รัฐบาลทหารเมียนมา พร้อมเจรจา “ซูจี” หลังดำเนินคดีเสร็จ


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา เผยรัฐบาลทหารพร้อมเจรจากับนางออง ซานซูจี เพื่อยุติวิกฤตที่เกิดขึ้นจากการรัฐประหาร หลังการพิจารณาคดีในศาลสิ้นสุดลง

สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า รัฐบาลทหารเปิดกว้างต่อการเจรจากับนางอองซาน ซูจี เพื่อยุติวิกฤติที่เกิดจากการทำรัฐประหาร หลังจากการพิจารณาคดีของเธอในศาลที่ปกครองโดยรัฐบาลทหารสิ้นสุดลง

พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ระบุในคำแถลงว่า หลังการดำเนินคดีตามกฎหมายของเธอเสร็จสิ้นแล้ว รัฐบาลทหารเมียนมาจะพิจารณาเรื่องการเจรจาตามคำตอบสนองของเธอ

อองซาน ซูจี ถูกศาลเมียนมา ตัดสินจำคุกเพิ่มอีก 6 ปี

"เมียนมา" ไม่รับคำวิจารณ์ การประหาร 4 นักโทษ

ทั้งนี้ นางอองซาน ซูจี วัย 77 ปี ซึ่งถูกควบคุมตัวตั้งแต่ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมโค่นล้มรัฐบาลพลเรือนของเธอในเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว จนถึงตอนนี้นางอองซาน ซูจีถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 17 ปี จากข้อหาจำนวนมากที่กลุ่มสิทธิมนุษยชนกล่าวว่ามีแรงจูงใจทางการเมือง และนางอองซาน ซูจีเองก็ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีแล้วอย่างน้อย 18 คดี และหากถูกตัดสินว่ามีความผิดทั้งหมดเธอจะต้องถูกจำคุกเกือบ 190 ปี

ส่วนนักข่าวถูกห้ามไม่ให้เข้าฟังการพิจารณาคดี ขณะที่ทนายความของเธอถูกสั่งปิดปากไม่ให้พูดคุยกับสื่อ และรัฐบาลทหารไม่ได้ระบุว่าการพิจารณาคดีของเธอจะเสร็จสิ้นเมื่อใด

เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา "ซอ มิน ตุน" โฆษกรัฐบาลทหาร เมียนมาเปรยกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ที่รัฐบาลทหารจะเข้าสู่การเจรจากับนางออง ซานซูจีเพื่อแก้ปัญหาความวุ่นวายที่เกิดขึ้นจากการยึดอำนาจของกองทัพเมื่อปีที่แล้ว

สำหรับนางออง ซานซูจียังคงเป็นบุคคลที่น่าเคารพนับถือในประเทศจากความกล้าหาญของเธอในการต่อต้านรัฐบาลทหารชุดก่อนหน้านี้ แม้ชื่อเสียงในระดับนานาชาติของเธอจะสั่นคลอนหลังเธอชนะการเลือกตั้งปี 2015 และปกครองประเทศภายใต้ข้อตกลงแบ่งอำนาจกับกองทัพ

ทั้งนี้หลายคนที่ติดพันในการต่อสู้กับกองทัพระบุว่า การเคลื่อนไหวต้องไปไกลกว่าสิ่งที่นางอองซาน ซูจีเคยเป็นผู้นำเมื่อหลาย 10 ปีก่อน

ขณะที่ผู้ที่เห็นต่างกับรัฐบาลทหารเมียนมาในวันนี้กล่าวว่า เป้าหมายตอนนี้คือการถอนรากการครอบงำของทหารออกจากการเมืองและเศรษฐกิจของประเทศอย่างถาวร

ส่วนความเคลื่อนไหวของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน ซึ่งพยายามใช้การทูตเพื่อยุติการนองเลือด แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ ฉันทามติ 5 ข้อในแผนสันติภาพที่เมียนมาตกลงกับชาติสมาชิกอาเซียน 10 ชาติเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งรวมถึงการเรียกร้องให้ยุติความรุนแรง และมีการเจรจาอย่างสร้างสรรค์ กลับไม่มีความคืบหน้า เนื่องจากรัฐบาลทหารเมียนมาเพิกเฉยต่อแผนสันติภาพที่เคยตกลงไว้

ขณะที่สัปดาห์นี้ "โนลีน เฮย์เซอร์" ผู้แทนพิเศษเลขาธิการสหประชาชาติด้านเมียนมาเดินทางเยือนเมียนมาเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ได้รับแต่งตั้งเมื่อปีก่อน และได้พบหารือกับพลเอกอาวุโสอาวุโส มิน อ่องหล่าย และเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงคนอื่นๆ

อย่างไรก็ตาม "โนลีน เฮย์เซอร์" ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าพบกับนางอองซาน ซูจี ขณะที่กลุ่มนักสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า พวกเขามองในแง่ดีที่มีอยู่น้อยนิดว่าการเยือนของ "โนลีน เฮย์เซอร์" จะโน้มน้าวให้ทหารยุติการปราบปรามการนองเลือด และมีส่วนร่วมในการเจรจากับฝ่ายต่อต้านการรัฐประหาร

นับตั้งแต่รัฐบาลทหารเมียนมาเข้ายึดอำนาจได้ปราบปรามผู้เห็นต่างจำนวนมาก จนถึงตอนนี้กลุ่มผู้สังเกตการณ์ท้องถิ่้นระบุว่ามีประชาชนถูกสังหารมากกว่า 2,200 คน และถูกจับกุมแล้วกว่า 15,000 คน

เชลซี จ่อสอบแฟนบอล หลังพบเหยียดเชื้อชาติ ซน เกมเดือดเสมอ สเปอร์ส

ลำน้ำสายทะลักท่วมชุมชนชายแดน "แม่สาย" ทั้งฝั่งไทย-เมียนมา สาหัส!

TOP ต่างประเทศ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ