ตั้งแต่กลางปี 2022 ที่ผ่านมา อินโดนีเซียได้เริ่มการก่อสร้าง “นูซันตารา (Nusantara)” เมืองหลวงแห่งใหม่ของประเทศแล้ว หลังจากประธานาธิบดี โจโก วิโดโด ประกาศว่าเมืองหลวงในปัจจุบันอย่างจาการ์ตาแออัดและมีมลพิษมากเกินจะรับไหวแล้ว รวมถึงเสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหว และมีแนวโน้มจมลงสู่ใต้ทะเลจากระดับน้ำที่สูงขึ้นเพราะภาวะโลกร้อน
นูซันตาราจะมีขาดใหญ่เป็น 2 เท่าของมหานครนิวยอร์กในสหรัฐฯ โดยขณะนี้ การก่อสร้างกำลังดำเนินอยู่ในป่าของเกาะบอร์เนียวตะวันออก
คืนชีพ “ไวรัสโบราณ” ถูกแช่แข็ง 48,500 ปี หาคำตอบยังแพร่เชื้อได้หรือไม่?
นักวิทย์สร้างไข่จากเซลล์หนูเพศผู้สำเร็จ ปูทางคู่รักชาย-ชายมีลูกของตัวเองได้
ทำไมต้องย้ายเมืองหลวง? กรณีศึกษาจากอินโดนีเซีย-อียิปต์
เจ้าหน้าที่ทางการอ้างว่า นูซันตาราจะเป็นเมืองสีเขียวแห่งอนาคตที่เต็มไปด้วยป่าไม้ สวนสาธารณะ และการผลิตอาหารที่ใช้ทรัพยากรพลังงานหมุนเวียน รวมถึงการจัดการขยะอัจฉริยะและอาคารสีเขียว และให้คำมั่นว่านี่จะเป็น “เมืองป่าไม้ที่ยั่งยืน” ซึ่งคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นหัวใจของการพัฒนา
สถาปัตยกรรมของเมืองได้รับแรงบันดาลใจจากหอคอยแบบเมืองสมัยใหม่ผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมของอินโดนีเซีย ทำเนียบประธานาธิบดีถูกออกแบบให้เป็นรูปร่างของครุฑ ซึ่งเป็นนกในตำนานและสัญลักษณ์ประจำชาติของอินโดนีเซีย
บาซูกิ ฮาดิมุลโจโน รัฐมนตรีกระทรวงโยธาธิการและเคหะของอินโดนีเซียกล่าวว่า ณ เดือนกุมภาพันธ์ โครงสร้างพื้นฐานของเมืองเสร็จสมบูรณ์ไปแล้ว 14%
ขณะนี้ คนงานก่อสร้างประมาณ 7,000 คนกำลังเคลียร์ ไถ และสร้างเฟสแรกของเมือง ปัจจุบันจะเห็นภาพของหอพักคนงาน ถนนสายหลัก และลานจอดเฮลิคอปเตอร์ ส่วนการก่อสร้างอาคารสำคัญ เช่น ทำเนียบประธานาธิบดี คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม 2024
สำนักข่าวเอพีได้เดินทางไปเยี่ยมชมสถานที่ก่อสร้างกรุงนูซันตาราเมื่อวานนี้ (8 มี.ค.) และเห็นดินที่เพิ่งพลิกใหม่ โดยมีรถขุดและปั้นจั่นอยู่รอบ ๆ
รัฐบาลกล่าวว่า กำลังดำเนินการก่อสร้างโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นการล้อมรั้วต้นไม้เอาไว้เพื่อป้องกันพวกมันจากเครื่องจักร มีการตั้งเรือนเพาะชำพืชสำหรับกระบวนการปลูกไม้ทดแทนต้นที่ต้องตัดไปเพื่อสร้างเมือง
อย่างไรก็ตาม หลังเริ่มก่อสร้างมาได้ไม่นาน โครงการเมืองหลวงใหม่กลับถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงจากนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและชนพื้นเมือง ซึ่งบอกว่าโครงการนี้กำลังทำให้สิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรมต่างหาก โดยการก่อสร้างกระทบที่อยู่อาศัยของสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ เช่น ลิงอุรังอุตัง และทำให้ชนพื้นเมืองต้องพลัดถิ่น
นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมออกมาเตือนว่า การสร้างมหานครแห่งใหม่จะเป็นการเร่งให้มีการตัดไม้ทำลายป่ามากขึ้น และยังสร้างผลกระทบต่อสัตว์ป่าหลายชนิด
ดวี ซาวุง ผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างพื้นฐานของ Indonesia Forum for Living Environment ซึ่งเป็นองค์กรสิ่งแวดล้อมที่ติดตามโครงการเมืองหลวงใหม่ กล่าวว่า แผนของรัฐบาลขาดการพิจารณาถึงสัตว์ป่าที่สำคัญของภูมิภาค เช่น อุรังอุตังและหมีหมา เพราะเมืองใหม่ตัดผ่านทางเดินของสัตว์ป่าพอดี
“ควรย้ายสัตว์เหล่านี้ก่อน แล้วจึงสร้างสิ่งก่อสร้าง แต่เนื่องจากต้องรีบสร้าง พวกเขาจึงสร้างพื้นที่โดยไม่ย้ายสัตว์ออกไปก่อน” เขากล่าว
นอกจากนี้ กลุ่มชนพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ในภูมิภาคนี้และสูญเสียที่ดินไปแล้วบางส่วนกำลังกลัวว่า การแผ่ขยายของเมืองหลวงใหม่อาจทำให้สิ่งต่าง ๆ แย่ลงไปอีก
เจ้าหน้าที่ให้คำมั่นว่า จะเคารพสิทธิของชนพื้นเมืองและชดเชยผู้ที่สูญเสียบ้าน เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกล่าวว่า พวกเขาจะตรวจสอบการอ้างสิทธิ์ในที่ดินทั้งหมดและยอมรับเอกสารหลักฐานใด ๆ ที่แสดงความเป็นเจ้าของ
แต่พื้นที่ส่วนใหญ่ของชนพื้นเมืองมักถูกส่งผ่านครอบครัวโดยไม่มีเอกสาร และไม่ใช่พื้นที่ทั้งหมดของชนพื้นเมืองที่จะได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการ จึงอาจเป็นไปได้ว่า จะมีชนพื้นเมืองจำนวนหนึ่งสูญเสียบ้านไปอย่างถาวรโดยไม่ได้รับการชดเชย
สิบุกดิน ผู้นำชนพื้นเมืองชุมชนหนึ่ง กล่าวว่า “เราไม่ต้องการย้ายที่อยู่ เราไม่ต้องการให้พวกเขาย้ายหลุมฝังศพบรรพบุรุษของเรา หรือเปลี่ยนแปลงหรือลบสถานที่ทางประวัติศาสตร์ของเรา”
ด้าน บัมบัง ซูซานโตโน หัวหน้าองค์การเมืองหลวงแห่งชาตินูซันตารา กล่าวว่า ชนพื้นเมืองมีทางเลือกสอง คือรับการชดเชยและย้ายถิ่นฐาน หรือรับการชดเชยพร้อมส่วนแบ่งการเป็นเจ้าของร้านค้าที่จะเปิดในเมือง
“เราจะโน้มน้าวพวกเขาอยู่เสมอและบอกพวกเขาเกี่ยวกับอนาคตของเมือง หวังว่าพวกเขาจะเข้าใจว่านี่เป็นไปเพื่อทุกคน” เขากล่าว
รัฐบาลมีแผนจะเปิดเมืองหลวงใหม่ส่วนแรกในวันที่ 17 ส.ค. 2024 เพื่อให้ตรงกับวันประกาศอิสรภาพของอินโดนีเซีย
“นูซันทาราคือเมืองสำหรับวันพรุ่งนี้ มันจะกลายเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวา ไม่ใช่แค่เมืองของรัฐบาล” ซูซานโตโนกล่าว
เรียบเรียงจาก AP News
ภาพจาก AP Photo/Achmad Ibrahim