ทีมนักวิจัยที่อยู่เบื้องหลังโปรเจกต์นี้ ระบุว่า พวกเขาจะคืนชีพเสือแทสเมเนีย หรือชื่อทางวิทยาศาสตร์ คือ ไธลาซีน (Thylacine) โดยใช้สเต็มเซลล์จากสัตว์ในตระกูลเดียวกันที่มี DNA เหมือนกัน ร่วมกับเทคโนโลยีตัดแต่งพันธุกรรม เพื่อให้พวกมันกลับมามีชีวิตอีกครั้ง หรือมีลักษณะใกล้เคียงกับเสือแทสเมเนียที่สูญพันธุ์ไปแล้วให้ได้มากที่สุด
ทีมงานตั้งเป้าว่า โปรเจกต์นี้จะสำเร็จ จนสามารถปล่อยเสือแทสเมเนียตัวแรกกลับคืนสู่ป่าได้ในระยะเวลา 10 ปี
ออสเตรเลียจัด “โคอาลา”เป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์
กบบางชนิดใกล้สูญพันธุ์ เหตุฝรั่งเศส-เบลเยียมบริโภค “ขากบ” เกินพอดี
“ฉลามขาว” อาจเป็นสาเหตุให้ฉลามยักษ์ “เมกาโลดอน” ต้องสูญพันธุ์
ซึ่งหากเป็นไปตามนี้ จะถือเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ของแวดวงวิทยาศาสตร์ และเป็นการคืนชีพสัตว์สูญพันธุ์สำเร็จเป็นครั้งแรก
อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้เชี่ยวชาญบางส่วนที่ตั้งข้อสงสัยถึงความเป็นไปได้ และมองว่าการชุบชีวิตสัตว์สูญพันธุ์เกิดขึ้นแค่ในนิยายวิทยาศาสตร์เท่านั้น
สำหรับไธลาซีน ได้ชื่อว่า "เสือแทสเมเนีย" เพราะมีลวดลายบนหลังคล้ายเสือ แต่จริงๆ แล้ว พวกมันเป็นสัตว์มีกระเป๋าหน้าท้องประเภทกินเนื้อ มีลักษณะคล้ายสุนัขหรือหมาป่า และมีถิ่นอาศัยอยู่ในออสเตรเลีย
ประชากรเสือแทสเมเนียเริ่มลดลง หลังมนุษย์ค้นพบทวีปออสเตรเลียหลายหมื่นปีก่อน พร้อม ๆ กับการมาของสุนัขป่าดิงโก (Dingo) สุนัขป่าที่พบได้เฉพาะในออสเตรเลีย ซึ่งมีรูปร่างหน้าตาคล้ายสุนัขบ้านมากที่สุด
สุดท้าย เสือแทสเมเนียก็ลดจำนวนลงเรื่อย ๆ จนเหลืออาศัยอยู่แค่บนพื้นที่เกาะแทสเมเนีย และถูกล่าจนสูญพันธุ์ไปในที่สุด โดยเสือแทสเมเนียตัวสุดท้ายของโลกตายที่สวนสัตว์เมืองโฮบาร์ต ตั้งแต่ปี 1936
ภาพจาก AFP
สหรัฐฯ ช่วยสุนัขบีเกิล 4,000 ตัว เพาะพันธุ์ส่งขายห้องทดลอง
แสดงแสนยานุภาพนิวเคลียร์ สหรัฐฯ ยิงทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป