กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้รายงานว่า เช้าวันนี้ (17 ส.ค.) เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธร่อน 2 ลูกจากเมืองชายฝั่งออนชอน ไปทางน่านน้ำนอกชายฝั่งตะวันตก ซึ่งใกล้กับช่วงที่สหรัฐฯ และเกาหลีใต้กำลังจะจัดให้มีการซ้อบรบร่วมในสัปดาห์หน้า
ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีเพิ่มขึ้น เมื่อสหรัฐฯ และเกาหลีใต้จะจัดการฝึกซ้อมรบร่วมกันครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปีเพื่อตอบโต้ภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ เกาหลีเหนืออธิบายว่า การซ้อมรบดังกล่าวเป็นการซ้อมรบบุกรุก และมักตอบโต้ด้วยการทดสอบขีปนาวุธหรือการยั่วยุอื่น ๆ
แสดงแสนยานุภาพนิวเคลียร์ สหรัฐฯ ยิงทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป
“5 พันล้านคน” ทั่วโลกจะเสียชีวิต หากเกิดสงครามนิวเคลียร์สหรัฐฯ-รัสเซีย
ปูตินประกาศ รัสเซียเตรียมขยายความสัมพันธ์ทวิภาคีกับเกาหลีเหนือ
ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของเกาหลีใต้ได้จัดประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์ด้านความปลอดภัยและตรวจสอบความพร้อมของกองทัพ และมีมติติดตามความเคลื่อนไหวที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด
คาดว่าขีปนาวุธที่ถูกยิงออกมาเป็นขีปนาวุธร่อนขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ไอพ่นและอยู่ใกล้พื้นดิน ทำให้ตรวจจับได้ยาก ขีปนาวุธร่อนส่วนใหญ่ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อบรรทุกหัวรบนิวเคลียร์
การยิงขีปนาวุธร่อนดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนการปราศรัยของประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ยุน ซ็อกยอล เนื่องในโอกาสครบรอบ 100 วันในการดำรงตำแหน่ง
ในการปราศรัย ประธานาธิบดียุนได้กล่าวถึงประเด็นเกี่ยวกับเกาหลีเหนือว่า รัฐบาลของเขาไม่มีแผนที่จะพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของตัวเอง ดำเนินการยับยั้งนิวเคลียร์ของตนเองแม้เผชิญกับศักยภาพด้านอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือที่เพิ่มขึ้น
ประธานาธิบดียุนกล่าวว่า เกาหลีใต้ไม่ต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในเกาหลีเหนือที่เกิดจากการใช้กำลัง และเขาเรียกร้องให้มีการทูตที่มุ่งสร้างสันติภาพที่ยั่งยืนระหว่างสองฝ่าย
โดย ยุน ซ็อกยอล เสนอความช่วยเหลือขนาดใหญ่ในด้านอาหาร สาธารณสุข และการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานและท่าเรือให้กับเกาหลีเหนือ ซึ่งคล้ายข้อเสนอเดิมที่เกาหลีเหนือเคยปฏิเสธ
ประธานาธิบดียุนเน้นย้ำว่า เกาหลีใต้ยังคงมีความตั้งใจที่จะให้ความช่วยเหลือแก่เกาหลีเหนือ หากอีกฝ่ายตกลงที่จะยุติการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และเริ่มกระบวนการปลดอาวุธนิวเคลียร์
“เราไม่ได้บอกให้พวกเขา 'ปลดนิวเคลียร์ทั้งหมดก่อน แล้วเราจะจัดหาความช่วยเหลือให้' เราจะจัดหาสิ่งที่เราสามารถทำได้ หากพวกเขาแสดงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ต่อการปลดอาวุธนิวเคลียร์” เขากล่าว
ความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลีแย่ลงในช่วงเวลาที่ผ่านมา หลังการเจรจาด้านนิวเคลียร์ระหว่างเกาหลีเหนือและสหรัฐฯ หยุดชะงักไปในช่วงต้นปี 2019 จากความไม่ลงรอยกันเกี่ยวกับการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรที่สหรัฐฯ ประกาศใช้ต่อเกาหลีเหนือ
ในปีนี้ เกาหลีเหนือได้เพิ่มการทดสอบขีปนาวุธมากขึ้นเป็นประวัติการณ์ โดยยิงขีปนาวุธออกมาแล้วมากกว่า 30 ลูก รวมถึงขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) ที่ยิงครั้งแรกในรอบเกือบ 5 ปีเมื่อช่วงต้นปีนี้
กิจกรรมการทดสอบอาวุธขั้นสูงของเกาหลีเหนือ เน้นย้ำถึงความตั้งใจที่จะพัฒนาคลังแสง เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองและบังคับให้สหรัฐฯ ยอมรับแนวคิดของเกาหลีเหนือในฐานะผู้นำด้านนิวเคลียร์ เพื่อนำไปสู่การเจรจาด้านเศรษฐกิจต่อไป
ผู้เชี่ยวชาญบางคนกล่าวว่า เป็นที่ชัดเจนว่าเกาหลีใต้ไม่มีวิธีที่ชัดเจนในการตอบโต้อาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ทำให้ชาวเกาหลีใต้บางคนเรียกร้องให้มีการนำอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ ซึ่งถูกโละออกจากเกาหลีใต้ตั้งแต่ปี 1990 กลับมาใช้ใหม่ หรือเรียกร้องให้เกาหลีใต้ดำเนินการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของตนเอง
ประธานาธิบดียุนกล่าวว่า เกาหลีใต้จะยังคงยึดมั่นในสนธิสัญญาระหว่างประเทศที่มีเป้าหมายในการป้องกันการแพร่กระจายของอาวุธนิวเคลียร์ “ผมเชื่อว่าระบอบ NPT (สนธิสัญญาไม่แพร่กระจายอาวุธ) เป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นสำหรับการสร้างสันติภาพของโลกอย่างถาวร”
ภาพจาก AFP
ปูตินยัน อาวุธรัสเซีย “ล้ำหน้า” ศัตรูหลายสิบปี เตรียมขายให้ชาติพันธมิตร
เสี่ยงแต่ต้องอยู่ ช่างเทคนิคยูเครนปกป้องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
