หลังจากที่รัสเซียเริ่มรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ. ปีที่แล้ว ประเทศเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนติดกับรัสเซียอย่างฟินแลนด์เกิดความรู้สึกถูกคุกคาม และหวั่นเกรงว่าในอนาคต ตนก็อาจตกเป็นเป้าหมายการรุกรานของรัสเซีย นำมาสู่ความพยายามในการเข้าร่วมกลุ่มพันธมิตรทางทหารนาโต (NATO) ซึ่งยังคงอยู่ระหว่างดำเนินการ
ล่าสุดเมื่อวาน (28 ก.พ.) ทางการฟินแลนด์ยกระดับการป้องกันอีกขั้น ด้วยการประกาศเริ่มก่อสร้าง “รั้วกั้น” ในพื้นที่บางส่วนของแนวพรมแดนประเทศด้านที่ติดกับรัสเซีย
ฟินแลนด์มีพื้นที่ที่ติดกับรัสเซียกินระยะทางทั้งหมด 1,340 กม. ทำให้เป็นประเทศยุโรปที่มีพรมแดนติดกับรัสเซียมากที่สุด จึงต้องมีการเพิ่มความปลอดภัยและจัดการกับความพยายามใด ๆ ของรัสเซียที่อาจส่งผลกระทบต่อประเทศ โดยเฉพาะเรื่องของการผลักดันผู้อพยพให้ข้ามมายังฟินแลนด์ ซึ่งจะสร้างแรงกดดันทางการเมืองอย่างมหาศาล
หน่วยพิทักษ์ชายแดนฟินแลนด์กล่าวว่า สำหรับงานก่อสร้างแนวรั้วนี้ จะเริ่มจากปรับภูมิประเทศด้วยการถางป่า และจะเริ่มก่อสร้างถนนและติดตั้งรั้วในเดือน มี.ค. ในปัจจุบัน พรมแดนของฟินแลนด์มีรั้วไม้เป็นหลัก ซึ่งออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้ปศุสัตว์เดินข้ามฝั่งไปเท่านั้น แต่ไม่สามารถป้องกันคนได้
ก่อนหน้านี้ ผินแลนด์ได้ดำเนินโครงการนำร่องกั้นรั้วระยะทาง 3 กิโลเมตรที่จุดผ่านแดนทางตะวันออกเฉียงใต้ในเมืองอิมาตรา (Imatra) คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือน มิ.ย. และมีแผนก่อสร้างรั้วอีก 70 กม. ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ซึ่งจะดำเนินการก่อสร้างระปว่างปี 2023-2025
โดยรวมแล้ว ฟินแลนด์วางแผนที่จะกั้นรั้วพรมแดนด้านที่ติดกับรัสเซียเป็นระยะทาง 200 กม. ใช้งบประมาณราว 380 ล้านยูโร (ราว 1.4 หมื่นล้านบาท) รั้วจะสูง 3 เมตร ติดลวดหนามที่ด้านบน โดยบริเวณที่บอบบางโดยเฉพาะจะมีการติดตั้งกล้องมองกลางคืน ไฟ และลำโพงกระจายเสียง
เรียบเรียงจาก The Guardian
ภาพจาก AFP