ผู้นำอังกฤษเจอมรสุมการเมืองลูกใหญ่ หลังรัฐมนตรีสำคัญหลายคน ซึ่งบางส่วนเคยเป็นผู้ที่สนับสนุนเขามาก่อน ตบเท้าลาออก บ้างก็ออกมาเรียกร้องให้เขาลงจากตำแหน่ง เนื่องจากไม่พอใจบทบาทการเป็นผู้นำรัฐบาลของเขา นำโดยนายริชี สุนัค (Rishi Sunak) รัฐมนตรีคลัง และนายซาจิด จาวิด (Sajid Javid) รัฐมนตรีสาธารณสุข ที่ยื่นหนังสือลาออกในเวลาไล่เลี่ยกัน ตั้งแต่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
อังกฤษ-EU ประกาศคว่ำบาตรรัสเซียชุดแรก
“บอริส จอห์นสัน” นายกฯ อังกฤษ ยืนยัน ไม่ลาออก หรือยุบสภา
ซึ่งหลังจากนั้นไม่นาน ก็มีรัฐมนตรี รัฐมนตรีช่วยและเจ้าหน้าที่ผู้ช่วยในคณะรัฐบาลลาออกเพิ่ม รวมกว่า 40 คน ในระยะเวลาเพียง 24 ชม.
และขณะนี้ ยังคงมีการยื่นหนังสือลาออกเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้จำนวนคนที่ลาออกเพื่อกดดันนายกฯ พุ่งทะลุ 50 คนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งรวมถึงรัฐมนตรีใหม่ที่เพิ่งแต่งตั้งขึ้นมาแทนตำแหน่งที่ว่างลงเมื่อ 2 วันก่อน
ล่าสุด สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า จอห์นสันเตรียมจะประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมในวันนี้ (7 ก.ค.) แต่จะยังอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปจนกว่าจะมีการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ช่วงฤดูใบไม้ร่วง หรือประมาณเดือน ต.ค.นี้
สงครามส่งราคาพลังงานพุ่ง เอเชียช้ำหนัก
นายกฯ อังกฤษจ่อถูกสภาซักฟอก หลังรัฐมนตรีสำคัญตบเท้าลาออก
อย่างไรก็ตาม เริ่มมีกระแสจาก ส.ส.ในพรรคหลายคน ที่ต้องการให้นายจอห์นสันลงจากตำแหน่งนายกฯ ทันที หรือเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ขณะเดียวกัน ยังมีรายงานว่านาง ลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ได้ยกเลิกภารกิจร่วมประชุม G20 ที่ประเทศอินโดนีเซีย และเตรียมเดินทางกลับกรุงลอนดอนทันที
ย้อนกลับไปช่วงบ่ายวานนี้ นายจอห์นสัน ได้ขึ้นชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการรัฐสภา หลัง ส.ส.พรรคอนุรักษ์นิยม ตั้งข้อซักถามเกี่ยวกับกระแสกดดันให้ลาออก
จอห์นสัน ระบุว่า ตนมีความชอบธรรมในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จากการนำพรรคอนุรักษ์นิยมคว้าชัยเลือกตั้งทั่วไปในปี 2019 ด้วยคะแนนเสียงถล่มทลายที่สุดในรอบกว่า 20 ปี จนสามารถครองเสียงข้างมากอย่างเด็ดขาดเพียงพรรคเดียวในสภาล่าง และตนจะไม่ยุบสภาเพื่อจัดการเลือกตั้งใหม่
หลังจากนั้นไม่นาน มีรายงานว่านายจอห์นสันได้สั่งปลดนายไมเคิล โกฟ (Michael Gove) รัฐมนตรีกระทรวงเคหะและชุมชน ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกอาวุโสของคณะรัฐมนตรี ที่ออกมาเรียกร้องให้เขาลาออก
แหล่งข่าวจากทำเนียบนายกฯ เรียกนายโกฟว่าเป็นงูเห่า เพราะเขาเองเคยเป็นพันธมิตรสำคัญคนหนึ่งของนายจอห์นสัน
ทั้งนี้ ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา รัฐบาลอังกฤษต้องเผชิญดราม่าอื้อฉาวมากมายเกี่ยวกับนายจอห์นสัน จนกระทบต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของประชาชน ตั้งแต่เรื่องที่ถูกตำรวจสอบสวน ฐานละเมิดมาตรการควบคุมโควิด-19 เนื่องจากมีหลักฐานว่าจัดงานปาร์ตี้ที่ทำเนียบนายกฯ หลายครั้ง ในช่วงที่ทั่วประเทศอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์
เรื่องนี้ปลุกกระแสเรียกร้องให้นายจอห์นสันลาออกจากตำแหน่ง แต่เจ้าตัวปฏิเสธและยังรอดพ้นการลงมติไม่ไว้วางใจมาได้อย่างหวุดหวิดเมื่อเดือนที่แล้ว
นอกจากนี้ ยังมีกรณีการตั้ง ส.ส. คริส พินเชอร์ เป็นรองประธานวิปรัฐบาล ทั้งที่เขาถูกร้องเรียนว่าลวนลามผู้หญิง ซึ่งเรื่องนี้จอห์นสันออกมายอมรับเองว่า เป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่หลวงของตน
ท่ามกลางอุณหภูมิร้อนทางการเมือง อีกหนึ่งประเด็นที่สื่อให้ความสนใจ คือ เจ้าแลร์รี แมวประจำทำเนียบนายกฯ ที่เดินเข้าออกบ้านเลขที่ 10 ถนนดาวนิง ตลอดเวลาที่นักข่าวไปเกาะติดทำข่าว
นักข่าวคนหนึ่งตะโกนถามเจ้าแลร์รีว่า "แกได้บอกให้นายกฯ ลาออกด้วยไหม แลร์รี?" ซึ่งแน่นอนว่า แลร์รีไม่ได้แสดงความเห็นใด ๆ ในเรื่องนี้
ชาวเน็ตเกาหลีใต้จับผิด ปธน.จัดฉากถ่ายรูปทำงาน
ส่วนที่เกาหลีใต้ มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ภาพชุดการทำงานของประธานาธิบดี ยุน ซอก-ยอล และสตรีหมายเลข 1 ระหว่างภารกิจเยือนสเปน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่ทางทำเนียบบลูเฮ้าส์เผยแพร่ออกมาภาพชุดนี้มีทั้งหมด 12 ภาพ ซึ่ง 1 ในนั้นเป็นภาพของนายยุนนั่งทำงานหน้าคอม มือขวากำลังคลิกเม้าส์ แต่ที่น่าสังเกตคือ หน้าจอ คอมพิวเตอร์นั้นว่างเปล่า
อีกภาพเป็นภาพของนายยุน กำลังนั่งอ่านเอกสารหลายแผ่น แต่หากสังเกตดีๆ จะเห็นว่าเป็นเอกสารเปล่า ที่ไม่มีตัวหนังสืออยู่เลย หลายคนมองว่าภาพที่ปล่อยออกมา เป็นการจัดฉากการทำงานที่ดูยังไงก็ไม่เนียนเอาเสียเลย
ร้อนถึงทำเนียบบลูเฮ้าส์ ต้องออกมาชี้แจงว่า ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ว่างเปล่า เพราะภาพนี้ถ่ายหลังจากที่นายยุนเพิ่งลงนามอนุมัติรายการสำหรับการประชุมคณะรัฐมนตรีที่โซลเสร็จ
จากนั้น ในวันต่อมา ก็มีคำอธิบายเพิ่มเติมจากทำเนียบประธานาธิบดีว่า ทุกครั้งที่มีการเผยแพร่รูปทางการ เราจะต้องตรวจสอบและระมัดระวังไม่เปิดเผยสิ่งที่อยู่บนหน้าจอ หรือเอกสารที่ผู้นำประเทศกำลังดูอยู่ ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง
“แม่ลีน่าจัง” เคาะ! สาวงาม Miss Universe Thailand 2022 ใครมีโอกาสลุ้นมง
รวมยารักษาโควิด-19 เปิดเกณฑ์ ไขข้อสงสัยทำไมแต่ละคนได้รับไม่เหมือนกัน
ภาพจาก AFP
