รัสเซีย กลับมาโจมตีคาร์คีฟ แคว้นโดเนตสก์โดนถล่มหนัก


โดย PPTV Online

เผยแพร่




เข้าสู่วันที่ 138 ของสงครามในยูเครน จุดปะทะหลัก ๆ ของสงครามยังคงอยู่ในภูมิภาคดอนบาสในแคว้นโดเนตสก์ ซึ่งการรุกคืบเป็นไปอย่างช้า ๆ แต่รุนแรง ทั้งสองฝ่ายขนสรรพาวุธไปประจำการที่นั่นและตอบโต้กันไปมาอย่างหนัก นอกจากแนวรบในภูมิภาคดอนบาสแล้ว ล่าสุดมีรายงานว่า รัสเซียเริ่มกลับมาโจมตีในแคว้นคาร์คีฟ ซึ่งเป็นแคว้นที่กองทัพยูเครนยึดคืนมาได้

ภาพความเสียหายของอาคารบ้านเรือนและที่พักของประชาชนในเขตออสโนเวียนสกี ของแคว้นคาร์คีฟ หลังจากถูกรัสเซียโจมตีด้วยขีปนาวุธ 

โดยหน่วยบริการฉุกเฉินแห่งชาติของยูเครนรายงานว่า ไม่มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีเพียงหญิงชราวัย 86 ปี ที่ติดอยู่บริเวณชั้นสองของอาคารดังกล่าว และไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรง

นอกจากที่พักอาศัยของประชาชนแล้ว มีรายงานว่า กองทัพรัสได้เซียโจมตีโรงเรียนและศูนย์ดูแลสุขภาพเด็ก ซึ่งตั้งอยู่เขตทางตอนใต้ของแคว้นคาร์คีฟด้วยเช่นกัน

เศรษฐกิจถดถอย "เสี่ยงสูงมาก ๆ" โกลด์แมนแซคส์เตือนเตรียมตัวรับมือ

หลายชาติยุโรปไม่พอใจ “ฟีฟ่า” ไม่แบน “รัสเซีย”

ผลของการโจมตีดังกล่าวทำให้อาคารทั้งหลังได้รับความเสียหายอย่างหนัก หน้าต่างพังและฝ้าเพดานถล่มลงมา แต่ทางการรายงานว่า ไม่มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ถัดลงมาที่แคว้นโดเนตสก์ ซึ่งเป็นสมรภูมิหลักในปฏิบัติการเฟสสอง หลังจากที่กองทัพรัสเซียยึดแคว้นลูฮันสก์ไปได้ตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ก่อน ที่นี่การต่อสู้ยังคงเป็นไปอย่างดุเดือด ทั้งสองฝ่ายมีการปะทะกันอยางหนัก และระดมยิงปืนใหญ่ใส่กัน ส่งผลให้เกิดควันจากการโจมตีขึ้นในหลายจุด

นอกจากการปะทะกันอย่างหนักแล้ว เมื่อวานนี้ มีรายงานว่า รัสเซียได้ใช้ขีปนาวุธโจมตีใส่อาคารที่พักอาศัยของพลเรือนในเขตชาร์ซิฟ ยาร์ ในเมืองบัคมุตของแคว้นโดเนตสก์ ส่งผลให้อาคารดังกล่าวเสียหายอย่างหนักและบางส่วนพังถล่มลงมา

เจ้าหน้าที่ทางการของยูเครนรายงานว่า ตอนนี้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 15 คน และมีประชาชนอีกอย่างน้อย 30 คนติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังดังกล่าว

ภาพการช่วยเหลือประชาชนที่อยู่ภายใต้ซากอาคารที่พักอาศัยดังกล่าว จะเห็นได้ว่าการช่วยเหลือเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากซากปรักหักพังนั้นทับกันแน่น อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือชายคนนี้พร้อมกับคนอื่น ๆ อีก 6 คนออกมาได้

ส่วนประชาชนที่รอดชีวิตมาได้เล่าว่า พวกเขาต้องหนีออกมาเพื่อเอาชีวิตรอด และต้องอยู่ตามท้องถนนในเวลาค่ำคืนแทนแทน เพราะเกรงว่ารัสเซียจะโจมตีใส่ที่พักอีกครั้ง

ด้านประธานาธิบดีเซเลนสกีของยูเครนออกมาระบุว่า รัสเซียโจมตีทางอากาศอย่างไม่ลดละ โดยในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา รัสเซียโจมตียูเครนทางอากาศไปแล้วถึง 34 ครั้ง แต่ยูเครนจะยังคงยืนหยัดต่อสู้เพื่อรับมือกับกองทัพรัสเซียต่อไป

ในวันที่สงครามยังคงดำเนินต่อไปและกลายเป็นสงครามยืดเยื้อ ไม่ใช่แค่ยูเครน แต่ทุกฝ่ายต้องทุ่มเทสรรพกำลังที่ตนมีเพื่อเอาชนะฝ่ายตรงข้ามในสงคราม และสิ่งที่ใช้เป็นเครื่องมือได้ในเวลานี้คือ พลังงาน

ตอนนี้ พลังงานกำลังกลายเป็นอาวุธที่สำคัญที่รัสเซียอาจนำมาใช้ในวันที่บรรดาชาติยุโรปต่างรวมกำลังเพื่อช่วยยูเครน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพลังงานที่ถูกส่งผ่านท่อที่เรียกว่า ท่อนอร์ดสตรีม-1 ไปยังเยอรมนี ซึ่งเป็นมหาอำนาจหนึ่งในยุโรป

เมื่อวานนี้ (10 ก.ค.) สำนักข่าวเดอะการ์เดียน พาดหัวข่าวหน้าหนึ่งว่า เยอรมนีเตรียมพร้อมรับมือกับฝันร้ายที่จะเกิดจากการปิดท่อส่งก๊าซของรัสเซีย

เนื้อหาของข่าวระบุว่า เยอรมนีกำลังเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับความเป็นไปได้ที่รัสเซียจะหยุดส่งก๊าซผ่านท่อนอร์ดสตรีม-1 แบบถาวร หลังจากที่วันนี้เป็นวันแรกที่บริษัทนอร์ดสตรีมจะปิดปรับปรุงระบบส่งก๊าซ

โดยการปิดปรับปรุงครั้งนี้จะใช้เวลาประมาณ 10-14 วัน ทางบริษัทผู้ดูแลแจ้งว่าระบบต่าง ๆ จะปรับปรุงแล้วเสร็จในวันที่ 22 ก.ค.นี้

อย่างไรก็ตาม ด้วยสภาวะสงครามยูเครนที่กำลังดำเนินอยู่ตอนนี้ ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า การปิดปรับปรุงในครั้งนี้อาจเป็นข้ออ้างของรัสเซียเพื่อหาช่องทางในการยุติการส่งก๊าซผ่านท่อดังกล่าว เพื่อโต้กลับเยอรมนีที่ส่งอาวุธหนักให้แก่ยูเครน แล้วท่อก๊าซนอร์ดสตรีมนี้อยู่ตรงไหน? เหตุใดเยอรมนีจึงกังวลกับเรื่องนี้?

โครงการนอร์ดสตรีม-1 เป็นโครงการความร่วมมือระหว่างเยอรมนีและรัสเซียในการส่งก๊าซจากเมืองวึยบอร์กทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัสเซีย ลอดใต้ทะเลบอลติกมายังเมืองไกรฟ์วาลด์ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเยอรมนี

โดยท่อก๊าซนอร์ดสตรีม-1 มีระยะทางขนส่งยาวกว่า 1,200 กม.และสามารถขนส่งก๊าซได้ถึง 55,000 พันล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ซึ่งเพียงพอที่จะทำให้คนเยอรมนีอยู่รอดได้ในฤดูหนาวและสามารถหล่อเลี้ยงภาคอุตสาหกรรมให้ดำเนินกิจการได้

เมื่อมีกระแสดังกล่าวออกมา โรเบิร์ต ฮาแบ็ค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจของเยอรมนีก็ออกมายอมรับแบบตรงไปมาตรงมาเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า มีความเป็นไปได้ที่รัสเซียอาจยุติการส่งก๊าซผ่านท่อนอร์ดสตรีม-1 จริง

โดยรัฐมนตรีเศรษฐกิจของเยอรมนีระบุว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เยอรมนีต้องเตรียมตัวให้พร้อมกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นและต้องจัดการสถานการณ์ให้ได้

แล้วสถานการณ์ที่เยอรมนีต้องเผชิญหากรัสเซียตัดสินใจหยุดส่งก๊าซผ่านท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีม-1 คืออะไร? และจะส่งผลกับเยอรมนีมากน้อยขนาดไหน?

คำตอบนี้มาจาก CEO ของบริษัท Uniper บริษัทสัญชาติเยอรมันซึ่งเป็นผู้นำเข้าพลังงานจากรัสเซียที่ระบุว่า หากรัสเซียยุติการส่งก๊าซจริง สิ่งแรกที่คนเยอรมันจะต้องเผชิญคือ ราคาค่าก๊าซจะพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก

สิ่งต่อมาคือ การที่ภาคเอกชนและภาคอุตสาหกรรมที่ต้องใช้พลังงานในการดำเนินธุรกิจจะเผชิญกับต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น

โดย CEO ของบริษัท Uniper ระบุเพิ่มเติมว่าในสัปดาห์นี้ ทางบริษัทจะเริ่มแจ้งคู่สัญญาซื้อขายก๊าซของบริษัทว่า ราคาของพลังงานอาจจะปรับตัวสูงขึ้นจากสถานการณ์ในปัจจุบัน เพราะทางบริษัทไม่มีตัวเลือกอื่นแล้วในการจัดการกับราคาพลังงาน

ตอนนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจคาดการณ์กันว่า หากรัสเซียตัดการส่งก๊าซผ่านท่อนอร์ดสตรีม-1 ภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีที่ต้องพึ่งพาพลังงานอาจได้รับผลกระทบหนักจนไม่สามารถดำเนินกิจการต่อได้

และอาจนำไปสู่ล้มละลายของธุรกิจอุตสาหกรรมบางประเภท การเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าต่าง ๆ อัตราเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ย ตลอดจนการถดถอยของเศรษฐกิจเยอรมนีในรอบหลายสิบปี

TOP ต่างประเทศ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ