กระแสการปลดเจ้าหน้าที่ระดับสูงของยูเครนยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากความพยายามในการล้างบางการทุจริตและพฤติกรรมไม่เหมาะสมในหมู่เจ้าหน้าที่ ล่าสุด พรรค Servant of the People (ข้ารับใช้ประชาชน) พรรครัฐบาลยูเครน มีคำสั่งปลดสมาชิกพรรค มีโคลา ทิชเชนโก พ้นจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในรัฐสภา
พรรครัฐบาลของยูเครนมีคำสั่งดังกล่าว หลังจากมีรายงานว่าทิชเชนโกเดินทางมาประเทศไทยในช่วงที่ยูเครนกำลังอยู่ในช่วงศึกสงครามกับรัสเซีย จนทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสาธารณชน
ยูเครนจับกุมสายลับสองหน้า ขายความลับทางทหารให้รัสเซีย
เทียบสเปกรถถัง “Leopard 2” กับ “M1 Abrams” เยอรมัน-สหรัฐส่งให้ยูเครน
เจ้าหน้าที่ระดับสูงยูเครนลาออกนับสิบ ถูกกล่าวหารับสินบน-ทุจริต
ยูเลีย พาลีย์ชุก โฆษกพรรครัฐบาล กล่าวว่า ทิชเชนโกถูกขับออกจากตำแหน่งหลังจากมีประกาศสั้น ๆ บนเว็บไซต์ของสถานทูตยูเครนในประเทศไทยว่า ทิชเชนโกจะเดินทางไปเข้าพบประชาชนยูเครนที่พลัดถิ่นมาพำนักในประเทศไทย และทิชเชนโกเอง ได้โพสต์ภาพที่เป็นคลิปวีดีโอของตัวเองกำลังเล่นน้ำทะเล ระหว่างเดินทางเยือนประเทศไทย โดยอ้างว่า เขามาประเทศไทยเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มผู้พลัดถิ่นชาวยูเครน
หลังภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่บนโลกออนไลน์ ทำให้ ดาวิด อราคามิยา (Davyd Arakhamiya) หัวหน้ากลุ่มสมาชิกรัฐสภาของพรรคเรียกประชุมกับสมาชิกพรรคอย่างเร่งด่วน และลงมติขับขับไล่ทิชเชนโกออกจากพรรค พร้อมระบุว่า ดูเหมือนไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้าใจว่า ผู้แทนของประชาชนควรจะทำอะไรในสถานการณ์ที่ประเทศกำลังบอบช้ำจากสงคราม
ด้านตัวของทิชเชนโกนะบุว่า เขาเดินทางมาปฏิบัติภารกิจแบบเป็นทางการ และมีกำหนดการเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งไม่ได้ปิดบังสถานที่ที่เดินทางไป โดยได้รับการอนุมัติจากหัวหน้าพรรคแล้ว และนี่เป็นการ “ทำหน้าที่เพื่อผลประโยชน์ของยูเครนโดยเฉพาะ” โดยพร้อมชี้แจงเมื่อเดินทางกลับยูเครน อย่างไรก็ตาม รุสแลน สเตฟานชุก ประธานรัฐสภากล่าวว่า เขาไม่เคยอนุมัติการเดินทางดังกล่าว
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงอาวุโสกว่าสิบคนถูกไล่ออกหรือลาออก รวมถึงรองอัยการคนหนึ่งซึ่งตกเป็นเป้าโจมตีสื่อมวลชนเนื่องจากไปหยุดพักร้อนในสเปนทั้งที่กำลังมีสงคราม
เพื่อป้องกันการเกิดเรื่องอื้อฉาว เซเลนสกีและสภาความมั่นคงแห่งชาติของยูเครนได้ประกาศคำสั่งห้ามเจ้าหน้าที่เดินทางไปต่างประเทศจนกว่าสงครามจะสิ้นสุด ยกเว้นเจ้าหน้าที่ที่มีภารกิจอย่างเป็นทางการ
เรียบเรียงจาก Reuters
ภาพจาก AFP