กบหมอกภูเขา (Mountain Mist Frog; Litoria nyakalensis) ซึ่งครั้งหนึ่งเคยพบได้ในพื้นที่ส่วนใหญ่ของเขตร้อนชื้นของออสเตรเลีย ได้รับการประกาศให้เป็นสิ่งมีชีวิตที่ “สูญพันธุ์” แล้วในบัญชีขององค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN)
กบชนิดนี้มักพบได้ในบริเวณใกล้ยอดเขาธอร์นตัน ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองแคนส์ แต่ครั้งล่าสุดที่มีผู้พบเห็นกบหมอกภูเขาตัวเป็น ๆ ในธรรมชาติของออสเตรเลียคือเมื่อเดือน เม.ย. ปี 1990 ซึ่งกว่า 35 ปีมาแล้ว
พบไดโนเสาร์สายพันธุ์ใหม่ ว่ายและดำน้ำได้เหมือนเป็ด!
หวังดึงนักลงทุน! อินโดนีเซียเปิดประมูล “ขายหมู่เกาะ” ในเขตอนุรักษ์
เปิดคุณสมบัติ “กัญชา” ที่อาจทำให้มันเป็น “วีรบุรุษสู้โลกร้อน”
ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า กบหมอกภูเขาถูกกำจัดหายไปจากธรรมชาติโดยเชื้อราที่มีชื่อว่า “ไคทริด (Chytrid)” ซึ่งก่อโรคที่ทำลายผิวหนังและทำลายประชากรสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำทั่วโลก
นอกจากนี้ อุณหภูมิที่สูงขึ้นอันเป็นผลมาจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกก็อาจมีบทบาทที่ทำให้แหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของกบหมอกภูเขาลดลงเช่นกัน
กบสายพันธุ์นี้ถูกจัดอยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่งโดยรัฐบาลออสเตรเลีย แต่ IUCN พิจารณาให้ยกระดับเป็นสัตว์สูญพันธุ์ มันเป็นหนึ่งในสิ่งมีชิต 26 สายพันธุ์ของออสเตรเลียที่มีการเปลี่ยนแปลงในบัญชีรายชื่อ ที่เหลือส่วนใหญ่เป็นประเภทกล้วยไม้
ดร. โจดี โรว์ลีย์ นักชีววิทยากบแห่งพิพิธภัณฑ์ออสเตรเลีย และมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ กล่าวว่า กบหมอกภูเขาเป็น “สิ่งมีชีวิตในป่าดงดิบเฉพาะถิ่นที่สวยงาม” และเป็นหนึ่งในกบออสเตรเลียที่ไม่มีผู้พบเห็นมานานหลายสิบปี
“ประชากรหลายตัวลดลงอย่างมากและน่าเสียดายที่กบน้อยเหล่านี้ดูเหมือนจะหายไปจากธรรมชาติแล้ว ... มันน่าเศร้ามาก มีความพยายามในการค้นหามาตลอดช่วง 25 ปีที่ผ่านมา แต่ก็ไม่พบ ดังนั้นจึงเป็นไปได้ยากที่มันจะยังคงอยูในธรรมชาติ” โรว์ลีย์กล่าว
กบหมอกภูเขามีความยาวเกือบ 6 ซม. มักมีสีเทา น้ำตาลเทา หรือน้ำตาลอ่อน บางครั้งมีจุดหรือจุดสีดำที่หลัง แต่ในส่วนของเสียงร้องของมันนั้น โรว์ลีย์บอกว่าไม่เคยมีใครบันทึกเอาไว้ได้
“เป็นเวลาหลายหมื่นปีมาแล้วที่กบตัวน้อยเหล่านี้ส่งเสียงร้องได้ตามต้องการในป่าฝน แต่ตอนนี้เสียงนั้นมันเงียบไปแล้ว เรามีประวัติที่แย่มากเกี่ยวกับการอนุรักษ์กบในออสเตรเลีย” เธอกล่าว
แต่โรว์ลีย์บอกว่า สิ่งสำคัญคืออย่าหมดหวัง มีกบประมาณ 40 สายพันธุ์ที่ถูกระบุว่าถูกคุกคามในการจัดระดับความเสี่ยงของออสเตรเลีย และอาจมีการดำเนินการเพื่อช่วยเหลือพวกมันได้
ด้าน เจสส์ อับราฮัมส์ นักรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมธรรมชาติของมูลนิธิอนุรักษ์ออสเตรเลีย กล่าวว่า การจัดระดับในบัญชีดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า วิกฤตการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในประเทศออสเตรเลียยังคงดำเนินอยู่
รายงานสถานการณ์สิ่งแวดล้อมราย 5 ปีที่เผยแพร่ในปีนี้ระบุว่า ออสเตรเลียเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการลดลงของสายพันธุ์สิ่งมีชีวิตสูงที่สุดในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว และสูญเสียสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมากกว่าทวีปอื่น ๆ
“เราต่างรู้ดีว่าอะไรเป็นสาเหตุของวิกฤตนี้ การทำลายที่อยู่อาศัย การปล่อยสายพันธุ์ผู้รุกรานไปในธรรมชาติ และการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ และเราก็รู้วิธีแก้ปัญหาวิกฤตนี้ด้วย นั่นคือ ปรับกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อมให้เข้มงวดขึ้น ดำเนินการด้านสภาพอากาศที่เข้มงวดขึ้น และลงทุนเพิ่มขึ้นในการปกป้องและฟื้นฟูแหล่งที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิต” อับราฮัมส์กล่าว
เรียบเรียงจาก The Guardian
