บัคมุตสมรภูมิเดือด ยูเครนไม่ถอย ยิงปะทะรัสเซีย บนถนน 24 ชม.
จับตาสมรภูมิบัคมุต รัสเซียล้อมรอบด้าน ยูเครนต้านสุดฤทธิ์ แม้เหลือทางเข้า-ออกเส้นเดียว
ตอนนี้สถานการณ์การรบในเมืองบัคมุต ยังคงหนักหน่วงบัคมุตเป็นเมืองเล็ก ๆ ในแคว้นโดเนตสก์ มีความสำคัญทางด้านยุทธศาสตร์ในระดับหนึ่งสำหรับทั้งยูเครนและรัสเซีย เพราะมีถนนเชื่อมต่อกับเมืองที่เป็นเส้นทางลำเลียงพลและเสบียงของยูเครนในการรบที่แคว้นโดเนตสก์ รัสเซียพยายามยึดเมืองนี้มา 6 เดือนแล้ว แต่ยังไม่สำเร็จ
และถึงแม้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เยฟเกนี ปริโกชิน ผู้นำกลุ่มแวกเนอร์ ทหารรับจ้างที่เป็นกำลังหลักการรบให้รัสเซียในเมืองนี้ จะออกมาอ้างว่ายึดเมืองนี้ได้เกือบหมดแล้ว
แต่สถานการณ์ในพื้นที่วันนี้ (6 มี.ค.66) ทหารยูเครนยังคงไม่ถอยและปักหลักสู้รบต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าเส้นทางหนีออกจากเมืองที่มีอยู่ 4 ทางจะถูกตัดเหลือเพียงทางเดียวก็ตาม
ขณะที่ประชาชนกว่า 5,000 คน ยังติดอยู่ในเมือง ในวันที่นักข่าวยังเข้าไปถึงตัวคนเหล่านั้นได้และมีโอกาสพูดคุย คนจำนวนมากบอกว่า จะยังไม่อพยพออกเพราะไม่อยากทิ้งบ้านและสมาชิกครอบครัวที่ออกมาไม่ได้
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กลุ่มแวกเนอร์ระบุว่าจะยึดเมืองให้ได้ในอีกไม่กี่วัน อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ที่เห็น บริเวณแนวรบยังมีภาพทหารยูเครนกำลังขุดสนามเพลาะเพิ่มสร้างแนวป้องกันการโจมตีจากรัสเซีย ซึ่งนั่นหมายความว่าแวกเนอร์ยังทำไม่ได้ตามเป้า
อย่างไรก็ดี สถาบันเพื่อการศึกษาสงครามหรือ ISW รายงานว่ากองทัพยูเครนกำลังใช้ยุทธวิธีแบบจำกัด เพื่อถอนทหารออกจากเมืองบัคมุต แต่ทาง ISW ยังไม่สามารถยืนยันข้อมูลที่แน่ชัดได้ว่ากองทัพยูเครนตัดสินใจถอนทัพจริงหรือไม่
สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ยูเครนอาจถอนทัพออกจากที่นี่ เนื่องจากในการรบที่บักมุต ประธานาธิบดีปูตินใช้ทหารรับจ้างอย่างกลุ่มแวกเนอร์เป็นหลักในการรบ อย่างไรก็ดีกลุ่มนี้ไม่ได้มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับกระทรวงกลาโหมรัสเซีย
"แวกเนอร์" ขู่ถอนทัพ หากรัสเซียไม่ส่งกระสุนให้
หลักฐานหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความแตกแยกคือ การให้สัมภาษณ์ของเยฟเกนี หัวหน้ากลุ่มแวกเนอร์เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่ระบุว่า กลาโหมของรัสเซียพยายามบั่นทอนความพยายามของกลุ่มในการรบด้วยการไม่จัดส่งกระสุนและยุทโธปกรณ์ให้
ล่าสุด เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เยฟเกนี ปริโกชิน ได้ออกมาข่มขู่ประธานาธิบดีปูตินว่า หากกองทัพไม่ส่งกระสุนให้กลุ่มแวกเนอร์ กลุ่มแวกเนอร์จะถอนทัพออกจากเมืองบัคมุต และการถอนทัพในครั้งนี้จะทำให้แนวรบของรัสเซียพังทั้งหมด รวมถึงที่คาบสมุทรไครเมียด้วย
ที่น่าสนใจคือในวันที่แวกเนอร์ยังทำตามแผนไม่สำเร็จ และออกมาข่มขู่กองทัพรัสเซียบ่อยครั้ง ทางรัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียก็ปรากฎตัวออกสื่อบ่อยขึ้นในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาเช่นกัน
ภาพของเซอร์เก ชอยกู ที่ลงตรวจหน่วยทหารและมอบเหรียญรางวัลให้กับทหารรัสเซียที่แนวรบหนึ่งของแคว้นโดเนตสก์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
ขณะที่เมื่อวานนี้ ก็ปรากฏภาพของชอยกูไปเยี่ยมทหารในเมืองมาริอูปอล เมืองท่าที่สำคัญทางตะวันออกเฉียงใต้ที่รัสเซียยึดได้จากยูเครน ตั้งแต่เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
ท่ามกลางการสู้รบในเมืองบัคมุตที่ดุเดือดต่อเนื่องยาวนานกว่า 6 เดือน และสงครามที่ดำเนินมาเข้าสู่ปีที่ 2 นักวิชาการและผู้ติดตามสงคราม รวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพยูเครนให้ความเห็นว่าเป็นการต่อสู้ที่เหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ
หน่วยข่าวกรองยูเครนประเมิน รัสเซียอาวุธหมดเร็ว ๆ นี้
โดยคีรีโล บูดานอฟ หัวหน้าหน่วยข่าวกรองทางทหารของยูเครน ได้ออกมาเห็นความเห็นในเรื่องว่า การที่รัสเซียทำสงครามเต็มรูปแบบกับยูเครนเป็นการสูญเสียทรัพยากรมนุษย์ อาวุธ และสิ่งของต่าง ๆ ครั้งใหญ่
นอกจากนี้ หัวหน้าหน่วยข่าวกรองทางทหารของยูเครนยังประเมินเพิ่มเติมว่า กองทัพรัสเซียอาจเผชิญภาวะยุทธภัณฑ์และยุทโธกรณ์หมดคลังภายในช่วงสิ้นฤดูใบไม้ผลิ หรืออีกประมาณ 2-3 เดือนหลังจากนี้
กลาโหมสหราชอาณาจักรเผย รัสเซียนำรถถังเก่าออกมาใช้
นอกจากการประเมินของหัวหน้าหน่วยข่าวกรองยูเครนแล้ว กระทรวงกลาโหมของสหราชอาณาจักรก็ได้ประเมินเรื่องทรัพยากรในการรบของรัสเซียเช่นกัน
โดยหน่วยข่าวกรองของกระทรวงกลาโหมสหราชอาณาจักรรายงานว่า รัสเซียได้นำรถถัง T-64 ซึ่งถูกประจำการครั้งแรกเมื่อปี 1954 หรือ 60 ปีก่อนออกมาจากคลัง เพื่อชดเชยการสูญเสียรถถังในหน่วยรถถังต่าง ๆ ของกองทัพรัสเซีย รวมถึงหน่วยรถถังยามที่ 1 ซึ่งควรได้รับรถถังหลักประสิทธิภาพสูง อย่าง T-14 อาร์มาตา ตั้งแต่ปี 2021
กระทรวงกลาโหมสหราชอาณาจักร กล่าวว่า ตั้งแต่ที่รัสเซียเริ่มทำสงครามกับยูเครน กองทัพรัสเซียได้นำรถถัง T-62 กว่า 800 คันออกมาจากคลัง และถูกนำมาปรับแต่งเพื่อใช้ในการสู้กับยูเครน