รัสเซีย เตรียมพิธีประกาศผนวกดินแดนอย่างเป็นทางการ


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ผ่านมาแล้วหนึ่งสัปดาห์ หลังจากที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย ประกาศระดมพลสำรองเพื่อเข้าไปรบในยูเครน นี่ส่งผลให้ผู้ชายชาวรัสเซียจำนวนไม่น้อยเริ่มทยอยออกจากประเทศตั้งแต่สัปดาห์แล้ว จนตอนนี้สื่อต่างประเทศประเมินว่า ตัวเลขผู้อพยพชาวรัสเซียอาจพุ่งไปถึง 300,000 คนแล้ว และตอนนี้ชายชาวรัสเซียยังคงลี้ภัยไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในจอร์เจียและคาซัคสถาน

ภาพบรรยากาศจากศูนย์บริการประชาชนในเมืองอัลมาตี ประเทศคาซัคสถาน ชายชาวรัสเซียจำนวนไม่น้อยมายืนต่อแถว เพื่อทำเรื่องขอเอกสารเพื่อพำนักในประเทศคาซัคสถาน

เมื่อเข้าไปดูบรรยากาศด้านในจะเห็นได้ว่าค่อนข้างวุ่นวาย และคนที่มาขอเอกสารส่วนใหญ่เป็นผู้ชายชาวรัสเซีย ที่เดินทางมาคาซัคสถาน หลังประธานาธิบดีปูตินประกาศระดมพลสำรอง

สาเหตุที่ทำให้คาซัคสถานเป็นประเทศปลายทางของชาวรัสเซีย เนื่องจากพวกเขาไม่จำเป็นต้องใช้วีซาหรือพาสปอร์ตในการขอพำนักในประเทศ

จับตา! ปูตินจะลงนามผนวกดินแดนยูเครนอย่างเป็นทางการ 30 ก.ย.

กลุ่มสิทธิมนุษยชนแฉ รัสเซียฝึกทหารใหม่แค่ 2 วันก่อนส่งไปรบในยูเครน

เมื่อวานนี้ 28 ก.ย.รัฐบาลคาซัคสถานรายงานว่า หลังจากที่ผู้นำรัสเซียประกาศระดมพลสำรอง ตัวเลขผู้ที่ข้ามแดนมายังคาซัคสถานพุ่งไปแตะหลักแสนรายแล้ว ส่งผลให้โรงแรมต่าง ๆ เต็มและราคาพุ่งขึ้นหลายเท่าตัว

ด้านประธานาธิบดีคาสซิม โจมาร์ท โตกาเยฟของคาซัคสถาน เปิดเผยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า ทางรัฐบาลยินดีที่จะดูแลชาวรัสเซียที่อพยพมา เพราะเข้าใจว่าต้องอพยพด้วยความจำเป็นและสถานการณ์บังคับ รัฐบาลคาซัคสถานยังไม่มีนโยบายปิดชายแดนในตอนนี้

อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดีโตกาเยฟระบุเพิ่มเติมว่า รัฐบาลคาซัคสถานไม่มีส่วนในการสนับสนุนปฏิบัติการพิเศษทางการทหารของผู้นำรัสเซียในยูเครน

นี่เป็นเรื่องที่คาซัคสถานยืนยันอย่างชัดเจนมาโดยตลอด แม้ประธานาธิบดีโตกาเยฟจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้นำรัสเซีย เนื่องจากผู้นำรัสเซียเคยส่งทหารไปช่วยปราบกลุ่มผู้ประท้วงในเมืองอัลมาตีเมื่อต้นปีที่ผ่านมา

นอกจากคาซัคสถานแล้ว อีกประเทศหนึ่งที่ชาวรัสเซียข้ามแดนไปคือ ประเทศจอร์เจีย ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของรัสเซีย

นี่คือภาพถ่ายจากดาวเทียมของบริษัทแมกซาร์เทคโนโลยี ที่แสดงให้เห็นถึงขบวนรถยนต์ความยาวกว่า 10 กิโลเมตร ที่กำลังต่อคิวเพื่อข้ามแดนไปยังประเทศจอร์เจีย

นอกจากจะใช้รถยนต์แล้ว อีกหนึ่งวิธีในการข้ามแดนของรัสเซียเพื่อมายังจอร์เจียคือ การเดินเท้า

นักข่าวได้สัมภาษณ์ชาวรัสเซีย พวกเขาบอกอย่างตรงไปตรงมาว่า พวกเขาเดินทางมายังจอร์เจียเพราะต้องการหนีการเรียกระดมพลสำรอง

บางคนเล่าว่า ต้องจอดรถทิ้งไว้ที่ชายแดนและใช้เวลาเดินเท้ากว่า 24 ชั่วโมง เพื่อข้ามพรมแดนมายังประเทศจอร์เจีย

ข้อมูลจากกระทรวงมหาดไทยของจอร์เจียระบุว่า ช่วงนี้มีชาวรัสเซียข้ามพรมแดนมายังประเทศจอร์เจียกว่าวันละ 10,000 คน เพิ่มขึ้นประมาณ 2 เท่าจากช่วงที่สถานการณ์ปกติ

อย่างไรก็ดี การอพยพจำนวนมากของประชาชนรัสเซียไปยังจอร์เจียได้รับการต้อนรับที่ค่อนข้างต่างออกไปจากที่คาซัคสถาน เพราะมีรายงานว่า ตอนนี้มีชาวจอร์เจียบางส่วนรวมถึงพรรคฝ่ายค้านเริ่มไม่พอใจกับการอพยพในครั้งนี้ จนต้องออกมาประท้วง

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า สมาชิกสส.ของพรรคฝ่ายค้านในจอร์เจีย นักเคลื่อนไหว และประชาชนบางส่วนได้ออกมาประท้วงเมื่อวานนี้ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลปิดพรมแดน และเลิกรับคนรัสเซียที่อพยพเข้ามา

กิกา เลมอนจาบา สมาชิกของพรรคโดรอา ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านของจอร์เจียระบุว่า จอร์เจียควรปิดชายแดนและไม่ควรให้ชาวรัสเซียถือใบอนุญาตพำนักชั่วคราวหรือถาวร ตลอดจนทำธุรกรรมทางการเงินได้

ขณะเดียวกันก็มีรายงานว่า แคว้นโอเซสเทียเหนือ ที่เป็นดินแดนที่รัสเซียเคยผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งเมื่อหลายสิบปีก่อน ได้ออกประกาศปิดพรมแดนของแคว้นเพื่อไม่ให้รถยนต์ผ่าน หลังจากที่มีชาวรัสเซียกว่า 20,000 คนเดินทางข้ามแดนมายังแคว้นนี้

ในขณะที่บริเวณชายแดนที่ติดกับประเทศฟินแลนด์ วันนี้ชาวรัสเซียที่พยายามข้ามแดนมีจำนวนมากขึ้นหลังจากมีรายงานว่า รัฐบาลฟินแลนด์กำลังจะมีการออกระเบียบการเข้าเมืองใหม่เพื่อจำกัดการเข้าเมืองของชาวรัสเซีย

ซึ่งล่าสุด เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ทางรัฐมนตรีต่างประเทศฟินแลนด์ได้ประกาศแล้วว่าจะปิดพรมแดน  ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป

นับตั้งแต่ประธานาธิบดีปูตินประกาศระดมพลสำรองเพื่อไปรบในสงครามยูเครน ชายชาวรัสเซียที่อยู่ในข่ายที่ต้องถูกเกณฑ์ไปรบพากันเดินทางออกนอกประเทศเป็นจำนวนมาก

ตัวเลขที่สำนักข่าวอัลจาซีรารายงาน เฉพาะคนที่ออกจากรัสเซียเพื่อเข้าไป 3 ประเทศคือ คาซัคสถาน จอร์เจีย และฟินแลนด์ มีจำนวนรวมกันมากถึง 194,000 คนแล้ว

ขณะนี้พื้นที่มากกว่าครึ่งของทั้ง 4 แคว้นอยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซีย และรัสเซียได้มีการตั้งคนของตนเองขึ้นมาบริหาร ซึ่งบรรดาผู้บริหารที่ได้รับการแต่งตั้งหรือหนุนหลังโดยรัสเซียออกมาขอร้องให้รัสเซียรีบดำเนินการรับรองทั้ง 4 แคว้นโดยเร็ว

โดยเมื่อวานนี้เลโอนิดส์ ปาเสชนิก หัวหน้ากลุ่มแบ่งแยกแคว้นลูฮันสก์ได้ออกแถลงการณ์ขอร้องให้รัสเซียรับรองและรับแคว้นลูฮันสก์เข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียให้เร็วที่สุด

ขณะเดียวกัน วลาดิมีร์ ซัลโด หัวหน้ากลุ่มแบ่งแยกดินแดนของแคว้นเคอร์ซอน ซึ่งเป็นแคว้นทางตอนใต้ของยูเครน ก็ออกมาแถลงในลักษณะเดียวกันกับหัวหน้ากลุ่มแบ่งแยกดินแดนในลูฮันสก์

โดยซัลโดระบุว่า แคว้นเคอร์ซอนต้องการให้ผู้นำรัสเซียรีบรับเคอร์ซอนเข้าเป็นส่วนหนึ่งโดยเร็วที่สุด

ตอนนี้หลายสำนักข่าวของต่างประเทศรายงานตรงกันว่า สภาดูมาหรือสภาล่างของรัสเซีย จะพิจารณาประเด็นการรับรองการผนวกทั้ง 4 แคว้นของยูเครนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียในวันพรุ่งนี้ ก่อนจะให้ประธานาธิบดีปูตินลงนามรับรองอย่างเป็นทางการ

อย่างไรก็ดี การทำประชามติในครั้งนี้เรียกเสียงประณามจากบรรดาชาติตะวันตกและประชาคมระหว่างประเทศ เนื่องจากเป็นการกระทำที่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และหลายประเทศเตรียมคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม

เมื่อวานนี้ คาริน ฌอง-ปิแอร์ โฆษกทำเนียบขาว ได้ออกแถลงต่อสื่อมวลชนว่าสหรัฐฯ จะไม่ยอมรับผลการทำประชามติของทั้ง 4 แคว้นที่เพิ่งมีการนับคะแนนเสร็จสิ้นไป

เนื่องจากการทำประชามติดังกล่าวเป็นเรื่องลวงโลก โดยรัสเซียได้มีการวางแผนล่วงหน้ามาก่อนแล้ว การกระทำเช่นนี้จึงถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและกฎบัตรแห่งสหประชาชาติ

นอกจากนี้ โฆษกทำเนียบขาวย้ำชัดว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ หลังจากนี้สหรัฐฯ และพันธมิตรจะประชุมหารือรือกันเกี่ยวกับการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม

ขณะเดียวกัน เน็ด ไพร์ซ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ก็ได้แถลงข่าวยืนยันเรื่องการไม่ยอมรับผลของการทำประชามติเช่นกัน โดยระบุว่าทางรัฐบาลสหรัฐฯ กำลังหารือร่วมกับพันธมิตรเพื่อหามาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็ว ๆ นี้

ด้านประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครนกล่าวขณะแถลงรายงานสถานการณ์ประจำวันเมื่อวานนี้ว่า เขาขอบคุณบรรดาชาติพันธมิตรที่โทรศัพท์มาส่งกำลังใจและสนับสนุนยูเครน หลังจากกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่สนับสนุนโดยรัสเซียประกาศผลประชามติ

ผู้นำยูเครนยังระบุเพิ่มเติมว่า ตนได้หารือร่วมกับอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติ เพื่อหาวิธีลงโทษรัสเซียสำหรับการทำประชามติที่ละเมิดกฎบัตรแห่งสหประชาชาติในครั้งนี้

อย่างไรก็ดี ผู้นำยูเครนย้ำว่าข้อตกลงการส่งออกธัญพืชในทะเลดำจะยังคงดำเนินต่อไป และมาตรการต่าง ๆ ที่ใช้ลงโทษรัสเซียจะไม่กระทบต่อข้อตกลงนี้แน่นอน ขณะนี้กำลังมีการจัดเตรียมสถานที่สำหรับการทำพิธีการดังกล่าว

ภาพเวทีขนาดใหญ่กำลังถูกติดตั้งบริเวณจตุรัสแดงใจกลางกรุงมอสโกคาดกันว่าที่นี่จะถูกใช้เป็นสถานที่สำหรับพิธีเฉลิมฉลองการผนวกดินแดน ซึ่งสังเกตได้จากป้ายหรือแบนเนอร์ที่เขียนว่า “ โดเนตสก์ ลูฮันสก์ ซาโปริซเซีย เคอร์ซอน ในที่สุดเราก็ได้กลับมาอยู่ร่วมกันตลอดไป “

สงครามครั้งนี้จะซับซ้อนขึ้นอย่างแน่นอน เพราะรัสเซียประกาศก่อนหน้านี้ว่า ทันทีที่มีการผนวกอย่างเป็นทางการจะถือว่าดินแดนเหล่านี้เป็นเขตอธิปไตยของรัสเซียและรัสเซียจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้อง ซึ่งหลายฝ่ายตีความว่าจะรวมถึงการใช้อาวุธนิวเคลียร์ด้วย

TOP ต่างประเทศ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ