสินจำคุกตลอดชีวิต นักเขียนฮาวทูฆ่าสามีตัวเอง
WHO เตรียมพิจารณายกระดับเตือนภัย “ฝีดาษลิง” สัปดาห์หน้า