เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 9 ม.ค. ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ที่สหราชอาณาจักรมีเหตุการณ์สำคัญที่จะจารึกในหน้าประวัติศาสตร์ของมหาอำนาจแห่งนี้ นั่นคือการส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจร โดยนี่เป็นครั้งแรกที่มีการยิงดาวเทียมขึ้นไปจากแผ่นดินสหราชอาณาจักร
แต่ภารกิจที่หลายคนคาดหวังในความสำเร็จนี้กลับจบลงที่ความล้มเหลว เมื่อเกิดความผิดพลาดกับจรวดที่บรรทุกดาวเทียม ทำให้มันไปไม่ถึงวงโคจร และสุดท้ายก็สูญหายไป
ศึกชิงดวงจันทร์ “จีน” คือคู่แข่งที่น่ากลัวของสหรัฐฯ
วันนี้ไม่ชน วันหน้าไม่แน่ “ดาวเคราะห์น้อยเฉียดโลก” เรื่องใหญ่มนุษยชาติ
พบแร่ใหม่ 2 ชนิดในอุกกาบาต “เอล อาลี” ที่ตกมาจากอวกาศ
ประชาชนจำนวนมากมารวมตัวกันที่ฐานอวกาศคอร์นวอลล์ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของสหราชอาณาจักร เพื่อชมการปล่อยดาวเทียม ซึ่งดำเนินการโดยนำดาวเทียม 9 ดวงบรรจุไว้ในจรวด “ลันเชอร์วัน (LauncherOne)” แล้วนำขึ้นเครื่องบินโบอิ้ง 747 ดัดแปลง ชื่อว่า “คอสมิกเกิร์ล”
คอสมิกเกิร์ลทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าแล้วปล่อยจรวดลันเชอร์วันขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศสำเร็จบริเวณเหนือชายฝั่งทางใต้ของไอร์แลนด์ที่ความสูง 10,700 เมตร
ตามแผนการแล้วคอสมิกเกิร์ลจะเดินทางกลับมายังฐานอวกาศคอร์นวอลล์ ส่วนจรวดลันเชอร์วันที่ถูกปล่อยจากคอสมิกเกิร์ลจะจุดระเบิดและเดินเครื่องพุ่งต่อทะลุชั้นบรรยากาศไปสู่วงโคจร แต่กลับเกิดความผิดพลาดขึ้น ทำให้ลันเชอร์วันไต่ระดับความสูงขึ้นไปไม่ถึงวงโคจร ส่วนคอสมิเกิร์ลนั้นกลับมาถึงฐานโดยปลอดภัย
ในทีแรกหน่วยงานที่ดูแลภารกิจทวีตข้อความว่า “ลันเชอร์วันไปถึงวงโคจรโลกสำเร็จแล้ว! ภารกิจของเรายังไม่สิ้นสุด แต่เราขอแสดงความยินดีกับชาวสหราชอาณาจักร! นี่เป็นภารกิจส่งดาวเทียมโคจรรอบโลกครั้งแรกจากแผ่นดินอังกฤษ เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่”
แต่ 28 นาทีต่อมา หน่วยงานทวีตว่า “ดูเหมือนว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้น ทำให้เราไปไม่ถึงวงโคจร เรากำลังประเมินข้อมูล” และลบทวีตก่อนหน้านี้
แมตต์ อาร์เชอร์ ผู้อำนวยการการบินอวกาศเชิงพาณิชย์ขององค์การอวกาศแห่งสหราชอาณาจักร กล่าวว่า เขารู้สึกผิดหวังอย่างมากที่ภารกิจไม่ประสบความสำเร็จ แต่ก็ยังยินดีที่การส่งดาวเทียมครั้งแรกจากยุโรปเกิดขึ้นจากแผ่นดินของอังกฤษ
เขากล่าวว่า เฟสแรกของการปล่อยจรวดเป็นไปได้ด้วยดี แต่ในเฟสที่สองกลับเกิดความล้มเหลว โดยในขณะที่จรวดกำลังไต่ระดับความสูงเพื่อขึ้นสู่อวกาศ จรวดยังไม่ได้ระดับความสูงที่มากพอจะไปถึงวงโคจร
“เราไม่รู้ว่าอะไรทำให้เกิดความผิดปกติ แต่อย่างน้อยเราประสบความสำเร็จในการยิงดาวเทียมในระดับหนึ่ง ... เราประสบความสำเร็จในเชิงบวกมากมาย อวกาศเป็นเรื่องยาก เรารู้ว่าภารกิจนี้มีความเสี่ยงที่จะล้มเหลว การยิงจรวดไม่ได้ผลเสมอไป ... เราแสดงให้เห็นแล้วว่าเราทำได้ และเราจะพยายามทำมันอีกครั้ง”
อาร์เชอร์เปิดเผยว่า หลังความผิดพลาด จรวดและดาวเทียมไปสูญหายไปไม่สามารถติดตามได้ แต่จากวิถีโคจรของจรวดนั้นเชื่อว่าจะไม่มีความเสี่ยงต่อผู้คน “วิถีของจรวดอยู่เหนือแหล่งน้ำเป็นหลัก ดังนั้นมันจึงปลอดภัยอย่างสมบูรณ์”
ที่ผ่านมา สหราชอาณาจักรมีความแข็งแกร่งในการผลิตดาวเทียมและศึกษาข้อมูลที่ได้รับ แต่ยังไม่สามารถส่งดาวเทียมขึ้นไปยังอวกาศด้วยตัวเองได้ ต้องพึ่งฐานปล่อยจรวดของประเทศอื่น เช่น สหรัฐฯ ทำให้สหราชอาณาจักรตั้งเป้าหมายที่จะส่งดาวเทียมขึ้นไปอวกาศด้วยตัวเองให้ได้ในสักวันหนึ่ง
เรียบเรียงจาก The Guardian
ภาพจาก Getty Image