24 ก.พ. ที่กำลังจะถึงนี้ จะเป็นวันครบรอบ 1 ปี “ปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครน” ของรัสเซีย ท่ามกลางคำถามจากผู้คนทั่วโลกว่า เมื่อไหร่ความขัดแย้งนี้จะจบลงเสียที
พาเวล เฟลเกนฮาวเออร์ นักวิเคราะห์การทหารรัสเซียจากสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งสหภาพโซเวียต ซึ่งเชี่ยวชาญนโยบายต่างประเทศและการป้องกันประเทศของรัสเซีย รวมถึงกลุ่มอุตสาหกรรมทางทหาร ประเมินว่า “สงครามมีแนวโน้มที่จะดุเดือดขึ้น แต่อาจยุติลงในปีนี้”
เขาบอกว่า “หลังจาก 12 เดือนของการต่อสู้นองเลือด ความเข้มข้นของการต่อสู้นั้นสูงเกินกว่าที่จะคงต่อไปได้นาน” แต่สำหรับคำถามว่าฝ่ายใดจะคว้าชัยชนะไว้ในท้ายที่สุดนั้น เฟลเกนฮาวเออร์บอกว่า “คาดเดาไม่ได้”
“เราไม่สามารถคาดเดาทุกอย่างได้ทั้งหมด แต่ผมเชื่อว่าการต่อสู้จะดุเดือดขึ้น ทุกคนกำลังพูดถึงการรุกรัสเซียกลับ ผู้บัญชาการทหารตะวันตกในกรุงบรัสเซลส์กำลังแนะให้ชาวยูเครนรุกกลับ” เฟลเกนฮาวเออร์กล่าว
เขาเสริมว่า นายพลมาร์ค มิลลีย์ ประธานคณะเสนาธิการร่วมของสหรัฐฯ ซึ่งเมื่อปีที่แล้วเคยพูดถึงว่ายูเครนอาจล่มสลายใน 2-3 วัน ตอนนี้บอกว่ารัสเซียประสบความสูญเสียในเชิงยุทธศาสตร์ ปฏิบัติการ และยุทธวิธี และยูเครนควรเป็นฝ่ายทุ่มกำลังเผด็จศึกพวกเขา
นักวิเคราะห์บอกว่า “ยูเครนกำลังเตรียมการบางอย่าง แต่เหมือนทุกคนกำลังปฏิบัติตามคำสอนของซุนวู นั่นคือสงครามคือการหลอกลวง ถ้าคุณต้องการโจมตี ต้องแสร้งทำเป็นว่าคุณไม่ได้จะบุก ถ้าคุณพร้อมที่จะโจมตีและแข็งแกร่งพอ คุณก็ต้องแสร้งทำเป็นว่าคุณไม่พร้อมและไม่แข็งแกร่งเลย และในทางกลับกัน ถ้าคุณไม่แข็งแกร่ง ก็ต้องแสร้งทำเป็นว่าคุณแข็งแกร่ง ดังนั้นจึงมีข้อมูลบิดเบือนจำนวนมากในขณะนี้ ต่างฝ่ายต่างพยายามทำเรื่องเซอร์ไพรส์”
ซึ่งในเรื่องของการสร้างเซอร์ไพรส์นี้ เฟลเกนฮาวเออร์บอกว่า ยูเครนได้ทำไปแล้วในเดือน ก.ย. ปีที่แล้ว จากการที่สามารถยึดคืนพื้นที่จำนวนมากคืนมาจากรัสเซียได้ และทำให้รัสเซียต้องถอนกำลัง เช่น ในพื้นที่เคอร์ซอน กดดันจนรัสเซียต้องเรียกระดมกำลังพลสำรอง ซึ่งสร้างผลกระทบเชิงเศรษฐกิจและการเมืองให้กับปูติน
“ตอนนี้รัสเซียมีปัญหาทางการเงินที่รุนแรงมากจากการขาดดุล และได้รับการสนับสนุนจากการพิมพ์เงินเพิ่มเท่านั้น และยังมีปัญหาในสนามรบพร้อม ๆ กันด้วย” เฟลเกนฮาวเออร์กล่าว
เขาเสริมว่า “ผมไม่คิดว่าสงครามจะดำเนินต่อไปในรูปแบบปัจจุบันเป็นเวลานานได้ มันเหมือนกับฟุตบอล คุณไม่มีทางรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นจริงในสนาม มีคำพูดที่รู้จักกันดีว่า ‘รัสเซียไม่เคยแข็งแกร่งอย่างที่คุณกลัว’ ดังที่เราเห็นในปีนี้ แต่ ‘รัสเซียก็ไม่เคยอ่อนแออย่างที่คุณหวัง’ เช่นกัน”
ในขณะเดียวกัน เขามองว่าแรงสนับสนุนยูเครนจากตะวันตกอาจประสบปัญหาเช่นกันในปีนี้ แต่น่าจะจัดการได้มากกว่า เพราะจีดีพีของประเทศเหล่านี้แข็งแกร่งกว่ารัสเซีย ดังนั้นชาติตะวันตกน่าจะมีความพร้อมในสงครามยืดเยื้อมากกว่า
ทั้งนี้ เฟลเกนฮาวเออร์เชื่อว่า “สงครามน่าจะจบลงภายในปีนี้”
“ทั้งสองฝ่ายมีการสูญเสียอย่างหนัก เรากำลังพูดถึงการเสียชีวิตครั้งใหญ่ และทั้งชาวรัสเซียและชาวยูเครนก็พร้อมที่จะทำสงครามต่อไป แต่ผมไม่คิดว่าสิ่งนี้จะคงอยู่ตลอดไป” เขากล่าว
นักวิเคราะห์เสริมว่า การจบลงด้วยการเจรจาจะเกิดขึ้นเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง “ยอมลง” ให้ก่อน และจะเกิดขึ้นหลังฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเริ่มกุมชัยชนะอย่างชัดเจนในสนามรบเท่านั้น
“พวกเขาเคยพยายามเจรจาพูดคุยกัน ... แต่ความต้องการของรัสเซียและยูเครนเหมือนอยู่ห่างกันคนละโยชน์ ... ยูเครนบอกว่าพวกเขาต้องการมากกว่านี้ และรัสเซียก็ต้องการมากกว่านี้เช่นกัน ... ต้องมีคนยอมให้ในสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการก่อน และความเป็นไปได้ที่จะเกิดมากสุดจะอยู่ในสนามรบ” เฟลเกนฮาวเออร์กล่าว
เขาบอกว่า “หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเริ่มได้รับชัยชนะอย่างชัดเจนในสนามรบ นั่นจะเป็นการชี้ขาด ชัยชนะทางทหารสามารถนำอีกฝ่ายไปสู่วิกฤตที่แท้จริง และอาจถึงขั้นเปลี่ยนระบอบการปกครองของอีกฝ่ายได้เลย”
เรียบเรียงจาก Al Jazeera
ภาพจาก AFP
