ยูเครนปฏิเสธข้อเสนอของรัสเซียที่ต้องการให้ทหารยูเครนในโรงงานเคมีอาซอต ภายในเมืองซีวีโรโดเนสตก์ วางอาวุธแล้วยอมแพ้ แล้วจะยอมเปิดทางให้อพยพพลรือนและทหารออกมา โดยรายงานคาดว่า ในโรงงานดังกล่าวมีทหารและพลเรือนอยู่เป็นจำนวนมาก และเป็นหนึ่งในฐานที่มั่นแห่งสุดท้ายของยูเครนในเมืองดังกล่าว หลังเกิดการปะทะกันกับรัสเซียยาวนานหลายสัปดาห์แล้ว และรัสเซียเข้ายึดพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองได้หมดแล้ว
“บิ๊กตู่” ชี้ไทยเจอวิกฤต ศก.3 เด้ง รับทำงานจนเบลอ อาจไม่ถูกใจใครบ้าง
ชาวเมืองในหมู่บ้านใกล้ “ฟุกุชิมะ” ได้กลับบ้านครั้งแรกในรอบ 11 ปี
โดยเงื่อนไขของทางรัสเซีย คือ เมื่อวานนี้ (15 มิถุนายน 2565) ระหว่างเวลา 8 - 20 นาฬิกา ตามเวลาท้องถิ่นของกรุงมอสโก รัสเซียจะหยุดยิง และเปิดระเบียงมนุษยธรรมให้ทำการอพยพ แต่สำหรับคนที่อพยพออกมาก็จะได้รับการส่งตัวต่อไปยังเมืองสวาโตโว ซึ่งอยู่ในพื้นที่ครอบครองของกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนที่สนับสนุนรัสเซียในแคว้นลูฮานสก์ ซึ่งเงื่อนไขดังกล่าวได้รับการปฏิเสธจากรัฐบาลเคียฟของยูเครน
ขณะที่โฆษกของสำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบีบีซีว่า คาดว่าในเวลานี้ มีประชาชนราว 12,000 คน ติดค้างอยู่ภายในเมืองซีวีโรโดเนสตก์ และสเบียงอาหารกำลังจะหมด หลังจากที่สะพานแห่งสุดท้ายทื่เชื่อมต่อกับตัวเมืองถูกกองทัพรัสเซียทำลายได้รับความเสียหายย่อยยับเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ และสิ่งที่เจ้าหน้าที่ยูเอ็นเป็นกังวลมากที่สุด คือ การขาดแคลนน้ำและอนามัย เนื่องจากประชาชนจะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ถ้าหากขาดน้ำเป็นเวลานาน
นอกจากนี้ ยังคาดการณ์ว่า เสบียงอาหารและเวชภัณฑ์ต่าง ๆ ก็กำลังจะหมดลงในเมืองดังกล่าวด้วย ดังนั้นยูเอ็นจึงหวังว่าจะสามารถจัดส่งความช่วยเหลือเข้าไปยังเมืองดังกล่าวได้ แต่การสู้รบที่มีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้หน่วยงานไม่สามารถเข้าไปได้อย่างปลอดภัย
อย่าวไรก็ตาม รัสเซียไม่เพียงยื่นข้อเสนอให้ยูเครนวางอาวุธในเมืองซีวีโรโดเนสตก์แล้ว รัสเซียยังมีอีกหนึ่งข้อเสนอ หลังก่อนหน้านี้หลายฝ่ายเรียกร้องให้รัสเซียเลิกปิดล้อมทะเลดำ เพื่อให้ยูเครนส่งออกธัญพืชจำนวนมากออกไปยังต่างประเทศ
รายงานระบุว่า มีธัญพืช ผลผลิตทางการทหารหลายล้านตันของยูเครน ตกค้างตามท่าเรือต่าง ๆ ในยูเครน แต่ไม่สามารถส่งออกได้ ซึ่งกรณีดังกล่าวส่งผลกระทบต่อราคาอาหารและวิกฤตขาดแคลนอาหารในหลายพื้นที่ทั่วโลก
รัสเซีย เสนอว่า สามารถมอบการเดินทางอันปลอดภัยให้แก่เรือขนส่งธัญพืชของยูเครน จากท่าเรือต่าง ๆ ในทะเลดำ ทางตอนใต้ของประเทศ แต่จะไม่ขอรับผิดชอบในการสร้างระเบียงมนุษยธรรมหรืออะไรในลักษณะนั้นอย่างเป็นทางการ เพราะระบุว่า ทางยูเครนได้ไปฝังระเบิดเอาไว้ตามชายหาดริมทะเลดำ ทางตอนใต้ของยูเครนในเวลานี้