ภาพที่ทั่วโลกให้ความสนใจและรู้สึกตื่นเต้นเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คือภาพลูกสาวของคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ซึ่งคาดว่าชื่อ “คิม จูแอ” ที่ปรากฏตัวในสื่ออย่างเป็นทางการครั้งแรกในการเยี่ยมชมขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM)
ภาพที่ดูอบอุ่นของการที่สองพ่อลูกตระกูลคิมเดินจับมือกันดูย้อนแย้งเหลือเกินกับภาพในฉากหลังที่เป็นขีปนาวุธข้ามทวีปขนาดใหญ่กำลังทำลายล้างสูง ชวนให้เกิดความสงสัยเหลือเกินว่า ทำให้คิม จองอึน จึงเลือกเปิดตัวลูกสาวด้วยการพามาชมอาวุธ และเรื่องนี้มีความนัยอะไรซ่อนอยู่หรือไม่?
คิมจองอึนจูงมือ "ลูกสาว" ชมทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวีป
ลือ “ลูกสาวคิม จองอึน” ออกสื่อครั้งแรก
จดหมายจาก “สี” ถึง “คิม” ชวน “ปกป้องสันติภาพของโลกไปด้วยกัน”
เรื่องหนึ่งที่ต้องยอมรับคือ ภาพลูกสาวคิม จองอึน ทำให้หลายคนลืมเรื่องความน่ากลัวของขีปนาวุธข้ามทวีปฮวาซอง-17 (Hwasong-17) ไปเสียอย่างนั้น ทั้งที่มันมีศักยภาพและพิสัยสามารถยิงใส่สหรัฐฯ ได้ (ตามคำกล่าวอ้าง)
นักวิเคราะห์ที่ศึกษาและติดตามความเคลื่อนไหวเกาหลีเหนือตีความการตัดสินใจนี้ของผู้นำคิมไปใน 2 ทิศทาง คือคิมกำลังต้องการบอกอะไรบางอย่างต่อภายในเกาหลีเหนือ และกำลังต้องการสื่อสารอะไรกับโลกภายนอก
ในทิศทางแรก เลฟ-เอริก อีสลีย์ รองศาสตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์ระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา กล่าวว่า การปรากฏตัวของเด็กสาวจูแอควรถูกมองผ่านมุมมองในประเทศ
“นอกเกาหลีเหนือ อาจดูเหมือนเป็นเรื่องบ้าที่จะถ่ายรูปร่วมกับเด็กที่อยู่หน้าขีปนาวุธพิสัยไกลที่ออกแบบมาเพื่อยิงอาวุธนิวเคลียร์ไปยังเมืองที่ห่างไกล แต่ในเกาหลีเหนือ การเปิดตัว ICBM นั้นอาจกระตุ้นให้เกิดการเฉลิมฉลองระดับชาติ” อีสลีย์กล่าว
ด้าน ยัง มูจิน อธิการบดีมหาวิทยาลัยเพื่อการศึกษาเกาหลีเหนือ มองว่า “การแสดงการใช้เวลาร่วมกับลูกสาวของเขา ดูเหมือนว่าคิมต้องการแสดงให้ครอบครัวของเขาเห็นว่า เขาเป็นคนดีและมั่นคง และเพื่อแสดงตนในฐานะผู้นำสำหรับคนธรรมดา”
ภาพดังกล่าวยังแสดงให้เห็นว่า เด็กหญิงคนนี้เป็นสมาชิกคนสำคัญของสายเลือดคิมด้วย
เกาหลีเหนือถูกปกครองโดยระบอบเผด็จการสายเลือดตระกูลคิมตั้งแต่ปี 1948 ตั้งแต่ คิม อิลซุง มายัง คิม จองอิล จนมาถึง คิม จองอึน อย่างไรก็ตาม แน่นอนว่านี่ยังยังไม่ใช่สัญญาณการเปลี่ยนแปลงผู้นำเกาหลีเหนือแต่อย่างใด
ปัจจุบัน คิม จองอึน เพิ่งอายุเพียง 38 ปีเท่านั้น และแม้จะมองในแง่ร้ายว่าอาจเกิดอะไรขึ้นกับเขา จูแอก็น่าจะยังอยู่ห่างจากการแทนที่พ่อของเธอ อย่างน้อยอาจต้องอีกเป็นสิบปีหรือมากกว่านั้น
อันกิต แพนดา ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายนิวเคลียร์จากกองทุนคาร์เนอจีเพื่อสันติภาพระหว่างประเทศ กล่าวว่า “ผมไม่แน่ใจจริง ๆ เกี่ยวกับนัยยะของการสืบทอดตำแหน่ง ... การเปิดเผยตัวลูกสาวผู้นำเกาหลีเหนืออาจไม่ใช่เรื่องที่ควรมองข้าม แต่เธอยังไม่บรรลุนิติภาวะ และบทบาทของเธอในการทดสอบขีปนาวุธครั้งนี้ก็ไม่ได้ถูกสื่อของรัฐเน้นประเด็นเป็นพิเศษแต่อย่างใด”
เขาเสริมว่า ในทางกลับกัน เรื่องของการทดสอบขีปนาวุธต่างหากที่ควรได้รับความสนใจมากกว่า และมีคุณค่าต่อหน่วยข่าวกรองตะวันตกมากกว่าข่าวลูกสาวคิม
แพนดาบอกว่า วิดีโอการทดสอบ ICBM ที่เผยแพร่โดยเกาหลีเหนือ อาจช่วยให้สหรัฐฯ และตะวันตกสามารถประเมินความน่ากลัวของเกาหลีเหนือได้ “สหรัฐฯ มีแหล่งข้อมูลและวิธีการหาข้อมูลที่ซับซ้อน ซึ่งจะได้ข้อมูลเชิงลึกอย่างมากเกี่ยวกับขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ ... ในอดีต นักวิเคราะห์เคยคำนวณหาความเร่งของขีปนาวุธผ่านวิดีโอ ซึ่งช่วยให้เราระบุประสิทธิภาพของขีปนาวุธนั้นโดยรวมได้”
ส่วนการวิเคราะห์อีกทิศทางหนึ่งที่มองว่า นี่อาจเป็นข้อความสำคัญสู่โลกภายนอกนั้น ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า เมื่อต้องวิเคราะห์โฆษณาชวนเชื่อของเกาหลีเหนือ ยิ่งบุคคลที่สื่อสารมีระดับสูงเท่าใด ก็ยิ่งเพิ่มน้ำหนักให้กับข้อความมากขึ้นเท่านั้น
ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า หากมีสารที่คิม จองอึน ต้องการสื่ออกไปยังโลกภายนอก ก็คล้ายกับที่ต้องการบอกกับคนในประเทศ นั่นคือต้องการแสดงภาพลักษณ์ด้านที่ “ไม่แข็งกร้าว” ของผู้นำคิม รวมถึงยืนยันเจตนารมณ์ของตระกูลคิมในการ “ครอบครองและพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์”
อี ซงยุน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านเกาหลีศึกษาที่มหาวิทยาลัยทัฟต์ส ในสหรัฐฯ กล่าวว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวเน้นย้ำมุมมองของผู้นำเกาหลีเหนือที่ว่า เขาจะยังคงอยู่ในอำนาจ ยังคงครอบครอง “อาวุธนิวเคลียร์ล้ำค่า” เอาไว้ และจะยังคงถือครองต่อไปไม่ว่าศัตรูของเขาจะผลัดเปลี่ยนผู้นำอีกกี่คนก็ตาม
“การเปิดตัวลูกหลานของเขาที่จุดทดสอบขีปนาวุธถือเป็นความยินดีอย่างยิ่งของคิม จอง อึน เขากำลังบอกโลกว่า เขามีเวลา ในขณะที่ศัตรูของเขาไม่มีเวลา” อีกล่าว
ตลอดมา ผู้นำคิมเมินเฉยต่อคำขอร้องของสหรัฐฯ ที่ขอให้เขาร่วมเจรจาปลดอาวุธนิวเคลียร์ และเมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา เขาได้ผ่านร่างกฎหมายใหม่ที่ทำให้ “ไม่สามารถยกเลิกสถานะรัฐที่ครอบครองนิวเคลียร์” ได้
แนวทางที่มั่นคงนี้ ประกอบกับการปรากฏตัวที่คาดไม่ถึงของลูกสาวของเขาในการทดสอบ ICBM เป็นการตอกย้ำว่า โครงการอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ซึ่งดำเนินมาตั้งแต่สมัยคิม จองอิล จะยังคงถูกส่งต่อไปยังรุ่นที่ 4 ของตระกูลคิม
เจนนี ทาวน์ ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัย 38 North ที่ศึกษาเกาหลีเหนือ บอกว่า “สำหรับผู้ที่คิดว่าเกาหลีเหนือต้องการกลับเข้าสู่การเจรจาปลดอาวุธนิวเคลียร์ ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่อย่างนั้น”
เธอเสริมว่า “เช่นเดียวกับการประกาศเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ที่ไม่สามารถยกเลิกได้อีกต่อไป ดูเหมือนว่าการเปิดตัวลูกสาวจะเป็นการตอกย้ำว่า โครงการอาวุธนิวเคลียร์จะคงอยู่ต่อไป ... นี่เป็นมรดกตกทอดของเธอ ลูกสาวผู้นำคิม”
ทั้งนี้ จนถึงปัจจุบัน ยังไม่เคยมีการยืนยันอย่างเป็นทางการจากคิม จองอึน หรือรัฐบาลเกาหลีเหนือว่า ผู้นำคิมมีลูกทั้งหมดกี่คน เชื่อกันว่า เขามีลูกอย่างน้อย 3 คน หนึ่งในนั้นเป็นลูกชาย ซึ่งเกิดเมื่อประมาณปี 2010 และลูกสาวอีกคนที่เกิดในปี 2017 ตามรายงานของหน่วยงานสายลับของเกาหลีใต้
นอกจานี้ ยังไม่ชัดเจนด้วยว่าจริง ๆ แล้วเด็กผู้หญิงในภาพที่คิมจูงมือไว้คือจูแอจริง ๆ หรือไม่
เกาหลีเหนือยังคงเป็นดินแดนสนธยาสำหรับโลกภายนอก และเราแทบไม่อาจรู้ได้เลยว่า ภายในประเทศแห่งนี้มีเรื่องราวหรือแผนการอะไรอยู่บ้าง
เรียบเรียงจาก CNN / Japan Times
ภาพจาก AFP